บทที่ 4 เธอคือซอล!!

1527 คำ
“คุณพยาบาลฉันอยากเข้าห้องน้ำ ช่วยพยุงหน่อยได้หรือเปล่าคะ?” “ได้ค่ะ” พยาบาลสาวรีบเข้าไปพยุงตัวหญิงสาวลงจากเตียง เธอแอบเผลอมองหน้าคนไข้อย่างไม่รู้ตัว และอดที่จะคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยแบบที่ผู้หญิงด้วยกันเองแบบเธออดอิจฉาไม่ได้ แล้วไหนจะผมสีดำสนิทริมฝีปากสีชมพูอ่อน แม้ว่าตอนนี้ตาของเธอจะถูกผ้าพันไว้ก็ไม่ทำให้ความสวยลดน้อยลงเลยสักนิด [ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้เป็นนางเอกดัง อิจฉาจริง ๆ เลยเกิดใหม่ฉันจะได้แบบนี้ไหม?] “คุณพยาบาล...คุณพยาบาลคะ” “คะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ?” พยาบาลสาวรีบเรียกสติของตัวเองกลับคืนมา “ถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันเข้าไปข้างในเองก็ได้” “อ่อ...มันจะดีเหรอคะ ตอนนี้สายตาของคุณซอลยังไม่ค่อยดีให้ฉันพาเข้าไปดีกว่านะคะ” พยาบาลสาวพูดด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรค่ะ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด เพราะมีคนเรียกเธอว่าซอลอีกแล้ว คนพวกนี้รู้จักแต่แม่นางเอกดังหรือไงเธอก็นางร้ายชื่อดังเหมือนกันนะ แต่รินก็เลือกที่จะไม่สนใจแล้วใช้สายตาที่เลือนรางมองผ่านผ้าบางที่ถูกพันไว้รอบดวงตาแล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ “กรี๊ดดดดดด!!!” ภาพเลือนรางของคนที่สะท้อนอยู่อีกฝั่งของกระจกทำให้หญิงสาวที่เพิ่งเดินจากห้องน้ำแล้วบังเอิญมองไปที่กระจกถึงกับต้องกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ทันทีที่มองไปเจอใครบางคนที่กระจกที่ไม่ใช่ร่างของตัวเอง แล้วดูเหมือนว่าเธอจะยังรู้จักคนที่สะท้อนอยู่ในกระจกด้วย “คุณซอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” พยาบาลที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงตะโกนก็รีบเคาะประตูถาม “ไม่ค่ะ...ไม่มีอะไร” แม้จะบอกว่าไม่มีอะไรแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาตอนนี้มันสั่นเครือจนรู้สึกได้ เพราะตอนนี้เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ซอล!!! แม้ว่าสายตาจะไม่ค่อยดีแต่เธอก็มองเห็นภาพที่สะท้อนอยู่อีกฝั่งของกระจกอย่างชัดเจนทำไมถึงเป็นยัยนี่ รินมองตัวเองที่อยู่ในกระจกมันคือเพื่อน ไม่สิคู่แค้นมากกว่า ใบหน้าเล็กสวยรูปไข่ จมูกโด่ง ริมฝีปากกระจับ ผมสีดำเงา ผิวขาวอมชมพูขนาดที่ว่าแม้จะป่วยอยู่ก็ยังดูดี ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!ทำไมเธอถึงมาอยู่ในร่างของยัยนี่ได้ ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมทุกคนถึงเรียกเธอว่าซอล “โอ๊ยยยย!!” ร่างกายที่อ่อนแรงอยู่แล้วพอถูกกระตุ้นด้วยความเจ็บปวดก็ทำให้ขาของร่างกายทรุดลงกับพื้น ก่อนเหตุการณ์บางอย่างค่อย ๆ ปรากฏเข้ามาในหัว 17.00น.Haet Hotel 'น้องซอล งานวันนี้จบแล้วเดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งนะจ๊ะ นี่ก็ดึกมากแล้วพี่ไม่อยากให้ขับรถกลับเอง’ ผู้จัดการสาวประเภทสองพูดขึ้นเมื่องานเลี้ยงที่ดาราสาวถูกเชิญมาจบงาน ‘ไม่เป็นไรค่ะพี่ดีดี้ พอดีซอลต้องใช้รถพรุ่งนี้เช้า ถ้าจอดไว้ที่นี่พรุ่งนี้คงจะเดินทางลำบาก’ ‘ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าถ้าเจออันตรายอะไรรีบโทรศัพท์หาพี่เลยเข้าใจไหม’ ‘รับทราบค่ะ’ ซอลยิ้มกว้างให้กับผู้จัดการ แม้ว่ารอยยิ้มนี้ถ้าทุกคนภายนอกเห็นคงจะบอกว่าดูสดใสแต่ความจริงแล้วมันเต็มไปด้วยความเศร้าและความขื่นขม แต่ก็มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ หลังจากแยกกันกับผู้จัดการเธอก็ขับรถกลับบ้านทางเดิมอย่างเช่นทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกว่าในใจมันโหวงเหวงแปลก ๆ จนกระทั่งขับมาถึงถนนเส้นทางเปลี่ยว ความจริงเธอชินแล้วเพราะบ้านเธอต้องผ่านทางนี้เลยต้องสัญจรตั้งแต่เด็ก ระหว่างที่รถขับมาเรื่อย ๆ เธอก็สังเกตเห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่ข้างทางและเห็นน้องผู้หญิงคนหนึ่งฟุบสลบอยู่ข้างรถ ‘น้องคะเป็นอะไรหรือเปล่า?’ ด้วยความตกใจซอลเลยลงจากรถอย่างไม่ระมัดระวังตัว เธอรีบปรี่เข้าไปหาหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ‘อุ๊ย!! อืออออ’ แต่ยังไม่ทันทีจะได้ช่วยอะไร ก็มีผ้าสีขาวปิดเข้ามาที่จมูกเหตุการณ์แบบนี้มันเหมือนกับละครที่เธอเคยเล่นไม่มีผิดและไม่นานสติที่มีก็เลือนราง ‘สวยฉิบหายเลยว่ะ ถ้าฆ่าทิ้งคงเสียดายแย่’ เสียงที่ดังอยู่ข้างหูและมีมือที่สัมผัสร่างกายของตัวเองอยู่ทำให้ร่างบางที่สลบนอนอยู่บนพื้นค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมอง 'พวกแกเป็นใคร ใครส่งพวกแกมาปล่อยฉันไปเถอะนะ จะเอาเท่าไหร่ฉันมีเงินจ่าย’ หลังจากฟื้นคืนได้สติซอลก็มองชายร่างใหญ่ทั้งสองคนด้วยความหวาดกลัว ยิ่งมือหนาของหนึ่งในสองคนนั้นกำลังลูบไล้ต้นขาเธออย่างกักขฬะ ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากขึ้น 'เงินพวกพี่ก็อยากได้นะ แต่ว่าอยากลองมีความสุขกับนางฟ้าซะก่อน แล้วนางฟ้าคนสวยคนนี้อยากลองกลับขึ้นไปบนสวรรค์อีกสักครั้งไหม เดี๋ยวพี่จะพาขึ้นไปเอง' ท้ายประโยคชายคนนั้นก้มลงกระซิบข้างหูของซอลทำให้เธอเบิกตากว้างขึ้นด้วยความกลัว ตอนนี้ในใจเธอได้แต่ภาวนาว่าขอให้มีคนมาช่วย ‘ไม่นะ! ขอร้องล่ะอย่ายุ่งกับฉันเลย’ สองมือเล็กประกบเข้าหากันอย่างสั่นเทา ดวงตากลมสวยมองชายทั้งสองคนอย่างวิงวอนเพื่อขอความสงสารและเห็นใจ ‘ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับนางฟ้าของผม ผัวคนนี้ปวดใจนะครับที่เมียกลัว ทั้งที่ผัวจะทำให้มีความสุขแท้ ๆ’ ไม่เพียงแค่พูดแต่ชายคนนั้นยังจับมือของเธอตรึงไว้เหนือศีรษะ ส่วนชายอีกคนก็ดึงกางเกงยีนที่เธอสวมใส่ไว้กระชากอย่างแรงจนหลุดเหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋ว หญิงสาวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นท่อนไม้ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ‘ดะ…เดี๋ยวก่อนสิคะ พวกพี่ใจเย็น ๆ กันหน่อย…ยังไงซอลก็เป็นดารานะคะ ถ้าเกิดรอยตามตัวคงไม่ดี เอาแบบนี้ไหมเดี๋ยวซอลจะปรนนิบัติพวกพี่เอง สัญญาเลยค่ะว่าจะไม่ขัดขืน” ไม่เพียงแค่พูดแต่ซอลพยายามที่จะยกตัวให้สูงแล้วจูบลงคอโจรที่จับมาเบา ๆ แม้จะรู้สึกขยะแขยงแต่เพื่อหาทางรอดต้องทำให้คนพวกนี้ตายใจ ส่วนโจรที่ถูกดาราสาวคนสวยที่ตัวเองเห็นผ่านทางโทรทัศน์บ่อย ๆ ทำแบบนี้ก็ถึงกับใจเต้นแรงและดีใจคิดว่าเธอพิศวาสตัวเอง เลยส่งสายตาให้เพื่อนปล่อยมือเธอ ซอลพอเห็นแบบนั้นก็ยกมือขึ้นโอบรอบคออย่างมีจริต ด้วยที่เธอเป็นนักแสดงด้วยมันเลยดูยั่วยวนสมจริง ก่อนจะกระซิบข้างหูอีกฝ่ายเบา ๆ ‘พี่ช่วยพาซอลขึ้นสวรรค์หน่อยนะคะ’ ‘ได้สิจ้ะคนสวย…มึงรอก่อนเดี๋ยวกูขอคนแรก’ ระหว่างที่ถูกลูบไล้ซอลก็ขยับตัวถอยหลังทีละนิดเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตจนกระทั่งมือไปแตะท่อนไม้หัก ๆ ก็จับแน่นก่อนจะแทงเข้าที่ท้องผู้ชายคนนั้นอย่างแรง ก่อนจะรีบลุกวิ่งหวังจะหนีผู้ชายอีกคนพ้น จึก!! ‘อ๊ากกกกกก’ ‘ไอ้สิงห์!! อีนี่ฤทธิ์เยอะนักนะงั้นก็ตายซะเถอะ’ ปัง!!! ยังไม่ทันทีเธอจะหนีพ้น ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ดึงปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังยิงเข้าที่กลางหลังเธอ ทำให้ร่างของคนที่กำลังวิ่งอยู่ล้มตัวนอนลงที่พื้น ตอนนี้เธอไม่ได้กำลังแสดงหนังอยู่เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับมันคือของจริง ทำไมกันนะ…ทำไมชีวิตของเธอถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าตายไปเรื่องทุกอย่างก็จบเธอไม่อยากอยู่แล้วโลกที่โหดร้ายขนาดนี้ [ช่วยทำให้ฉันอยากหายไปจากโลกโหดร้ายนี่ที] ......... “โอ๊ยยยยย ที่แท้แม่นางเอกคนนี้ก็ตายแบบนี้นี่เอง” ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่เธอก็อดสงสารซอลไม่ได้ ใครจะไปคิดล่ะว่าชีวิตนางเอกผู้แสนดีจะมามีจุดจบแบบนี้ แต่ก็นะคงไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ เพียงแค่ว่าเธอภาวนาให้มีชีวิตรอด แต่อีกฝ่ายขอหายไปจากโลกนี้ “แต่เดี๋ยวนะ! หรือว่าตอนนี้ซอลอยู่ในร่างของเราหรือเปล่า?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม