บทที่ 6 คำพูดจากพี่ชาย

1391 คำ
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง รถคันหรูสีดำเงาก็เข้ามาจอดสนิทตรงลานจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลวอล์กเกอร์ที่มีรถหรูจอดเรียงรายอยู่หลายคัน ทั้งรถสปอร์ตสำหรับสองคน ทั้งรถตู้สำหรับไปไหนมาไหนกันหลายๆ คนและรถสำหรับสี่ที่นั่งแบบที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ตอนนี้อีกหลายคัน มาร์วินและพราวมุกเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน โดยที่หญิงสาวก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมพูดอะไรจนพวกเขาเดินเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ “กลับมาได้แล้วเหรอลูกชายตัวดี” ดารินทร์เอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นลูกชายเดินเข้ามาในห้อง “ผมกลับมาแล้ว” เสียงทุ้มของมาร์วินตอบกลับอย่างราบเรียบ “อ้าว แล้วนั่นเสื้อใครล่ะมุก ใส่เสื้อใครกลับมาละลูก” ดารินทร์หันไปมองพราวมุก “อ๋อ พอดีเกิดเรื่องที่มหาลัยนิดหน่อยค่ะแม่ รุ่นพี่เลยให้ยืมเสื้อคลุมมาใส่ไว้ก่อน” “เกิดอะไรขึ้นล่ะลูก” ดารินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย แต่เหมือนจะไม่ได้มีแค่ดารินทร์ที่อยากรู้ เพราะทั้งมาร์คอสและมาร์วินก็ยืนรอฟังคำตอบของหญิงสาวเหมือนกัน “มีคนมาเล่นบอลที่หน้าคณะค่ะ แล้วก็เตะมาทางมุกแต่มีพี่คนหนึ่งมายืนขวางไว้บอลเลยไม่โดนมุกค่ะ มุกถือน้ำปั่นอยู่น้ำมันเลยหกใส่เสื้อนักศึกษาค่ะ” พราวมุกตอบคำถามของมารดาพร้อมกับหยิบเสื้อสีขาวในถุงที่เธอขอจากร้านอาหารขึ้นมาให้พวกท่านดู “แล้วหนูเจ็บตรงไหมไหน” “ไม่เลยค่ะ” “ดีแล้วลูก” ดารินทร์ลูบไหล่แบบบางของพราวมุก “ส่วนลูกตามแม่กับพ่อเข้าไปคุยกันในห้องทำงานหน่อย” ดารินทร์ไม่อยากดุด่าลูกต่อหน้าคนอื่นให้ลูกชายรู้สึกอับอาย พูดจบดารินทร์ก็รั้งสามีให้เดินไปยังห้องทำงานภายในคฤหาสน์ทันที มาร์วินไม่ได้เดินตามเข้าไปแต่เขาเอ่ยขึ้นอย่างกระแทกกระทั้นกับร่างบางที่ยืนถือเสื้อขาวอยู่ “ไม่ใช่ว่าเธอโดดเรียนไปกับผู้ชายมาจนเสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ก็เลยจัดฉากเอาน้ำแดงมาราดเสื้อตัวเองหรอกนะ” “ห๊ะ! มุกจะทำแบบนั้นไปทำไมคะ” พราวมุกอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน เธอรู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ชอบเธอ แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีความคิดแบบนี้กับเธอ มาร์วินมองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นชายหนุ่มก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของบิดาทันที ส่วนคนตัวเล็กก็ถอนหายใจออกอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ “เกิดอะไรขึ้นคะคุณหนู” จันทรัศม์เข้ามาในห้องโถงเห็นพราวมุกกำลังยืนถือเสื้ออยู่กลางห้อง สาวแก่จึงรีบตรงไปหาพราวมุกพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ป้าจันทร์…เกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ” “น่าจะซักไม่ออกนะคะคุณหนู เอามาค่ะเดี๋ยวป้าลองไปซักมือดูให้ก่อนนะคะ” “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” พราวมุกจึงยื่นเสื้อนักศึกษาสีขาวไปให้จันทรัศม์ ในห้องทำงานของคฤหาสน์ ร่างสูงใหญ่ของมาร์คอสนั่งอยู่ตรงโซฟาโดยมีดารินทร์นั่งอยู่ข้างๆ มาร์วินเดินเข้ามาในห้องทำงานและย่อตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามของบิดาและมารดา “มีอะไรครับแม่” “ทำไมลูกถึงไม่กลับบ้านเลย” ดารินทร์เอ่ยถามทันทีที่มาร์วินนั่งลงบนโซฟา “ผมทำงาน” “ไม่ใช่ว่ามัวแต่มั่วกับพวกสาวๆ ในฮาเร็มของลูกอยู่หรือไง” “แม่…นั่นมันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายไหม” “ลูกไปยุ่งแต่กับผู้หญิงแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่ลูกจะมีเมียมีครอบครัวสักทีละ แม่กับพ่ออยากอุ้มหลานจะแย่แล้วนะ” “ผมยังไม่อยากมีเมีย” “มาร์วินแกฟังพ่อนะ แกอายุเลขสามแล้วแกต้องหาเมียได้แล้ว ไม่ใช่เอาแต่ความสนุกไปวันๆ แบบนี้” มาร์คอสที่นั่งฟังมาสักพักแล้วเอ่ยขึ้นเสียงหนักแน่น เขารู้ว่าลูกชายของตัวเองดื้อรั้นและเอาแต่ใจแค่ไหน “พ่อก็เอากับแม่ด้วยเหรอเนี่ย” มาร์วินตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “เอาเถอะๆ พ่อไม่ได้จะบังคับเรื่องนี้กับแกหรอก แต่พ่ออยากให้แกกลับบ้านบ้าง น้องเป็นผู้หญิงคนเดียวแกควรจะอยู่เป็นเพื่อนน้องบ้าง” “แต่พราวมุกโตแล้วนะพ่อ อีกอย่างบอดี้การ์ดก็เต็มรอบบ้านขนาดนี้ยังจะกลัวอะไรกันอีก” “บอดี้การ์ดกับคนในครอบครัวไม่เหมือนกันวิน แกหัดสงสารน้องบ้างสิ แกก็รู้ดีนิว่าน้องต้องเจออะไรมาบ้าง” “ก็ผมทำงาน” “ต่อไปนี้ไม่ว่าแกจะทำงานดึกดื่นแค่ไหน แกก็ต้องกลับมานอนที่บ้านห้ามไปนอนที่เพนท์เฮาส์” “ครับ” มาร์วินตอบกลับบิดาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ที่จริงแล้วเขาจะไม่ทำตามที่พวกท่านต้องการก็ได้ แต่เขาแค่เบื่อไม่อยากจะมาต่อความยาวสาวความยืดให้มันมากความก็เท่านั้น “งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ” “เช้าก็มากินข้าวให้พร้อมหน้าพร้อมตากันด้วยนะลูก” ดารินทร์เอ่ย “ครับ” พูดจบมาร์วินก็ลุกขึ้นจากโซฟาและเดินออกไปจากห้องทำงานของบิดาทันที “เมื่อไหร่ตาวินจะเปิดใจยอมรับพราวมุกเป็นน้องสาวบ้างนะ” ดารินทร์หันไปมองหน้าสามี “ผมก็เข้าใจลูกนะคุณ จากที่เคยเป็นลูกคนเดียวมาตลอด แต่อยู่ดีๆ ก็ต้องมามีน้องสาวแบบไม่ทันตั้งตัว แกก็คงรู้สึกไม่โอเคเหมือนกันแหละ” มาร์คอสตอบกลับภรรยาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ “แต่มันก็ผ่านมาเกือบสิบห้าปีแล้วนะคะ แกก็ไม่น่าจะยึดติดขนาดนี้” “สักวันความดีของพราวมุกก็จะทำให้มาร์วินยอมรับในตัวของเธอเองแหละคุณ” มาร์วินเดินกลับมาที่คฤหาสน์ส่วนตัวของตัวเองอย่างรวดเร็ว วันนี้เขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีมาทั้งวัน อยากจะระบายอารมณ์แต่ก็โดนสั่งห้ามไม่ให้ไปนอนเพนท์เฮาส์อีก แต่จะให้เรียกเด็กมาที่คฤหาสน์ก็กลัวว่าแม่ของเขาจะรู้แล้วอาละวาดบ้านพังอีกเป็นแน่ ร่างกำยำเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ที่ไม่มีคนใช้ยืนตามจุดต่างๆ เหมือนดั่งเช่นคฤหาสน์ใหญ่ของบิดามารดา เพราะเขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในบ้านของเขา นอกจากบอดี้การ์ดคนสนิทเพียงเท่านั้น “โจฮัน ตามกูเข้าไปในห้องทำงานหน่อย” มาร์วินเอ่ยเรียกมือขวาของเขาให้เข้าไปที่ห้องทำงาน “ครับนาย” โจฮัน มือขวาหน้าฝรั่งเอ่ยพร้อมกับก้มหัวให้เจ้านายหนึ่งที หลังจากนั้นมาร์วินก็เดินตรงไปยังห้องทำงานอย่างรวดเร็ว โจฮันเดินตามหลังเจ้านายมาติดๆ ภายในคฤหาสน์ส่วนตัวของมาร์วินถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทันสมัยคุมโทนสีขาวเทาดำ ถึงจะเป็นคฤหาสน์รองแต่ก็มีความใหญ่โตพอๆกับคฤหาสน์หลักเลยทีเดียว “เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงไปดูพื้นที่ตรงนี้มาหน่อยว่าเหมาะกับการจะเปิดห้างใหม่ไหม” “ครับนาย” “แล้วพรุ่งนี้ช่วงเย็น นัดนางแบบที่ชื่อเจนนี่ให้มารอกูที่เพนท์เฮาส์ด้วย” “ไม่เอาคนที่ชื่ออุษาแล้วเหรอครับนาย” “ไม่ล่ะ กูรู้สึกว่าเธอเริ่มจะขออะไรมากเกินไปละ กูรำคาญ” มาร์วินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่เรื่องมากและพยายามจะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ชายหนุ่มเรียกผู้หญิงพวกนั้นก็เพื่อจะระบายความใคร่ของตัวเองเท่านั้น พอเสร็จแล้วเขาก็จ่ายเงินให้อย่างงาม แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนที่เริ่มทำตัวนอกเหนือจากเรื่องบนเตียงเขาจะเลิกเรียกใช้งานเธอทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม