3
Part : แทซัน
"ปกตินายไม่ยอมง่ายๆ ทำไมครั้งนี้..."ผู้จัดการส่วนตัวผมถามขึ้น เมื่อเด็กยัยเด็กนั่นเดินออกไป
"ไม่เห็นหุ้นบริษัทรึไง คนอย่างพี่ไม่น่าตกข่าวนี่"ตอนนี้พ่อถือหุ่นบริษัทต้นสังกัดผมมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่ใช่เพราะผมหรอก เพราะยัยเด็กนั่นต่างหาก ถ้าเกิดต้นสังกัดรู้เรื่องแต่งงานเข้า จะต้องบีบให้ผมเลิกแน่ การที่พ่อถือหุ้นใหญ่สุด ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร
"เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว แต่คนอย่างนายไม่น่าจะยอมง่ายๆ"
ใช่มันไม่ใช่นิสัยผม ผมไม่ค่อยจะเชื่อฟังคำสั่งพ่อเท่าไหร่ ไม่งั้นไม่ได้เป็นศิลปินอยู่ทุกวันนี้หรอก แต่ครั้งนี้...
ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า พ่อสั่งให้ผมไปหาด่วน และบอกให้แต่งงาน
"แกต้องแต่งงาน"
"แต่งงานอะไร ผมไม่แต่ง!"ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด พ่อเรียกให้ผมข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อพูดเรื่องนี่นะเหรอ พ่อก็น่าจะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
"แต่แกต้องแต่ง!"พ่อยืนยันคำเดิมเสียงหนักแน่น
"พ่อกำลังทำลายอนาคตผม ผมเป็นศิลปินเป็นไอดอลนะพ่อ แค่มีแฟนยังยากเลย แล้วนี่แต่งงาน"มันเหมือนการหักหลังแฟนคลับเลยนะ
"งั้นก็เลิกเป็นซะสิ ศิลปินไอดอลอะไรของแกเนี่ย"
"พ่อ!!" นั่นคือสิ่งที่ผมรัก พ่อไม่เคยเข้าใจเลยสักนิด
"อนาคตที่มั่นคงของแกอยู่ที่ฉัน อาชีพที่แกรักนักรักหนามันไม่มีอะไรมั่นคง สักวันหนึ่งความดังของแกก็ต้องหมดลง"
"ผมยังติดสัญญากับต้นสังกัด"โยนๆ ให้ค่ายไปเลยแล้วกัน ยังไงพ่อก็ไม่ยอมฟังเหตุผลของผมอยู่แล้ว
"ไปบอกต้นสักกัดแกมาคุยกับฉัน หรือจะให้ฉันเทคโอเวอร์บริษัทแกไปเลย"
"พ่อ!"ผมรู้ว่าพ่อทำได้แค่เพียงพลิกฝ่ามือ
"แกก็รู้นี่ว่าฉันสามารถซื้อบริษัทแกได้ เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ เห็นถึงอิทธิพลของการทำธุรกิจหรือยัง ออกมาทำงานกับฉันได้แล้ว"สุดท้ายพ่อก็แค่อยากให้ผมออกมาสืบทอดธุรกิจสินะ
"ผมทำแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้"ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่กลับมาสืบทอดธุรกิจ แค่ตอนนี้ขอทำตามความฝัน
"ถ้าแกยอมแต่งงาน แกจะทำอะไรฉันไม่สน"
เหอะ! ไม่สนงั้นเหรอ ถ้าเกิดเรื่องแต่งงานหลุดออกไป อาชีพไอดอลของผมก็จบเหมือนกันนั่นแหละ
"ผมไม่แต่งและจะไม่มีวันแต่ง! ต่อให้พ่อจะซื้อบริษัทแล้วไล่ผมออก ผมก็จะตั้งบริษัทขึ้นใหม่เอง!"ผมไม่ได้แคร์เรื่องต้นสังกัดอยู่แล้ว ถึงที่นั่นจะไม่ต้องการผม ที่อื่นก็พร้อมอ้าแขนรับ และถึงพ่อจะตามไปเทคโอเวอร์ทุกบริษัท ผมก็สามารถก่อตั้งบริษัทเองได้
"นี่แก!!!"พ่อชี้หน้าผมเลือดขึ้นหน้า เดือดพล่านสุดๆ
"หมดธุระแล้วใช่มั้ย งั้นผมขอตัว"ผมลุกขึ้นหันหลังเดินออกไป แต่เท้าก็ต้องหยุดชะงัก
"เด็กคนนั้นเป็นคนที่แม่แกเลือก"
"พ่อไม่ต้องเอาแม่มาอ้าง"พ่อรู้ว่าผมแคร์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแม่
"แม่แกเลือกเจ้าสาวไว้ให้แกแล้ว แกจะไม่ยอมทำตามคำขอของแม่แกงั้นเหรอ"
"ผมไม่เชื่อ พ่อไม่ต้องมาหลอก"ผมหันกลับไปเผชิญหน้ากับท่าน
ปึก!
พ่อทิ้งเอกสารลงกลางโต๊ะ หนึ่งในนั้นคือรูปเด็กผู้หญิงที่ถ่ายรูปคู่กับแม่ ข้างหลังรูปนั้นเขียวว่า...
'เจ้าสาวแทซัน'
ลายมือแม่ ไม่ผิดแน่! พ่อไม่ได้โกหก!
"แม่ของเด็กคนนี้ช่วยชีวิตแม่แกไว้ ถึงขั้นเสียชีวิต"
"ก็แค่ให้เงินไปก็จบแล้วมั้ย"ทำไมต้องทำให้มากความด้วยก็ไม่รู้
"งั้นฉันต้องให้เงินแกมากเท่าไหร่ แกถึงจะเลิกเสียใจกับเรื่องแม่แก"
"...."ผมสตั้น ท่าทางโอหังเมื่อครู่ค่อยๆ อ่อนลง ผมคิดน้อยไปเอง
"การช่วยชีวิตแม่แกจากอุบัติเหตุรถชนครั้งนั้น ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัส เหมือนเธอจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่กลับเกิดโรคแทรกซ้อน ทำให้ต้องจบชีวิตลง ช่วงที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่แกไปเยี่ยมทุกวัน สงสัยคุยกันถูกคอ เลยสัญญาว่าจะให้ลูกๆ แต่งงานกัน และยิ่งเธอเสียชีวิตลง แม่แกยิ่งต้องรักษาสัญญา เฝ้ารอวันที่แกจะได้แต่งงาน แต่ต่อมาไม่กี่ปีแม่แกก็จากไป แต่ก็ยังไม่ลืมสั่งให้ฉันทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผู้หญิงคนนั้น"
"...."ผมนิ่งฟังพ่อเล่าเรื่องอันน่าเศร้า การที่ต้องสูญเสียแม่ไป รู้สึกยังไง ผมเข้าใจดี
"เด็กคนนี้ชื่อเมเบล เป็นน้องแกสองปี เป็นเด็กน่ารักจิตใจดี กำลังจะเข้าเรียนปีหนึ่ง ฉันอยากให้ไปอยู่ที่นู่นกับแก"
"พ่อ!!!"อยู่ที่นู่นหมายความว่าไง ไม่ใช่แค่แต่งงาน แต่ผมต้องเอายัยเป็ดขี้เหร่นี่ไปอยู่ด้วย ให้ตายเถอะ!
"แกจะไม่ทำก็ได้ ถ้าคิดว่าความปรารถนาสุดท้ายของแม่แกไม่สำคัญ"
เหอะ! พูดแบบนี้ คิดว่าผมต้องทำไงวะ!!