หลังจากเหตุการณ์วันนั้นดนัยก็ถูกดำเนินคดีไปหลายกระทง หนักสุดคือทุกข้อหาเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ หลักๆ ก็ได้เส้นสายจากพ่อแม่ของปานชีวาที่ช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วย
หลายวันผ่านลัลน์ลลิตยังกลัวที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว ส่วนมากเธอจะใช้ชีวิตอยู่ภายในคอนโด ซึ่งก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะมีปานชีวาและชรัญธรแวะเวียนมาหาอยู่บ่อยๆ วันไหนตัวไม่ได้มาก็มีโทร มีไลน์คุยกันบ้างประปราย เช่นวันนี้
LINE
SHAK : คุณลัลน์ทานข้าวยังครับ
LUN : ทานมื้อเที่ยงอิ่มแปล้ เย็นนี้คงไม่ทานค่ะ
โลกมันช่างกลมดั่งนิยาย เมื่อชรัญธรเป็นลูกชายบุญธรรมของคุณชวลิต ซึ่งเป็นลุงของปานชีวา ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกาถูกเลี้ยงดูอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุสิบขวบ ซึ่งหลังจากชวลิตได้ขายธุรกิจที่นั่นเขาจึงย้ายมาร่วมลงทุนทำธุรกิจต่อที่เมืองไทย ลัลน์ลลิตจึงไม่แปลกใจที่ปานชีวาไม่เคยพูดถึงชรัญธรให้เธอฟังเลย เพราะพวกเขาเพิ่งมาสนิทกันตอนที่ฝ่ายชายเดินทางไปๆ มาๆ ติดต่อธุรกิจกับครอบครัวของปานชีวาเมื่อครึ่งปีก่อน
SHAK : ผมเห็นก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านนึงมีเรือตั้งอยู่หน้าร้าน แปลกตาและน่าอร่อยมาก
SHAK : จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมจะชวนคุณออกมาทานด้วยกัน
ลัลน์ลลิตจ้องข้อความแชทที่ชรัญส่งเข้ามาอย่างประเมิน ใช่ว่าเขาไม่เคยชวนเธอไปออกทานข้าวสักหน่อยทำไมต้องใจเต้นแรง หรือเป็นเพราะว่าทุกครั้งปานชีวาไปด้วยตลอด แต่ครั้งนี้น่าจะไปกันแค่สองคน
LUN : คุณชวนปลาดาวยังคะ
SHAK : ไม่ได้ชวนครับ รายนั้นบอกว่าเพิ่งกลับถึงบ้าน รู้สึกปวดท้อง
SHAK : คุณจะชวนก็ได้นะ
SHAK : แต่ผมหิวมากและถึงคอนโดคุณแล้วด้วย
จากนั้นก็ต่อด้วยสติ๊กเกอร์หมีร้องไห้ หมีนั่งกอดเข่า หมีนอนเล่นโทรศัพท์
เร่งเร้าแบบนี้ก็เท่ากับบังคับไม่ให้ชวนสินะ
ลัลน์ลลิตส่ายหน้าพลางอมยิ้มหน่อยๆ ไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังหาโอกาสเจอเธอแบบสองต่อสอง แต่มันก็อดคิดไม่ได้
เธอพิมพ์ข้อความตอบกลับว่าอีก2นาทีเจอกัน ก่อนจะรีบเร่งเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วออกจากห้องไป เพราะกลัวจะมีคนหิวโหยจนเป็นลมอยู่หน้าล็อบบี้
พอเห็นว่าลัลน์ลลิตยอมลงมาตามคำชวนชรัญธรก็ใจชื้นขึ้นมาทันที หลายวันมานี้เขาแวะมาเยี่ยมเยียนเธออยู่บ่อยครั้ง กระทั่งกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียดื้อๆ ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่ลัลน์ลลิตเคยปฏิเสธไม่ขอสานต่อความสัมพันธ์กับเขาแล้ว แต่ลึกๆ ในใจกลับยังมีความหวัง อยากเป็นคนปีนป่ายกำแพงสูงที่เธอกั้นเอาแล้วทำลายมันให้สิ้นซาก
...หรือเขาจะติดใจความสัมพันธ์แบบลูกอมอาบยาพิษเข้าแล้วนะ
ไม่กี่อึดใจก็พบกับลัลน์ลลิตที่เดินยิ้มมาแต่ไกล วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักสมวัยด้วยชุดมินิเดรสสายเดี่ยวสีขาวทรงสบายๆ ผมยาวเลยกลางหลังถูกดัดลอนฟุ้งสวยเป็นธรรมชาติ ใบหน้าหวานผุดผ่องมีเครื่องสำอางแต่งแต้มบางเบา ทว่าสดใสน่ารักจนชรัญธรเผลอใจเต้นแรง
“คุณชาร์คจะไปทานร้านไหนเหรอคะ”
คนตัวหอมกรุ่นทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน บางทีเขาก็อยากถามเธอเหลือเกินว่าทำไมลัลน์ลลิตถึงได้ตัวหอมน่าหลงใหลได้ถึงขนาดนี้ ทำให้ทุกครั้งที่เจอเธอเขาเลยรู้สึกเหมือนกับต้องมนต์สะกด
...หรือเป็นเพราะเขาติดกลิ่นเธอ
“คุณชาร์คคะ คุณชาร์ค หน้าลัลน์มีอะไรติดเหรอคะ ทำไมจ้องนานจัง” คนตัวเล็กถามอย่างประหม่าแล้วลูบแก้มตัวเองป้อยๆ
“เอ่อ...เปล่าครับ ไม่มีอะไร หน้าคุณลัลน์ยังปกติดี” เป็นเขาเองที่เลิ่กลั่กใจสั่นจนผิดปกติ
“สรุปแล้วเราจะไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านไหนคะ”
“อ๋อ ร้านที่อยู่ข้างสวนสาธารณะถัดจากคอนโดคุณลัลน์ประมาณสองร้อยเมตรครับ ผมขับรถผ่านวันก่อนเห็นคนเยอะดี ดูท่าน่าจะอร่อย”
“ถ้าเป็นร้านนั้นลัลน์เคยไปทานค่ะ งั้นเราเดินไปนะคะ คุณชาร์คจะได้ไม่ต้องวนหาที่จอดรถให้เสียเวลา”
“ครับ”
ชรัญธรเห็นด้วยเพราะร้านอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มเอาสูทไปเก็บที่รถ สวมเพียงเสื้อเชิ้ตกับกางเกงทำงานสีดำ จากนั้นก็เดินเคียงกันไปตามฟุตบาท ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารรถเข็นเรียงราย ทั้งสองเดินไปคุยไปกระทั่งลืมไปเลยว่าเดินไกลแค่ไหน เพราะคนตัวโตมัวแต่อมยิ้มและตั้งใจฟังไกด์สาวแนะนำร้านข้างทางเจ้าเด็ด
“คุณชาร์คเห็นร้านส้มตำตรงฝั่งนั้นมั้ยคะ”
นิ้วชี้เรียวชี้ไปยังร้านส้มตำรถเข็นที่มีป้ายไฟเลข 69 สีแดง และมีลูกไฟวิบวับสีน้ำเงินวิ่งรอบตัวป้าย ตอนนี้สาวสวยหน้าอกมโหฬารกำลังกระแทกสากกะเบือเข้าใส่ครกอย่างดุเดือด โดยมีหนุ่มๆ เข้าแถวรอซื้อยาวเป็นหางว่าว ชรัญธรเห็นแล้วก็ใจคอไม่ดี มองไกลๆ แยกไม่ออกว่านั่นนมหรือหัวเด็ก
“เอ่อ ทำไมเหรอครับ”
“ร้านนั้นเคยมีคนต่อยกันเพราะทะเลาะเรื่องเลขหกกับเลขเก้าค่ะ”
“จริงเหรอครับ แบบนี้เจ้าของร้านเลยตั้งชื่อร้านว่า ร้าน69สินะ”
“ใช่แล้วค่ะ และก็ไม่มีคิวเลข6กับเลข9อีกเลย เพราะวันนี้6กับ9หัวแตกจนต้องหามส่งโรงพยาบาลทั้งคู่เลยค่ะ” ลัลน์ลลิตพูดไปขำไป
“ร้านในตำนานนี่เอง ผมนึกว่าชื่อร้าน69เนี่ย มาจากท่ายากซะอีก”
ลัลน์ลลิตถึงกับเสียวแปลบท้องน้อย เมื่อท้ายประโยคชรัญธรโน้มลงกระซิบข้างใบหูเล็ก หญิงสาวส่ายหน้าแทนอาการเขินแต่ยังอมยิ้มอยู่
“ลัลน์คิดไว้ไม่มีผิดว่าคุณต้องคิดแบบนั้น”
ชรัญธรยกมือขึ้นเกาหลังคอแก้เขิน ตอนนี้ถ้าลัลน์ลลิตจะด่าว่าเขาหื่น หมกมุ่น เขาก็จะน้อมรับและไม่โกรธสักคำ ทว่าตอนนี้เหมือนเขาจะอยากหื่นแค่กับเธอคนเดียว