ตอนที่ 6
หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะเล่าความจริงให้เขาฟังว่าเธอถูกศรันย์แฟนหนุ่มบอกเลิก เพราะเธอจับได้คาหนังคาว่าเขาแอบนอกใจเธอ ตั้งแต่เรียนจบเธอเปิดบริษัททำธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์กับแฟนหนุ่ม พอกิจการเริ่มไปได้ดีก็จ้างแอดมินเป็นผู้หญิงหลายคนเข้ามาเพิ่มแรก ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เตยหอมเล่าว่าเธอได้คบหาดูใจกับศรันย์แฟนหนุ่มมาได้เกือบสองปีตั้งแต่เธอเรียนจบ และเมื่อเดือนที่ผ่านมาแฟนหนุ่มของเธอก็ได้ขอเธอแต่งงาน ทำให้ความรักของทั้งคู่ดูเหมือนจะไปได้สวย หญิงสาวเล่ามาถึงตรงนี้ก็ร้องไห้ ทิวัตถ์คอยปลอบอยู่ข้าง ๆ และไม่ต้องการให้เธอเล่าต่อเพราะเห็นหญิงสาวร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ
แต่แล้วเธอก็กัดฟันเล่าต่อไป จนมาถึงเรื่องราวของเธอที่มันกลับตาลปัตร เพราะเพิ่งจับได้ว่าแฟนหนุ่มแอบนอกใจไปมีหญิงอื่น โดยเธอเล่าว่าตั้งใจเคลียร์งานและตามมาเซอร์ไพรส์ศรันย์แฟนหนุ่มถึงเชียงใหม่ แต่พอเปิดห้องพักกลับเห็นเขากำลังพลอดรักอยู่กับรุ้งระวีย์สาวแอดมินที่ทั้งคู่จ้างมาทำงานในบริษัท
เตยหอมเล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้รุ้งรวีย์สาวแอดมินได้มาขอลาหยุดงานกับเธอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าทั้งสองจะแอบนัดมาพบกันถึงที่นี่ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอช็อกและเสียใจมาก แถมระยะหลังมานี้ศรันย์แฟนหนุ่มก็ยังสร้างหนี้สินในบริษัทเอาไว้ให้เธอมากมายและก็บอกอีกว่าหนี้สินทั้งหมดเขาจะไม่ช่วยเธอชดใช้เพราะมันเป็นชื่อของเธอเพียงคนเดียว
“หนี้ของคุณมันเกิดจากเขาคนเดียวหรือเปล่าครับ”
“เราเป็นหนี้ในระบบร่วมหลักล้านบาทภายใต้ชื่อของฉันค่ะ”
“ผมเสียใจด้วยนะ แล้วเขาจะไม่ช่วยรับผิดชอบหนี้สินให้คุณเลยเหรอ” ทิวัตถ์เอ่ยถาม
“เขาอ้างว่าฉันเป็นคนกู้เงินทั้งหมดค่ะ” เตยหอมตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม ทิวัตถ์จึงรีบปลอบ
“ไม่เป็นไรครับ คุณเริ่มต้นใหม่นะ” ทิวัตถ์ให้กำลังใจหญิงสาว เล่ามาถึงตรงนี้เขาพอจะรู้ถึงสาเหตุที่เธอไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้วล่ะ
“ฉันเกิดใหม่ง่ายกว่าค่ะ หนี้สินเกือบสิบกว่าล้าน ลำพังตัวคนเดียวคงไม่มีปัญญา”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมจะช่วยคุณเอง ถ้าคุณทำงานกับผม ผมจะช่วยปลดหนี้ให้คุณเอง” เขาเสนอ
“คุณต้องบ้าหรือไม่ก็เสียสติไปแล้ว ๆ เงินมันไม่ใช่น้อย ๆ นะคุณ”
“ผมไม่ได้บ้า และก็ไม่ได้เสียสติ ผมให้สัญญาว่าจะช่วยเรื่องนี้สินของคุณ ภายใต้เงื่อนไขของผม”
“แล้วคุณจะให้ฉันเริ่มงานวันไหนคะ” เธอถามด้วยความมุ่งมั่น
“ไม่เป็นไรครับ..ช่วงนี้ผมให้คุณพักอยู่กับผมไปก่อน เอาไว้คุณพร้อมเมื่อไหร่แล้วเราค่อยมาเริ่มงานกัน”
“แล้วแม่กับน้องสาวคุณจะไม่ว่าฉันเหรอคะ” ชายหนุ่มยิ้ม
“ก็อย่างที่ผมบอกไงครับ...ผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ปกติผมอยู่โรงแรมถ้าคุณตกลงที่จะร่วมงานกับผม ผมจะให้คุณอยู่ที่โรงแรมจะได้สะดวกเวลาทำงาน” เขาเสนอ
“ขอบคุณค่ะ” เขามองเธอด้วยความสงสาร แล้วจู่ ๆ เธอก็เบียดกายหันมาโอบกอดเขาด้วยความดีใจ เขาสัมผัสได้ถึงเส้นผมที่เปียกชื้นของเธอที่มันยังหลงเหลืออยู่ ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นไปหยิบไดร์มาจัดการเป่าผมให้เธอ แล้วก็ทำเอาหัวใจของเขาหวั่นไหวราวกับว่าออกซิเจนทั้งหมดในร่างกายถูกสูบออกไป เมื่อเธอรั้งร่างของเขาไปกอด
“ผมไม่คิดจะล่วงเกินคุณหรอกนะ เพียงแค่อยากให้คุณรู้สึกอบอุ่นและมีกำลังใจ” เขากอดเธอตอบแล้วเอ่ยขึ้น
“ฉันไม่ว่าคุณหรอกค่ะ หากคุณต้องการจะนอนกับฉันจริง ๆ” เขายิ้มก่อนจะเอาไดร์เป่าผมไปเก็บ เขาดูเป็นสุภาพบุรุษกว่าที่เธอเคยคิดเอาไว้เสียอีก คำว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยคงใช้ไม่ได้กับเขาสินะ! ขณะเมื่อสักครู่เธอแกล้งลองใจเขา เขายังไม่มีทีท่าจะล้วงเกินด้วยซ้ำ
ตีสามกว่าฝนตกอย่างหนักก็เริ่มเบาบาง เธอลุกขึ้นเอาผ้าห่มมาคลุมให้กับเขาที่โซฟา ชายหนุ่มที่นอนอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น หญิงสาวเดินกลับไปนอนราบอยู่บนเตียง เธอนอนมองเพดานภายในจิตใจก็มีแต่ความสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าตนเองจะเอายังไงต่อกับชีวิต หากตนเองตกลงอยู่กับเขา เธอจะอยู่ฐานะอะไรกันแน่!