บทที่ 3 พี่ชายบุญธรรม

1373 คำ
มาร์วิน วอล์กเกอร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่งในประเทศไทยอีกทั้งยังมีอสังหาริมทรัพย์มากมาย อายุ 33 ปี นัยน์ตาสีฟ้าครามเหมือนดั่งมีพายุหรือหมอกสีฟ้าในดวงตาคมกริบนั้น เรือนผมสีดำเข้ม หน้าตาหล่อเหลาดั่งเทพบุตร แต่นิสัยของชายหนุ่มทั้งอารมณ์ร้อนและดิบเถื่อน ร่างกำยำยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องนอนภายในเพนท์เฮาส์หรูชั้นบนสุดของโรงแรมตระกูลแคสเซียส ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นของ คาเดน แคสเซียส เพื่อนในกลุ่มของเขาเอง ก่อนที่คาเดนจะสร้างโรงแรมนี้ขึ้นมาเขาเคยออกปากไปว่าเขาอยากได้เพนท์เฮาส์ไว้พักผ่อนเวลาที่เขาไม่อยากกลับไปที่คฤหาสน์ พอมันมีโปรเจกต์สร้างที่นี่ขึ้นมา ชายหนุ่มจึงขอซื้อเพนท์เฮาส์ชั้นบทสุดนี้เอาไว้ทันที โรงแรมของตระกูลแคสเซียสนั้นก็มีมากมายหลายแห่งทั่วประเทศพอๆ กับห้างสรรพสินค้าของเขานั่นแหละ ฟู่วว มาร์วินสูบบุหรี่เข้าไปเต็มปอดและพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างช้าๆ ร่างกำยำสมบูรณ์แบบมีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยไปทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวสอบ ผิวขาวเนียนเหมือนผิวของผู้หญิงพร้อมกับรอยสักรูปหมาป่าตัวใหญ่สีดำที่มีนัยน์ตาสีฟ้าครามคมเข้มอยู่บนอกข้างขวาของเขา “ตื่นนานแล้วเหรอคะวิน” เสียงหวานของอุษา นางแบบหุ่นเซ็กซี่สาวไทยหน้าตาคมเข้มเอ่ยขึ้น เรือนร่างเปลือยเปล่ารอยดูดสีแดงเป็นจ้ำๆ เต็มตัวไปหมดมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่สีดำสนิทปกปิดร่างอวบอิ่มของเธอเอาไว้ เธอค่อยๆ ยันกายขึ้นมานั่งอย่างยากลำบากเพราะอาการปวดหนืดตรงจุดสงวนจากศึกรักที่ร้อนแรงเมื่อคืนนี้ “อือ” มาร์วินหันไปมองร่างเล็กชั่วครู่และหันกลับมาสูบบุหรี่ต่อให้หมดม้วน โดยที่เขาเองก็ไม่ได้สนใจเธอมากเท่าไหร่ เมื่อชายหนุ่มสูบบุหรี่จนหมดม้วนแล้ว เขาก็กดบุหรี่ที่เหลืออยู่แค่นิดเดียวบี้ลงกับที่เขี่ยบุหรี่ พ่นควันออกจนหมดปอด เขาจึงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนโทนสีเทาดำของตัวเองและมาหยุดลงตรงข้างเตียงใหญ่ “หิวไหมคะวิน ษาสั่งอาหารขึ้นมาให้ไหม” “ไม่ต้อง” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความดุดันน่าเกรงขาม “อมให้แตก” หญิงสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็คลี่ยิ้มออกมา เธอสะบัดผ้าห่มออกจากร่างเปลือยเปล่าและก้าวลงจากเตียงไปนั่งย่อตัวลงที่พื้นเย็นเฉียบ มือบางลูบไล้ไปทั่วกล้ามเนื้อหน้าท้องกำยำ ก่อนที่เธอจะใช้เรียวปากเล็กกัดที่ปมผ้าขนหนูพันเอวสอบและดึงรั้งมันออกด้วยปาก ผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวร่วงล้นลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง แท่งเอ็นยาวใหญ่ขยายพองตัวกระตุกหงึกๆ อยู่ตรงหน้าหญิงสาว อุษาไม่รอช้า เธอแลบลิ้นออกมาเลียวนอยู่ตรงหัวหยักสีแดงก่ำอย่างช่ำชอง มือเล็กกำรอบท่อนลำยาวใหญ่พร้อมกับชักรูดขึ้นลงช้าๆ มือหนาเลื่อนมาลูบหัวคนตัวเล็กที่กำลังดูดเลียความเป็นชายของเขาอยู่ อุษาถือว่าเป็นคู่นอนที่ใช้ได้เพราะเธอทั้งรู้งานทั้งลีลาเด็ดเร้าใจจนเขาต้องเรียกหาเธอบ่อยๆ หญิงสาวเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จากช้าๆ เน้นๆ เปลี่ยนเป็นรัวเร็ว เรียวปากเร็วอ้าอมท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปทั้งลำแต่เพราะขนาดที่ใหญ่กว่ามาตรฐานจึงทำให้เธอไม่สามารถกลืนกินมันเข้าไปได้จนสุด “อึก อึก อ๊อก อ๊อก” “ซี๊ดด แรงอีก อื้อออ” มือหนากดหัวหญิงสาวพร้อมกับดันสะโพกหนาบดเบียดเข้ากับโพรงปากเล็กจนอุษาน้ำหูน้ำตาไหลเพราะจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ หญิงสาวใช้ปากปรนเปรอให้เขาอยู่ได้ไม่นานชายหนุ่มก็เสร็จสมพุ่งน้ำกามขาวข้นเต็มปากเธอ อุษากลืนกินมันจนหมดไม่เหลือสักหยด จากนั้นชายหนุ่มก็ยกร่างหญิงสาวให้นอนอ้าขาอยู่บนเตียงใหญ่ เขาไม่ลืมที่จะเอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางอนามัยขึ้นมาจากโต๊ะข้างหัวเตียง “ไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะวิน” “ถ้าสดก็อด” มาร์วินเอ่ยเสียงเข้ม “ษาล้อเล่นค่ะ” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มไม่คิดจะสดกับเธอ ทุกครั้งที่มีอะไรกันเขาก็ต้องป้องกันตัวเองตลอด แต่เธอพูดออกไปเผื่อเขาจะยอมใจอ่อนบ้าง ชายหนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูดเท่าไหร่ มาร์วินใช้ปากฉีกซองถุงยางอนามัยและใช้นิ้วโป้งดันจุกถุงยางเล็กน้อยก่อนจะสวมทับครอบคลุมลงมาที่แท่งเอ็นใหญ่ร้อน มาร์วินไม่รอช้า เขาจ่อหัวหยักไว้ที่รูเล็กของสามเหลี่ยมโหนกนูนและดันเขาไปจนสุดทางรักทีเดียว พรวดด! หลังจากนั้นสองร่างก็โหมกระหน่ำอารมณ์พิศวาสใส่กันอย่างดิบเถื่อน ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นดุดันและรุนแรงโดยไม่สนใจว่าคู่นอนของเขาจะเจ็บหรือฉีกขาดหรือเปล่า เขาสนใจแค่ความสุขและได้ระบายความใคร่ของตัวเองเท่านั้น เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง มาร์วินตอกอัดใส่ร่องสาวอย่างหนักหน่วงจนเสร็จสมไปอีกสองรอบติด ชายหนุ่มผละออกจากร่างอวบอิ่มเปลือยเปล่าที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกว้าง มือหนาดึงรั้งถุงยางอนามัยออกจากแท่งเอ็นร้อนพร้อมกับหยิบกระดาษชำระบนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาห่อถุงยางอนามัยเอาไว้ ก่อนจะโยนทิ้งลงถังขยะไปอย่างไม่ไยดี “กลับไปได้แล้ว” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ษาเพลียมากเลยค่ะ ษาขอนอนพักก่อนได้ไหมคะ” “ฉันไม่ชอบพูดซ้ำๆ หลายรอบ” “ปะ..ไปแล้วค่ะ ไปแล้ว” พูดจบร่างอวบอิ่มก็รีบกุลีกุจอยันกายลุกขึ้นและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็วอย่างยากลำบากเพราะความเจ็บปวดกลางกายสาว มาร์วินคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นห้องนอนขึ้นมาพันเอวสอบเอาไว้เหมือนเดิม “เดี๋ยวให้คนจัดการโอนเงินเข้าไปให้” “ขอบคุณค่ะ มีอะไรก็โทรเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” อุษารีบเก็บกระเป๋าแล้วก้าวเดินออกจากห้องนอนของมาร์วินไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเมื่อได้อยู่คนเดียวในห้องก็ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างพลางมองไปที่เพดานสีดำเทาที่มีโคมไฟราคาหลายล้านประดับประดาอยู่ มาร์วินพักหายใจอยู่ได้แค่ชั่วครู่เท่านั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ครืดด ครืดดด ชายหนุ่มถอนหายใจออกยาวๆ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู มือหนากดรับสายทันทีที่เห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือบิดาของเขาเอง “ว่าไงครับพ่อ” ‘แกอยู่ไหน’ มาร์คอส ปลายสายเอ่ย “อยู่เพนท์เฮาส์ครับ” ‘พ่อกับแม่กลับมาแล้ว’ “กลับมาเมื่อไหร่ผมไม่เห็นรู้เลย” ‘แกจะรู้ได้ไงล่ะ ก็แกไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือน’ “ลูกสาวของคุณพ่อคงโทรไปฟ้องสินะ” ‘ไม่มีใครฟ้องพ่อทั้งนั้นแหละ กลับบ้านเดี๋ยวนี้ แม่แกโมโหมาก เรามีเรื่องต้องคุยกัน’ “เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับ วันนี้ผมต้องพาเพื่อนไปดูพื้นที่ห้างก่อนเพราะมันจะเปิดช็อปเครื่องเพชรใหม่” มาร์คอสตัดสายไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ทำให้มาร์วินถอนหายใจออกยาวด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นร่างกำยำก็เดินไปตรงระเบียงและหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบต่อพร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่มีตึกอาคารสูงใหญ่เรียงรายกันเต็มไปหมดจนสุดลูกหูลูกตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม