แสงไฟสีม่วงสลัวกระพริบช้า ๆ ตามจังหวะดนตรี
เสียงเบสเบาลึกสั่นสะท้านอยู่ที่ผนังด้านใน
ห้องวีไอพีซึ่งแยกออกมาจากส่วนหลักของไนต์คลับ
ถูกออกแบบให้กันเสียงและกันความวุ่นวายจากโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์
ลีอองยืนอยู่ตรงบาร์ เขารินวิสกี้ลงแก้วด้วยมือตัวเอง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง
แววตาเขายังดูเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดเรื่องบางอย่างไกลเกินเอื้อม
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น
ชายหนุ่มร่างสูงในสูทเข้ารูปเดินเข้ามาด้วยท่าทีมั่นใจ
ใบหน้าคมจัดในแบบเอเชีย ดวงตาคมร้ายแต่เจ้าเสน่ห์
มาพร้อมสำเนียงอังกฤษผสมจีนฮ่องกงอย่างชัดเจน
“แดเนียล จาง”
นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ วัย 36
อดีตนายหน้าค้าทองคำในตลาดเซี่ยงไฮ้
ผู้หันหลังให้โลกบนกระดาษ…มาเป็นมือขวาของลีอองในเครือข่ายใต้ดิน
“มาคนเดียวเหรอ?”
แดเนียลถามพลางโยนเสื้อสูทใส่โซฟาอย่างไม่แยแส
“ไม่งั้นฉันจะรินเหล้ารอทำไม”
ลีอองตอบเรียบ ๆ แล้วส่งแก้วให้
แดเนียลรับมา แล้วยกขึ้นจิบก่อนจะถอนหายใจ
“ฉันเพิ่งมาจากฮ่องกงเมื่อวาน แค่ข้ามแดนมาก็มีคนตามรถแล้ว”
“ข่าวลือเรื่องนายกับ ‘ไฟล์ในอดีต’ ของสามีนลิน...เริ่มกระจายแล้วนะ”
ลีอองเลิกคิ้วเล็กน้อย
แต่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา
“ใครปล่อยข่าว?”
“ถ้าไม่ใช่คนของเรา...ก็ต้องเป็นฝั่ง หวังหมิงเฉิง”
แดเนียลตอบทันที สีหน้าเครียดขึ้นเล็กน้อย
หวังหมิงเฉิง หัวหน้าเครือข่าย ‘ตงจื่อ’
กลุ่มธุรกิจสีเทาจากฝั่งมาเก๊า-จีนแผ่นดินใหญ่
คู่แข่งที่เคยพยายามลอบสังหารลีอองมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน
“หมิงเฉิงต้องการแค่หนึ่งในสองอย่าง”
แดเนียลพูดพลางวางแก้ว
“หนึ่งคือเธอ…นลิน
สองคือไฟล์ที่สามีเธอซ่อนไว้
และฉันพนันได้ว่า มันกำลังจะเลือกเอาทั้งสอง”
ลีอองเงียบ ข้อนิ้วข้างขวาเคาะลงกับแก้วช้า ๆ เหมือนใช้จังหวะนั้นตัดสินใจบางอย่าง
“ถ้ามันแตะต้องเธอ…” เสียงของเขาเย็นเยียบ
“ฉันจะทำให้มันไม่มีที่ยืนแม้แต่ในถนนมืดของตัวเอง”
แดเนียลหัวเราะในลำคอ
“โอเค…ฉันเห็นแล้วว่าคนอย่างนายจริงจังแค่ไหนกับผู้หญิงคนนี้”
เขาเดินไปหยิบแท็บเล็ตออกจากกระเป๋า เรียกข้อมูลบางอย่างขึ้น
บนหน้าจอคือ ภาพร้านของนลินจากมุมสูง
ภาพของปรีย์ ที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน
และ...ภาพใครบางคน ที่สวมหมวกปิดหน้า กำลังแอบถ่ายเธอจากรถสีดำในซอยตรงข้ามร้าน
“ภาพนี้ถ่ายเมื่อบ่ายนี้” แดเนียลพูด
“ไม่ใช่ของเราแน่นอน และไม่ใช่ฝั่งตำรวจแน่ ๆ”
ลีอองจ้องหน้าจอด้วยสายตาคมกริบ
นิ่ง...แต่ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความมืดที่พร้อมจะกลืนกินทุกอย่างที่กล้าล้ำเส้น
“บอกทีมล่าของเราให้เริ่มเคลื่อนทันที”
“ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเธอ…”
“ฉันจะฆ่ามัน...ก่อนที่มันจะได้รู้ว่าเธอชื่ออะไรด้วยซ้ำ”
ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียด ประตูห้องวีไอพีเปิดออกอีกครั้ง
ชายร่างสูงในชุดสูทสีดำเรียบ ดวงตาคมเรียว ใบหน้าสงบแต่ทรงพลัง
เดินเงียบ ๆ เหมือนไม่มีตัวตน แต่เมื่อเขายืนอยู่ตรงไหน...ที่นั่นกลับเย็นเยียบลงทันที
“คาโยะ ทาเคดะ”
ทายาทตระกูลซามูไรเก่าที่ผันตัวมาเป็นกลุ่มยากูซ่าร่วมทุนกับองค์กรมาเฟียระหว่างประเทศ
คาโยะเลือกไม่อยู่ในญี่ปุ่น แต่ย้ายมาตั้งรกรากที่ฮ่องกง และร่วมมือกับลีออง
ชายผู้ไม่เคยพูดเกินความจำเป็น และไม่เคยล้มเหลวในสิ่งที่ได้รับคำสั่ง
เขาพยักหน้าให้ลีอองเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะหย่อนตัวลงบนโซฟาเงียบ ๆ มือวางอยู่บนเข่าอย่างมีระเบียบ
“นายพาเขามาด้วย?”
ลีอองถามแดเนียลขณะส่งวิสกี้ให้
“ใครจะปล่อยนักฆ่าที่แม่นที่สุดขององค์กรไว้เฝ้าบ้านล่ะ”
แดเนียลหัวเราะในลำคอ
“ฉันคิดว่าหมิงเฉิงอาจเล่นแรงกว่าที่เราคิด”
คาโยะเหลือบตามองภาพบนแท็บเล็ต
โดยเฉพาะรูปเด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน
“เด็กนี่...” เขาพูดขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
“ไม่ควรถูกเอาไว้กลางสมรภูมิ ถ้าเราจะลงมือ ต้องกันเขาออกจากเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
ลีอองมองเพื่อนเก่า แล้วพยักหน้าช้า ๆ
“ฉันรู้” “แต่แม่ของเขา...จะไม่ยอมให้ใครพาเขาออกไปง่าย ๆ” “แม้แต่ฉัน” ลีอองกล่าว
คาโยะเงียบไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ
“งั้นเราก็ต้องปกป้องทั้งสองคนพร้อมกัน โดยไม่ให้เขารู้ตัวว่าเราทำอยู่”
แดเนียลวางแก้วในมือลงบนโต๊ะ
สายตาเขาเหลือบมองลีอองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่คิดเลยว่าลีออง เดล รอสโซ จะมีวันที่พูดถึงคำว่า ‘ปกป้อง’ ก่อนคำว่า ‘ควบคุม’”
ลีอองยิ้มเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ตอบโต้อะไร
เขาเพียงหลับตา...
ปล่อยให้เสียงดนตรีและความคิดวนเวียนอยู่ในหัว
เพราะในโลกของเขา…การรู้สึก “อยากปกป้อง” คือจุดเริ่มต้นของความอ่อนแอ
และเขาเองก็ไม่แน่ใจนัก ว่าเขากำลังเดินเข้าสู่จุดนั้นหรือเปล่า
ฟ้าผ่าลั่นเหนือเชียงใหม่ในค่ำคืนนั้น
ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
พื้นถนนเปียกแฉะ รถจอดนิ่งในจังหวะที่รถติดยาวเหยียดหน้าสี่แยกกลางเมือง
นลิน ที่เพิ่งออกจากร้านขายวัตถุดิบเบเกอรี่ริมถนน
ก้มหน้าก้มตาวิ่งฝ่าฝนพร้อมถุงแป้งและกล่องไข่ในอ้อมแขน
เธอไม่ได้เอาร่มมา เพราะคิดว่าฝนคงตกช่วงดึก
ไม่คิดเลยว่าในคืนนี้ โชคชะตาจะพาเธอมาเจอกับบางสิ่งที่กำลังรออยู่ในมุมมืดอีกครั้ง
แสงไฟหน้าป้ายไนต์คลับสว่างวาบอยู่เบื้องหน้า
เธอวิ่งเข้าไปหลบฝนใต้กันสาดหน้าประตูไม้บานใหญ่ของอาคารหรู ที่ยังไม่ทันได้อ่านชื่อด้วยซ้ำ
เสื้อเชิ้ตผ้าบางที่เปียกน้ำแนบกับผิวเนียนของเธอ
เรือนผมเปียกชื้นเกาะแก้ม ดวงตาเธอเปล่งประกายสะท้อนแสงไฟ
ภาพของเธอตอนนั้น...อันตรายเกินไปที่จะให้ใครเห็นโดยไม่ตั้งใจ
ชายชุดดำสองคนที่ยืนหน้าไนต์คลับรีบเดินหายเข้าไปด้านใน
ไม่นานนัก บอดี้การ์ดของลีอองก็ก้าวเร็วเข้ามาในห้องวีไอพี
“เจ้านายครับ...เธออยู่หน้าคลับ”
ลีอองที่กำลังเงียบฟังแดเนียลรายงานเรื่องความเคลื่อนไหวศัตรู
หันขวับขึ้นแทบในทันที
“ใคร?”
“ผู้หญิงคนนั้น...คุณนลินครับ เธอเปียกฝน น่าจะบังเอิญเดินผ่านมาครับ...”
เสียงเก้าอี้ขูดพื้นเบา ๆ ลีอองลุกขึ้นโดยไม่พูดอะไร
เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้าเขาโดยไม่จำเป็นต้องถาม
“ตามไปไหม?” คาโยะเอ่ยถามเรียบ ๆ
“ไม่” ลีอองพูดสั้น ๆ ขณะคว้าเสื้อโค้ทตัวนอกแล้วเดินออกจากห้อง
“ฉันจะไปคนเดียว”
เพื่อนรักทั้งสองหันหน้ามองกัน แสยะยิ้มร้าย
ฝนยังตกไม่หยุด
บอดี้การ์ดสองคนกางร่มให้ทันทีที่ลีอองเดินออกจากอาคาร
และสิ่งแรกที่เขาเห็นคือร่างของเธอที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้กันสาด
ถุงของสดเปียกชื้นในมือ ดวงตากำลังหันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะหาทางกลับบ้านอย่างไร
เขาเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าเธอ นลินเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นเขา
ริมฝีปากเธอสั่นเพราะหนาวผสมกับความตกใจ
“คุณ...”
เสียงเธอเบา ราวกับจะกลืนหายไปกับเสียงฝน
“ฉันจะไปส่ง” เขาพูดเสียงต่ำโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธ
“ไม่ต้องค่ะ”
“อย่าดื้อ”
น้ำเสียงเขากดต่ำกว่าเดิม
“ลูกเธอไม่ได้อยู่ด้วยใช่ไหม?”
นลินลังเล ก่อนตอบ
“...อยู่บ้านคุณน้า”
ลีอองหันไปสั่งให้บอดี้การ์ดเปิดประตูรถ
แล้วพาเธอขึ้นรถหรูสีดำ ที่จอดอยู่หน้าคลับโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ เพิ่ม
ในรถ
เงียบ...และอบอุ่นเกินกว่าที่เธอคาด นลินนั่งตัวแข็ง มือยังโอบถุงของไว้แน่น
เสื้อเชิ้ตบางแนบกับผิวมากกว่าที่เธออยากให้เป็น และเขา...ก็มอง
สายตาของเขาไม่หยาบคาย แต่มัน ชัดเจนเกินไป จนเธอแทบละลาย
“ขอบคุณที่มาส่งฉันนะคะ”
เธอพูดเบา ๆ ขณะหลบสายตาเขา
ลีอองยกมือขึ้น
ใช้นิ้วเรียวเชยคางเธอให้หันกลับมาเผชิญหน้า
“จำไว้นลิน…” “ถ้าเธอใส่เสื้อบาง ๆ แบบนี้ออกจากบ้านอีกครั้ง
แล้วบังเอิญเจอคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน เธออาจจะไม่โชคดีเท่านี้”
ดวงตาเขานิ่ง และอันตราย แต่ก่อนที่เธอจะทันหันหน้าหนี
เขาก็โน้มตัวลงมา...กดจูบเบา ๆ ลงบนมุมปากเธอ
แค่ปลายสัมผัส แต่เพียงพอให้เธอใจเต้นกระเจิง
“ถือว่าเป็น ‘ค่าขอบคุณ’ ที่ฉันรับไว้แล้ว”
“และต่อไป…อย่าใส่อะไรบาง ๆ แบบนี้ออกมาข้างนอกอีก
ฉันไม่อยากให้ใครเห็น...ในสิ่งที่ควรเป็นของฉันคนเดียว”
นลินตัวแข็งค้าง ในขณะที่ลีอองเอนกลับไปอย่างสบาย
รถเคลื่อนตัวออกไปกลางสายฝนช้า ๆ
โดยมีเธอนั่งตัวสั่น...ไม่ใช่เพราะหนาว
แต่เพราะหัวใจที่กำลังร้อนจัดขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่