ข้าใคร่ครวญดูแล้ว

1390 คำ
เว่ยหมิงได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะผายมือให้ซีเยว่นางกลับมานั่งเช่นเดิม “ข้ามีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนรู้” เว่ยหมิงเอ่ยเล่าเรื่องราวที่ระหว่างสองตระกูลได้ทำสัญญาร่วมกัน และการมาเยือนของกู้หยางครั้งนี้ ก็เพื่อจะหาบุตรสาวตระกูลเว่ยแต่งเข้าจวนตระกูลกู้ ซีเยว่ใบหน้าของนางเรียบเฉยมิได้แสดงท่าทีตกใจอันใด ในเมื่อนางรู้อยู่แล้วในเรื่องเหตุผลที่เขามาเยือนครั้งนี้ บุตรสาวของเว่ยหมิงคนอื่น พร้อมออกเรือนต่างก็มองมาทางกู้หยางอย่างคาดหวัง ด้วยคิดว่าเขาจะรับพวกนางสักคนเข้าตระกูล “คุณชายกู้ ท่านประสงค์ต้องการแต่งผู้ใดเข้าจวนรึ” อู๋ซื่อเอ่ยถามออกมา พร้อมทั้งปรายตามองไปที่ซีเยว่วูบหนึ่ง “ข้ามาใคร่ครวญดูแล้ว หากจะให้เหมาะสมก็ควรจะต้องแต่งคุณหนูใหญ่เว่ยขอรับ” เขาอมยิ้มมองมาทางซีเยว่วูบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองนางอู๋ซื่อ “ไม่ได้!!! ตอนแรกท่านมิได้เอ่ยออกมาเช่นนี้ ท่านต้องการแต่งอาเยว่มิใช่รึ” นางอู๋ซื่อลุกขึ้นกรีดร้องออกมาอย่างเสียภาพลักษณ์ของนาง หลิวชิงเบิกตากว้างมองเขาด้วยใบหน้าซีดขาว ซีเยว่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ หากนางได้ยินไม่ผิดตอนแรกเขาเอ่ยว่าต้องการแต่งกับนางเช่นนั้นรึ เว่ยหมิงสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด จะให้แต่งกับซีเยว่ก็มิได้ จะเป็นหลิวชิงก็ไม่ได้เช่นกัน ในเมื่อนางกำลังทาบทามอยู่กับตระกูลมู่ “เจ้าคิดดีแล้วเช่นนั้นรึ” เว่ยหมิงเอ่ยถามออกมา “พวกท่านให้ข้าคิดใคร่ครวญอีกครั้ง ข้าก็ทำตามที่พวกท่านบอกกล่าวแล้ว เหตุใดถึงยังมิได้อีก หรือว่าพวกท่านมิต้องการจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ขอรับ” กู้หยางเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย เว่ยหมิงถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก หากเขาจะทำสิ่งใดคงต้องใคร่ครวญผลได้เสียให้รอบคอบเสียก่อน “หากเจ้ายืนยันเช่นที่พูดก็แล้วแต่เจ้า อีกสองวันข้าจะให้คำตอบในเรื่องนี้” “ท่านพี่!!!” นางอู๋ซื่อร้องเสียงหลงออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “แจ้งเรื่องไปที่ตระกูลมู่ ยกเลิกเรื่องดูตัวของชิงชิงนางก่อน” เว่ยหมิงร้องบอกพ่อบ้านเว่ย “ไม่ได้นะเจ้าคะ!!!” นางอู๋ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างไม่ยอม ซีเยว่ได้แต่ยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ นางนั่งชมเรื่องสนุกเงียบๆ ในเมื่ออยากให้นางอยู่ชมต่อ นางก็จะเป็นผู้ชมที่ดี “คุณชายกู้ ข้าจะยกอาเยว่ให้ท่าน ส่วนชิงชิง ข้ายอมให้นางแต่งออกไปอยู่ที่เจียงซานไม่ได้” อู๋ซื่อเอ่ยออกมา “เงียบ!!! กลับเรือนของเจ้าไปเสีย เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง” เว่ยหมิงตวาดออกมาเสียงดัง จนบุตรคนอื่นและอนุที่ไม่เกี่ยวข้องต่างก็ขอตัวกลับเรือนของตนเองไป ซีเยว่ที่เห็นว่าหมดเรื่องของนางแล้วก็เอ่ยลาบิดา และกู้หยาง ก่อนจะเดินตามคนอื่นกลับเรือนไป “เจ้ายังไปไม่ได้” อู๋ซื่อเข้ามาดึงรั้งแขนของซีเยว่ไว้ “แม่ใหญ่ ข้าเจ็บเจ้าค่ะ” ซีเยว่นางถูกนางอู๋ซื่อใช้เล็บจิกเข้าไปในเนื้อของนาง “อาเฟิง เจ้าทำอันใด ปล่อยอาเยว่ประเดี๋ยวนี้” เว่ยหมิงลุกขึ้นจ้องมองอย่างไม่พอใจ หลิวชิงที่เห็นว่าบิดาเริ่มมีโทสะแล้ว นางจึงได้เดินเข้ามาดึงรั้งตัวของมารดานางออก “ท่านแม่ ปล่อยอาเยว่เจ้าค่ะ” นางกระซิบเสียงเบา เมื่อซีเยว่นางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ข้อมือขาวของนางก็ปรากฏรอยเล็บที่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย “ข้าไม่มีทางยินยอมอย่างเด็ดขาด คุณชายกู้ ท่านจะกลับคำเช่นนั้นรึ!!!” นางมองไปที่กู้หยางอย่างโกรธแค้น “น่าขันนัก ข้าเลือกคุณหนูรองพวกท่านก็มิยอม พอเลือกคุณหนูใหญ่ก็ยังเป็นเช่นนี้ หากตระกูลเว่ยมิต้องการจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ก็รีบแจ้งมาเสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะได้ไม่เสียเวลาอีก” เสียงเหยียบเย็นที่เอ่ยขึ้น ผู้ใดจะเชื่อว่าเขาจะมาจากตระกูลเล็กๆ ต่างเมือง ด้วยอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างของกู้หยาง ทำให้เว่ยหมิงและอู๋ซื่ออดคิดไม่ได้ว่า เขาน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย “ชิงชิง อาเยว่ พวกเจ้าเป็นผู้ที่คุณชายกู้เอ่ยปากอยากจะรับเข้าจวน หนึ่งในพวกเจ้ามีคนใดหรือไม่ที่ต้องการจะแต่งเข้าจวนตระกูลกู้” ในเมื่อหมดทางเลือกเว่ยหมิงจึงได้เอ่ยถามความสมัครใจจากบุตรทั้งสอง หากเรื่องที่เขาคิดจะไม่ทำตามสัญญาหมั้นหมายที่ให้ไว้กับคนตระกูลกู้หลุดออกไป ชื่อเสียงความดีที่สะสมมาทั้งหมดจะต้องพังทลายลง หากเรื่องนี้ถึงหูของฮ่องเต้ ไม่แคล้วเขาจะต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน หลิวชิงก้มหน้านิ่งมองพื้น นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับบิดาที่กำลังรอฟังคำตอบจากนางอยู่ นางอู๋ซื่อก็เหมือนอยากจะเอ่ยพูดแทนบุตรสาว แต่ถูกสายตาของเว่ยหมิงจ้องมองอย่างมุ่งร้ายเสียก่อน นางจึงได้แต่กลืนคำพูดกลับลงคอไป “ข้าไม่แต่งเจ้าค่ะ บุรุษใจโลเลที่เลือกคนนั้นทีคนนี้ที ข้าไม่ต้องการ” นางจ้องมองใบหน้าของกู้หยางอย่างเรียบเฉย แม้ใบหน้าของกู้หยางจะไม่แสดงออกว่าโกรธเคืองที่ซีเยว่เอ่ยตำหนิเขาออกมา แต่แววตากลับเปล่งประกายออกมาอย่างพอใจ เว่ยหมิงพยักหน้าอย่างพอใจ เขาเห็นด้วยกับที่ซีเยว่นางพูด หากกู้หยางเอ่ยในครั้งที่สองว่าต้องการแต่งกับซีเยว่ เขาคงจะพอใจมากกว่านี้ เว่ยหมิงคิดว่า คงเป็นเพราะเห็นใบหน้าของหลิวชิงและท่าทางที่อ่อนหวานของนาง จึงทำให้กู้หยางเปลี่ยนใจ “เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว คุณหนูรอง ในตอนแรกข้าต้องการแต่งเจ้าเป็นเรื่องจริง แต่บิดาของเจ้าไม่เห็นด้วย และยังเอ่ยเรื่องที่พูดคุยทาบทามหมั้นหมายเจ้าให้กับขุนนางในปกครองของเขาไว้แล้ว แล้วข้าจะกล้าแย่งชิงคู่หมั้นของผู้อื่นได้อย่างไร” เขาเน้นคำว่าคู่หมั้นของผู้อื่นให้ทุกคนฟัง ซีเยว่หันไปมองหน้าบิดาของนางอย่างไม่เข้าใจ ด้วยไม่ได้บอกกล่าวนางไว้เสียก่อน นางจะรู้เรื่องคู่หมั้นกำมะลอของนางได้อย่างไร “ชิงชิงของข้าก็กำลังจะหมั้นหมายกับตระกูลมู่ ท่านเลือกบุตรคนอื่นในจวนเถิด” อู๋ซื่อรีบเอ่ยออกมา เมื่อเห็นคำแก้ตัวของกู้หยาง หลิวชิงพยักหน้าน้อยๆ ของนางให้กับกู้หยาง ด้วยเห็นด้วยกับคำพูดของมารดา “เช่นนั้นรึ แต่ก็ยังมิได้มีการหมั้นหมายเกิดขึ้น เรื่องนี้ข้าจะให้ใต้เท้าเว่ยเป็นผู้เลือกก็แล้วกันว่าจะให้คุณหนูใหญ่หรือคุณหนูรองแต่งกับข้า มิเช่นนั้นแล้ว...ข้าคงต้องไปขอร้องทางการให้ช่วยตัดสินเรื่องนี้” เขากวาดสายตามองไปที่ทุกคนอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนพักของตน “ท่านพี่ แล้วจะทำเช่นใดดีเจ้าคะ” อู๋ซื่อหวาดกลัวไม่น้อย เรื่องในเรือนหลังหากเว่ยหมิงยังจัดการไม่ได้ ตำแหน่งขุนนางของเขาคงถึงคราวสั่นคลอนแล้ว “พวกเจ้ากลับเรือนไปก่อน เรื่องนี้ข้าขอคิดก่อน” เขาโบกมือไล่ทั้งสามคน ก่อนจะทรุดตัวนั่งอย่างหมดแรง ซีเยว่มองบิดาของนางวูบหนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงไปที่เรือน แม่นมที่รออยู่หน้าห้องโถงเดินเข้ามาช่วยประคองนางอย่างกังวล “แล้วจะทำเช่นใดดีเจ้าคะ” นางเอ่ยถามเสียงสั่นออกมา “ท่านอย่าเพิ่งกังวล ข้าว่าเรื่องนี้ท่านพ่อคงจัดการได้” ซีเยว่นางเองก็กังวลไม่น้อย ทั้งสองนายบ่าวเดินไปได้เพียงไม่ไกล เสียงของหลิวชิงที่อยู่ด้านหลังของพวกนางก็ร้องเรียกรั้งเอาไว้ “อาเยว่ ประเดี๋ยวก่อน พี่ขอพูดกับเจ้าสักคำ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม