“เอาเยอะๆ เยยนะคับคุณลุง” เด็กน้อยหันมาตอบ ก่อนจะโบกมือบ๊ายบาย นั่นทำให้เชนต้องรีบโบกมือบ๊ายบายเช่นกัน กว่าที่จะไปถึงที่รถรับส่งที่จอดรออยู่ได้ ก็เล่นเอาเพียงเพ็ญเหนื่อยเลยทีเดียว แต่พอรถเคลื่อนตัวออกไปเท่านั้น เธอก็ต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากับความจริง เรื่องที่เธอพยายามหนีมันอยู่ตลอด
“พร้อมที่จะคุยหรือยังพราว” เสียงทุ้มของชายหนุ่ม ปลุกให้หญิงสาวหันหน้ามาเผชิญหน้ากับความจริง โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน และอีกไม่นานสมใจ ผู้ช่วยของเธอก็คงจะเดินทางมาถึง ทำให้เธอมีเวลามากพอที่จะเคลียร์เรื่องราวในอดีตกับเชน
“พร้อมแล้ว นั่งก่อนสิเชน” เพียงเพ็ญทำใจดีสู้เสือ เธอเดินมานั่งที่โซฟาสำหรับรับรองลูกค้า แล้วเธอจึงผายมือเชิญเขานั่งลงที่โซฟาอีกตัวข้างๆ เธอ
“เราพูดแบบไม่อ้อมเลยแล้วกันนะ โชกุนเป็นลูกของเราใช่มั้ย” เชนเอ่ยถามออกไปทันทีหลังจากที่เขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เขาจะจ้องมองหญิงสาว
“ใช่ แต่ว่าเชนไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหรอกนะ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เชนใช้ชีวิตของเชนไปเถอะ เราไม่ต้องการอะไรหรอก แล้วที่สำคัญความผิดพลาดทั้งหมดมันก็เกิดเพราะตัวเราเอง” เพียงเพ็ญกล่าวตามจริง เมื่อสี่ปีที่แล้วเธอเลือกยังไง สี่ปีต่อมาเธอก็ยังคงเลือกทางเดินเหมือนเดิม
“คิดเองเออเองที่สุด การมีลูกไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะพราว ทำไมพราวถึงทำแบบนี้ แล้วตัวเองก็ต้องมาลำบากหาเงินเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว” เชนเอ่ยด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเขาได้ฟัง เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจในการตัดสินใจของเพียงเพ็ญ
“มันไม่ใช่เรื่องเล็กหรอก แต่มันก็ไม่ควรจะเป็นเหตุผลในการรั้งเชนไว้ ไม่ให้เชนไปเรียนต่อนี่นา เรื่องคืนนั้นมันเกิดเพราะเรา เราก็ควรเป็นคนรับผิดชอบ ที่ผ่านมาเราคิดว่าเราไมได้ทำอะไรผิด” เพียงเพ็ญกล่าวตามจริง เธอไม่ได้ผิดอะไร เธอแค่อยากให้เขามีอนาคตที่ดี เธอไม่อยากทำลายอนาคตของเขา แค่นี้มันผิดด้วยหรือ
“พราว!! ทำไมพราวถึงรั้นแบบนี้ ไม่รู้แหล่ะ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าโชกุนเป็นลูกของเรา เราจะพาโชกุนกับพราวไปอยู่ที่บ้านของเรา จะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้” ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยแววตาที่เขาไม่เคยใช้กับเธอมาก่อน เพียงเพ็ญกำลังโดนเขาบังคับกรายๆ แต่คนอย่างเธอคงไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งง่ายๆ หรอก
“พอเถอะเชน เรื่องมันจบไปนานแล้ว ถ้าเชนต้องการแสดงความเป็นพ่อน่ะได้ แต่อย่าล้ำเส้นกันมากกว่านี้ เราจะบอกลูกว่าเชนเป็นพ่อ เชนสามารถเข้ามาดูแลลูกได้ แต่อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของเรามากไปกว่านี้เลยนะ” เพียงเพ็ญพยายามประนีประนอม เธอรู้ว่าเชนเป็นคนดี แต่เธอก็ไม่อยากใช้ลูกผูกมัดเขาไว้
“ไม่มีทาง ถ้าเราพูดว่าเราจะพาพราวกับลูกไปอยู่ที่บ้าน มันก็หมายความตามนั้น ที่ผ่านมาเรายอมพราวมาตลอด แต่หลังจากนี้พราวต้องเป็นฝ่ายยอมเราบ้างแล้วล่ะ” เชนเอ่ยจริงจัง มันทำให้เพียงเพ็ญถอนหายใจออกมาด้วยความลำบากใจ เธอจะทำยังไงกับปัญหาที่เกิดขึ้นดี