รู้สึกเหมือนกำลังออกเดต

1212 คำ
ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่ว่าตั้งอยู่ข้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งออกกำลังกายของผู้คนจำนวนมาก นอกจากจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่ว่ายังมีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดอีกหลายร้าน ชรัญธรเห็นผู้คนตะบี้ตะบันออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง สุดท้ายพอเหนื่อยก็จบที่นั่งล้อมวงหาของกินอร่อยๆ ใส่ท้อง ไม่รู้ว่ามาออกกำกายที่นี่จะคุ้มค่าเหนื่อยมั้ย “คุณชาร์คเอาเส้นอะไรคะ” ลัลน์ลลิตถามขณะที่ติ๊กถูกช่องสี่เหลี่ยมหน้ารายการอาหารบนกระดาษที่ทางร้านเตรียมรายการอาหารเอาไว้ให้ดิบดี แค่ระบุจำนวนที่ต้องการก็จบ “คุณลัลน์ช่วยเลือกให้ผมได้มั้ยครับ ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องเส้นเลย” ชรัญธรยิ้มเขิน เลือกไม่ถูกเพราะไม่คุ้นชินกับอาหารที่ประเทศไทยสักเท่าไหร่ จึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้ลัลน์ลลิตพิจารณา สายตาคมจังจ้องอยู่ตรงคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้รู้สึกเหมือนกำลังออกเดตกับเธอเลย ไม่รู้ว่าลัลน์ลลิตจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า “งั้นเดี๋ยวลัลน์สั่งให้เอง คุณชาร์คค่อยเลือกทานตอนก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ” “ครับ” ทีแรกชรัญธรก็งงกับคำว่าเลือกทาน แต่พอพนักงานยกก๋วยเตี๋ยวเรือมาเสิร์ฟเท่านั้นแหละ ก็เข้าใจความหมายของลัลน์ลลิตได้ดี “โอ้ว...คุณลัลน์” “ยี่สิบชามเองค่ะ” ลัลน์ลลิตยิ้มหวานเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตาโต เธอสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือไซซ์เล็กมารวดเดียว ยี่สิบชาม มีหลากหลายเส้นซึ่งปริมาณอาหารไม่ได้เยอะอะไรคีบเส้นสองคำก็หมดถ้วยแล้ว “น่าทานจังเลยนะครับ” เขาถูมือเหมือนเด็กอยากได้ขนมจากนั้นก็ยื่นมือไปรับตะเกียบจากมือลัลน์ลลิต ชรัญธรเลือกหยิบเส้นเล็กมาหนึ่งชาม ใช้ตะเกียบคลี่เส้นให้ออกจากกันท่าทางเงอะงะบ่งบอกว่าไม่ถนัดใช้อุปกรณ์ในมืออย่างชัดเจน “ลัลน์ว่าคุณชาร์คเปลี่ยนเป็นส้อมดีกว่าค่ะ” พอเห็นท่าทีเก้ๆ กังๆ ของหนุ่มลูกครึ่งก็อดเห็นใจไม่ได้ ลัลน์ลลิตจึงยื่นส้อมให้ชรัญธรและตัวเธอหยิบตะเกียบของเขามาใช้เอง “ขอบคุณครับ” ชรัญธรใช้ส้อมม้วนเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบเดียวกับม้วนเส้นสปาเกตตี แต่ก่อนจะส่งมันเข้าปากลัลน์ลลิตก็หยุดเอาไว้เสียก่อน “เดี๋ยวก่อนค่ะ” หญิงสาวลุกขึ้นโน้มตัวจากอีกฝั่งของโต๊ะ หยิบทิชชูที่อยู่ในกล่องมาทาบลงกับคอเสื้อเชิ้ตของชรัญธร เจตนาใช้แทนผ้ารองกันเปื้อนอย่างใส่ใจ แต่ตอนโน้มเข้าไปเธอไม่ระวังเอาเสียเลย คอชุดมินิเดรสของเธอแหวกลึกลงจนเห็นทรวงอกอวบอิ่ม ชรัญที่ไม่ได้ตั้งใจมองแต่สายตาดันปะทะเข้ากับเจ้าก้อนอวบอั๋นน่าขย้ำนั่นเข้าพอดี ลำคอหนาก็ถึงแห้งผากรีบกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ นึกถึงช่วงเวลาที่เขาเคล้นคลึงมันหนักๆ หัวใจแกร่งก็กระหน่ำเต้นแรงจนกลัวว่าคนที่เขาคิดจาบจ้วงจะได้ยินเข้า แบบนี้เรียกว่าอ่อยมั้ย “ป้องกันเส้นดีดน้ำซุปโดนเสื้อค่ะ คราบแบบนี้ซักออกอยาก” ลัลน์ลลิตบอกแล้วหยิบทิชชูมาวางทาบลงบนคอเสื้อที่แอบคว้านลึกของเธอเช่นกัน “คุณลัลน์...น่ารักจัง” “คะ!” “เอ่อ ผมหมายถึงขอบคุณครับ” ชรัญธรแสร้งกลับไปสนใจก๋วยเตี๋ยวในชามต่อ ทั้งที่จริงแล้วสติโฟกัสอยู่เบื้องหน้า คนสวยตัวหอมนั่งคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ช้อนแล้วส่งเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู้ตัวว่ามีใครคนหนึ่งใจสั่นไหวอยู่ลำพัง “เอ่อ...ว่าแต่ทำไมคุณลัลน์ต้องคีบเส้นใส่ช้อนก่อนเอาเข้าปากด้วยล่ะครับ” ลัลน์ลลิตเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อหนุ่มลูกครึ่งแล้วสบถในใจ สงสัยเก่ง! แต่ตอบไปอีกอย่าง “อ๋อ...คือลัลน์ลองคีบเส้นใส่ตาแล้วมันแสบ เลยคีบใส่ช้อนแทนค่ะ” ลัลน์ลลิตขยิบตาทำหน้าทะเล้นใส่กวนๆ จากนั้นก็ส่งก๋วยเตี๋ยวเข้าปากของตนอย่างสำราญใจ ทำเอาชรัญธรถึงกับวางส้อมแล้วเอนหลังทรุดฮวบลงไปพิงกับพนักเก้าอี้ หนุ่มลูกครึ่งหัวเราะเบาๆ ให้กับความทะเล้นแต่เป็นธรรมชาติของลัลน์ลลิต ภายในใจนั้นคันยุบยิบอยากจับเธอมาหยิกแก้มให้หายมันเขี้ยวสักที ก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนี้อร่อยสมคำร่ำลือ เสียอย่างเดียวรสชาติเผ็ดไปหน่อย ชรัญธรรับประทานไปสองชามก็รู้สึกเหมือนมีประกายไฟแตกเปรี๊ยะๆ ไปทั่วทั้งปาก ต้องรีบยกน้ำลำไยสดที่ลัลน์ลลิตสั่งให้ขึ้นดื่มเพื่อไล่ความเผ็ด ขณะนั้นนัยน์ตาทรงเสน่ห์ที่เริ่มมีน้ำตาเอ่อออกมาบริเวณหางตาก็เหลือบไปเห็นป้ายที่เขียนเอาไว้ด้วยตัวหนังสือสีแดง ‘โปรดเลือดระดับความเผ็ด หากไม่เลือกทางร้านขอปรุงสำเร็จแบบเผ็ดระดับปริญญาให้ทุกชาม’ “คุณลัลน์เลือกความเผ็ดระดับไหนครับ” คนที่กำลังระมัดระวังคีบเส้นใส่ช้อนจึงเงยหน้าขึ้นตอบ “ลัลน์ลืมเลือกค่ะ ทำไมเหรอคะ” ลัลน์ลลิตเลิกคิ้วขึ้นแล้วมองคนปากแดงแจ๋ตัดกับผิวขาวๆ ตรงหน้า “ตายจริงคุณชาร์คปากเจ่อหมดแล้ว ขอโทษนะคะลัลน์ลืมเลือกระดับไปเลย ปกติมากินกับปลาดาวเราชอบเผ็ดระดับสูงสุด เลยไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มเติม” ลัลน์ลลิตลนลานเติมน้ำเปล่าลงในแก้วให้ชรัญธร แล้วหยิบขนมถ้วยมาวางตรงหน้าคนทานเผ็ดไม่เก่ง ยิ่งเห็นนปากหนาเบิร์นฟูขึ้นยิ่งรู้สึกผิดจับใจ “เป็นไรครับ ถือว่าเปิดโลกก็แล้วกัน” “เดี๋ยวลัลน์สั่งให้ใหม่ดีกว่า” ลัลน์ลลิตลุกขึ้นแต่เขาห้ามไว้ “ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหว” สุดท้ายไหวของชรัญธรคือรับประทานได้เพียงห้าชาม ตื่มน้ำตามห้าขวด ที่เหลือลัลน์ลลิตจัดการเกลี้ยงคนเดียว ชายหนุ่มตะลึงหนักเมื่อเห็นคนตัวเล็กๆ ฟาดก๋วยเตี๋ยวทีเดียวตั้งสิบห้าชาม แต่เธอบอกว่าตนเป็นคนย่อยง่าย ทานเสร็จเดินกลับบ้านก็ย่อยหมดแล้ว ขากลับระหว่างทางเดินกลับคอนโดมิเนียม ทั้งสองแวะซื้อของกินเล่นที่ขายบนฟุตบาทติดมือกลับไปด้วยสองสามอย่าง ระหว่างที่ลัลน์ลลิตรอหมึกทอดไต้หวัน ชรัญธรก็เดินไปร้านถัดไปเพราะเหลือบไปเห็นร้านขายต้นไม้กระถางเล็กๆ พร้อมป้ายโฆษณาเขียนกำกับว่า ต้นไม้ใช้ฟอกอากาศ เขาจึงเลือกมาให้ลัลน์ลลิตไปปลูกเล่นยามเหงาหนึ่งกระถาง “รดน้ำไปก็นึกถึงผมไปนะครับ” เขายื่นถุงกระถางต้นไม้ให้ลัลน์ลลิตถือเอง เมื่อเดินมาถึงคอนโดเป็นที่เรียบร้อย “ให้นึกถึงคุณไปด้วยเหรอคะ” “ครับ” “ขอบคุณนะคะ ขับรถกลับดีๆ ค่ะ” ลัลน์ลลิตโบกมือลาชรัญธรก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกับยิ้มเขินๆ ชูถุงต้นไม้ที่รับจากคนตัวใหญ่ขึ้นดูแล้วใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นอย่างต้านไม่อยู่ ให้รดน้ำต้นลิ้นมังกรแล้วนึกถึงเขาเนี่ยนะ คนบ้าต้องคิดถึงเรื่องหื่นๆ คืนนั้นอยู่แน่ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม