มาร์วิน วอล์กเกอร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่งในประเทศไทยอีกทั้งยังมีอสังหาริมทรัพย์มากมาย อายุ 33 ปี นัยน์ตาสีฟ้าครามเหมือนดั่งมีพายุหรือหมอกสีฟ้าในดวงตาคมกริบนั้น เรือนผมสีดำเข้ม หน้าตาหล่อเหลาดั่งเทพบุตร แต่นิสัยของชายหนุ่มทั้งอารมณ์ร้อนและดิบเถื่อน
ร่างกำยำยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องนอนภายในเพนท์เฮาส์หรูชั้นบนสุดของโรงแรมตระกูลแคสเซียส ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นของ คาเดน แคสเซียส เพื่อนในกลุ่มของเขาเอง ก่อนที่คาเดนจะสร้างโรงแรมนี้ขึ้นมาเขาเคยออกปากไปว่าเขาอยากได้เพนท์เฮาส์ไว้พักผ่อนเวลาที่เขาไม่อยากกลับไปที่คฤหาสน์ พอมันมีโปรเจกต์สร้างที่นี่ขึ้นมา ชายหนุ่มจึงขอซื้อเพนท์เฮาส์ชั้นบทสุดนี้เอาไว้ทันที โรงแรมของตระกูลแคสเซียสนั้นก็มีมากมายหลายแห่งทั่วประเทศพอๆ กับห้างสรรพสินค้าของเขานั่นแหละ
ฟู่วว
มาร์วินสูบบุหรี่เข้าไปเต็มปอดและพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างช้าๆ ร่างกำยำสมบูรณ์แบบมีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยไปทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวสอบ ผิวขาวเนียนเหมือนผิวของผู้หญิงพร้อมกับรอยสักรูปหมาป่าตัวใหญ่สีดำที่มีนัยน์ตาสีฟ้าครามคมเข้มอยู่บนอกข้างขวาของเขา
“ตื่นนานแล้วเหรอคะวิน”
เสียงหวานของอุษา นางแบบหุ่นเซ็กซี่สาวไทยหน้าตาคมเข้มเอ่ยขึ้น เรือนร่างเปลือยเปล่ารอยดูดสีแดงเป็นจ้ำๆ เต็มตัวไปหมดมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่สีดำสนิทปกปิดร่างอวบอิ่มของเธอเอาไว้ เธอค่อยๆ ยันกายขึ้นมานั่งอย่างยากลำบากเพราะอาการปวดหนืดตรงจุดสงวนจากศึกรักที่ร้อนแรงเมื่อคืนนี้
“อือ”
มาร์วินหันไปมองร่างเล็กชั่วครู่และหันกลับมาสูบบุหรี่ต่อให้หมดม้วน โดยที่เขาเองก็ไม่ได้สนใจเธอมากเท่าไหร่
เมื่อชายหนุ่มสูบบุหรี่จนหมดม้วนแล้ว เขาก็กดบุหรี่ที่เหลืออยู่แค่นิดเดียวบี้ลงกับที่เขี่ยบุหรี่ พ่นควันออกจนหมดปอด เขาจึงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนโทนสีเทาดำของตัวเองและมาหยุดลงตรงข้างเตียงใหญ่
“หิวไหมคะวิน ษาสั่งอาหารขึ้นมาให้ไหม”
“ไม่ต้อง” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความดุดันน่าเกรงขาม
“อมให้แตก”
หญิงสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็คลี่ยิ้มออกมา เธอสะบัดผ้าห่มออกจากร่างเปลือยเปล่าและก้าวลงจากเตียงไปนั่งย่อตัวลงที่พื้นเย็นเฉียบ
มือบางลูบไล้ไปทั่วกล้ามเนื้อหน้าท้องกำยำ ก่อนที่เธอจะใช้เรียวปากเล็กกัดที่ปมผ้าขนหนูพันเอวสอบและดึงรั้งมันออกด้วยปาก ผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวร่วงล้นลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง แท่งเอ็นยาวใหญ่ขยายพองตัวกระตุกหงึกๆ อยู่ตรงหน้าหญิงสาว
อุษาไม่รอช้า เธอแลบลิ้นออกมาเลียวนอยู่ตรงหัวหยักสีแดงก่ำอย่างช่ำชอง มือเล็กกำรอบท่อนลำยาวใหญ่พร้อมกับชักรูดขึ้นลงช้าๆ
มือหนาเลื่อนมาลูบหัวคนตัวเล็กที่กำลังดูดเลียความเป็นชายของเขาอยู่ อุษาถือว่าเป็นคู่นอนที่ใช้ได้เพราะเธอทั้งรู้งานทั้งลีลาเด็ดเร้าใจจนเขาต้องเรียกหาเธอบ่อยๆ
หญิงสาวเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จากช้าๆ เน้นๆ เปลี่ยนเป็นรัวเร็ว เรียวปากเร็วอ้าอมท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปทั้งลำแต่เพราะขนาดที่ใหญ่กว่ามาตรฐานจึงทำให้เธอไม่สามารถกลืนกินมันเข้าไปได้จนสุด
“อึก อึก อ๊อก อ๊อก”
“ซี๊ดด แรงอีก อื้อออ”
มือหนากดหัวหญิงสาวพร้อมกับดันสะโพกหนาบดเบียดเข้ากับโพรงปากเล็กจนอุษาน้ำหูน้ำตาไหลเพราะจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ
หญิงสาวใช้ปากปรนเปรอให้เขาอยู่ได้ไม่นานชายหนุ่มก็เสร็จสมพุ่งน้ำกามขาวข้นเต็มปากเธอ อุษากลืนกินมันจนหมดไม่เหลือสักหยด
จากนั้นชายหนุ่มก็ยกร่างหญิงสาวให้นอนอ้าขาอยู่บนเตียงใหญ่ เขาไม่ลืมที่จะเอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางอนามัยขึ้นมาจากโต๊ะข้างหัวเตียง
“ไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะวิน”
“ถ้าสดก็อด” มาร์วินเอ่ยเสียงเข้ม
“ษาล้อเล่นค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มไม่คิดจะสดกับเธอ ทุกครั้งที่มีอะไรกันเขาก็ต้องป้องกันตัวเองตลอด แต่เธอพูดออกไปเผื่อเขาจะยอมใจอ่อนบ้าง
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูดเท่าไหร่ มาร์วินใช้ปากฉีกซองถุงยางอนามัยและใช้นิ้วโป้งดันจุกถุงยางเล็กน้อยก่อนจะสวมทับครอบคลุมลงมาที่แท่งเอ็นใหญ่ร้อน
มาร์วินไม่รอช้า เขาจ่อหัวหยักไว้ที่รูเล็กของสามเหลี่ยมโหนกนูนและดันเขาไปจนสุดทางรักทีเดียว
พรวดด!
หลังจากนั้นสองร่างก็โหมกระหน่ำอารมณ์พิศวาสใส่กันอย่างดิบเถื่อน ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นดุดันและรุนแรงโดยไม่สนใจว่าคู่นอนของเขาจะเจ็บหรือฉีกขาดหรือเปล่า เขาสนใจแค่ความสุขและได้ระบายความใคร่ของตัวเองเท่านั้น
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง มาร์วินตอกอัดใส่ร่องสาวอย่างหนักหน่วงจนเสร็จสมไปอีกสองรอบติด ชายหนุ่มผละออกจากร่างอวบอิ่มเปลือยเปล่าที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกว้าง
มือหนาดึงรั้งถุงยางอนามัยออกจากแท่งเอ็นร้อนพร้อมกับหยิบกระดาษชำระบนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาห่อถุงยางอนามัยเอาไว้ ก่อนจะโยนทิ้งลงถังขยะไปอย่างไม่ไยดี
“กลับไปได้แล้ว” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ษาเพลียมากเลยค่ะ ษาขอนอนพักก่อนได้ไหมคะ”
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำๆ หลายรอบ”
“ปะ..ไปแล้วค่ะ ไปแล้ว”
พูดจบร่างอวบอิ่มก็รีบกุลีกุจอยันกายลุกขึ้นและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็วอย่างยากลำบากเพราะความเจ็บปวดกลางกายสาว
มาร์วินคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นห้องนอนขึ้นมาพันเอวสอบเอาไว้เหมือนเดิม
“เดี๋ยวให้คนจัดการโอนเงินเข้าไปให้”
“ขอบคุณค่ะ มีอะไรก็โทรเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
อุษารีบเก็บกระเป๋าแล้วก้าวเดินออกจากห้องนอนของมาร์วินไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเมื่อได้อยู่คนเดียวในห้องก็ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างพลางมองไปที่เพดานสีดำเทาที่มีโคมไฟราคาหลายล้านประดับประดาอยู่
มาร์วินพักหายใจอยู่ได้แค่ชั่วครู่เท่านั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
ครืดด ครืดดด
ชายหนุ่มถอนหายใจออกยาวๆ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู มือหนากดรับสายทันทีที่เห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือบิดาของเขาเอง
“ว่าไงครับพ่อ”
‘แกอยู่ไหน’ มาร์คอส ปลายสายเอ่ย
“อยู่เพนท์เฮาส์ครับ”
‘พ่อกับแม่กลับมาแล้ว’
“กลับมาเมื่อไหร่ผมไม่เห็นรู้เลย”
‘แกจะรู้ได้ไงล่ะ ก็แกไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือน’
“ลูกสาวของคุณพ่อคงโทรไปฟ้องสินะ”
‘ไม่มีใครฟ้องพ่อทั้งนั้นแหละ กลับบ้านเดี๋ยวนี้ แม่แกโมโหมาก เรามีเรื่องต้องคุยกัน’
“เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับ วันนี้ผมต้องพาเพื่อนไปดูพื้นที่ห้างก่อนเพราะมันจะเปิดช็อปเครื่องเพชรใหม่”
มาร์คอสตัดสายไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ทำให้มาร์วินถอนหายใจออกยาวด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นร่างกำยำก็เดินไปตรงระเบียงและหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบต่อพร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่มีตึกอาคารสูงใหญ่เรียงรายกันเต็มไปหมดจนสุดลูกหูลูกตา