ครึ่งชั่วโมงต่อมา
นับเวลาถอยหลังก่อนที่จะต้องเข็นรถเข็นออกไปข้างนอก เพื่อนำเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้อีกรอบ เปรมวดีเตรียมเครื่องดื่มไปตามเมนูและรายการที่มีบนเครื่อง พยายามควบคุมสติตัวเองให้ดีและเข็นรถออกไปด้วยความไม่ประหม่า แม้ภายในหัวใจตอนนี้จะเต้นระรัวจนแทบจับจังหวะไม่ได้เลยก็ตาม แต่หน้าก็คือหน้าที่ งานบริการคือเลือกปฏิบัติไม่ได้
บนเครื่องบินโดยสารมีผู้โดยสารอยู่เพียงสองท่านเท่านั้น ทันทีที่เปรมวดีเดินออกมาเธอก็เชิดหน้ามองตรงไปข้างหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจ แต่พบเจอเข้ากับสายตาของชายหนุ่มใจร้ายที่มองตรงมาที่เธออย่างจงใจ
ขาเรียวยาวก้าวเดินไปข้างหน้าช้า ๆ ด้วยความเป็นมือโพรเฟชชั่นแนล ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาเชิดหน้าตั้งตรงขึ้นอย่างคนที่มั่นใจในตัวเองสูง แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอกำลังปกปิดความหวาดกลัวจากคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่นั้นต่างหาก เดาไม่ถูกเลยว่าดวงตาคมคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ขออนุญาตเสิร์ฟเครื่องดื่มค่ะ”
ทันทีที่เปรมวดีเอ่ยขึ้น หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายของชายหนุ่มก็หันหน้ามามอง ในวินาทีแรกเปรมวดีมั่นใจมากว่าวาสิตาก็จำเธอได้เช่นกัน แถมยังมีท่าทีเหมือนไม่พอใจมาก แต่ยังควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ดี แถมยังเปลี่ยนจากแววตาที่ดูไม่พอใจเป็นคำพูดกระแนะกระแหนเธอแทนเสียงั้น
“นึกว่าใคร เธอเรียนจบเหมือนกันเหรอนี่ เก่งนิใช้อะไรแลกมาล่ะ ทำไมถึงมาเป็นสาวบริการบนเครื่องบินได้ อยากอัพเกรดตัวเองเป็นนางฟ้า ทั้งที่กำพืดก็ไม่ต่างจากหมาวัด!”
คำพูดแดกดันที่วาสิตาต่อว่าเปรมวดีได้แต่กำมือแน่น สถานะที่เป็นอยู่ขณะนี้เธอไม่สามารถโต้เถียงกับลูกค้าได้เลยสักคำ จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่หยิบเครื่องดื่มแล้วยื่นส่งให้ตามหน้าที่เพียงเท่านั้น
“รับเป็นไวน์หรืออย่างอื่นดีคะ?”
“ฉันไม่กิน ไม่อยากจะกินของแสลงลงไปในท้อง เครื่องบินสายการบินราคาถูกแบบนี้ก็คงจะเสิร์ฟแต่ของราคาถูก มันไม่ถูกปากฉันหรอกนะ”
เปรมวดีต้องกลั้นหายใจและพยายามควบคุมสติของตัวเองเพิ่มอีกร้อยเท่า นิสัยใจคอของอีกฝ่ายใช่ว่าเธอจะไม่เคยรู้จัก แถมวาสิตาก็รู้ว่าเธอและเพชรรัตน์เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้หญิงที่อยู่ในสถานะคู่หมั้นแล้วเลื่อนลำดับขึ้นมาเป็นภรรยา จะรู้สึกไม่พอใจที่ได้กลับมาเห็นหน้าคนที่ไม่เคยชอบหน้ากันอีกครั้งแบบนี้
“ถ้าคุณไม่รับเครื่องดื่ม ฉันขออนุญาตไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มนะคะ”
อย่างน้อยก็รู้สึกว่ารอดตัวไปแล้ว และเธอก็พยายามไม่มองใบหน้าของชายที่นั่งอยู่ติดทางเดิน เปรมวดีรู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวของเขา มันคือการคุกคามผ่านทางสายตาที่เธอยังคงจดจำความรู้สึกเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยลืมเลือนหรือหายไป ในขณะที่เธอกำลังจะเข็นรถเดินกลับไปในห้องเตรียมอาหาร เสียงทุ้มที่น่าเกรงขามของผู้ชายคนนั้นก็ดังขึ้น
“ฉันขอบรั่นดีแก้วดับเบิ้ลด้วยนะ”
คำพูดเพียงเท่านั้นเปรมวดีถึงกับสะดุ้ง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบดื่มเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว น้อยครั้งมากที่จะเห็นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งสายตาที่จ้องมองมา ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาแลดูน่ากลัวกว่าเมื่อก่อนนี้อีก
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะไปนำมาเสิร์ฟให้”
“รีบหน่อยนะ เพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงเครื่องก็น่าจะถึงเมืองไทยแล้ว”
เปรมวดีเกลียดน้ำเสียงกำชับเหมือนกับคนกำลังออกคำสั่ง ครั้งหนึ่งที่ชีวิตเธอต้องเป็นทาสรับใช้เขาทั้งบนเตียงและนอกเตียง ยังคงเป็นความทรงจำที่ฝังลึกอยู่ในความรู้สึกไม่มีวันลืม
เปรมวดีแกล้งทำเป็นไม่ตอบรับและรีบเดินเข็นรถเข็นกลับไปในทางเดิมอีกครั้ง ทั้งที่ในใจทั้งตื่นเต้นและอยากจะหันกลับไปด่าเขาให้สุดเสียง แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจเธอนึกคิด
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนร่วมงานโผล่หน้าออกมาให้เห็น
“ฉันว่าแกคงจะไม่ไหวจริง ๆ แล้วแหละยัยเปรม หน้าซีดเหมือนไก่ต้มเชียว ลูกค้าสั่งอะไร เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเอาออกไปให้ ฉันเจอขนมของยัยลูกคุณหนูจอมเรื่องมากคนนั้นแล้วนะ เดี๋ยวต่อไปฉันจะจัดการให้เธอเอง”
เปรมวดีพยักหน้ารับ รู้สึกว่าตัวเองหน้าซีด หูอื้อ ตาลายคล้ายมีอาการแพนิค เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำ ได้เห็นหน้าและคำสั่งจิกกัดของผู้ชายคนนั้นเธอก็อยากวิ่งหนีไปให้ไกล
“เขาอยากได้บรั่นดี จำได้ว่ามีของลูกค้าที่เคยสั่งเอาไว้รอบที่แล้วแต่เขาแคนเซิลรอบบิล ยังมีอยู่ในช่องเก็บความเย็น ออยเอาไปให้เขาเลยก็ได้ ฉันขอตัวนั่งพักสักหน่อยแล้วเดี๋ยวจะช่วยเตรียมอาหารให้ก็แล้วกันนะ”
“โอเคเลย พักเลยนะเพื่อน เดี๋ยวทางนั้นฉันจัดการเอง”
เปรมวดีซาบซึ้งใจที่เพื่อนออกไปรับหน้าให้ เธอเริ่มจัดการจัดแจงอาหารซึ่งเป็นออร์เดิร์ฟในมื้อเล็ก ๆ ก่อนที่เครื่องจะแลนด์ดิ้งลงสู่พื้นดินของประเทศไทย
ส่วนเพื่อนร่วมงานสาวที่นำรถเข็นเดินออกไปได้เพียงไม่ถึงสามนาที ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากห้องผู้โดยสารอีกครั้ง
“ไปเรียกลูกเรือคนนั้นออกมาเดี๋ยวนี้! ฉันสั่งไปกับพนักงานอีกคน แล้วทำไมถึงต้องเป็นเธอที่เอามาให้ด้วย สั่งไปกับใครคนนั้นก็ต้องเอามาให้เองมันถึงจะถูก” ”
“พอดีพนักงานต้อนรับอีกคนทำธุระส่วนตัวอยู่ค่ะ ดิฉันเลยเอามาให้คุณลูกค้าเอง”
“แต่ฉันจะให้ผู้หญิงคนนั้นมาคอยบริการ ไปเรียกมาเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!”
เป็นคำสั่งของคนเอาแต่ใจตัวเอง แววตาและสีหน้าท่าทางที่ดุดันชวนให้ต้องรีบเดินหนี ทำให้ลูกเรือสาวต้องรีบวิ่งกับไปยังทางเดิมที่เพิ่งเดินมานั้นทันที
วาสิตามองจ้องหน้าของสามีด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมคะ เจอหน้ากิ๊กเก่าแล้วชีวิตมันตื่นเต้นมากเลยหรือไง ถึงอยากเจอแล้วอยากเจออีกไม่เลิกแบบนี้!”
เพชรรัตน์มองค้อนด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ เบื่อหน่ายกับความเจ้ากี้เจ้าการชีวิตเขามาตลอดหลายปีแล้ว
“เรื่องของผม คุณเองก็เรื่องเยอะน่ารำคาญเหมือนกันนั่นล่ะ ผมจะทำอะไรก็อย่ามายุ่งนะวา”
“แต่วาเป็นเมียคุณนะคะ ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ใครมันจะทนเห็นผัวมองผู้หญิงอื่นแบบนั้นล่ะ”
“อยากเลิกเป็นไหมล่ะ ผมจะสงเคราะห์ให้เลย ผมก็เบื่อ ผมก็รำคาญเต็มทนแล้วนะวา”
“เพชรรัตน์!! คุณพูดกับวาแบบนี้ได้ยังไงคะ วาไม่หย่า วาไม่เลิก อยู่เป็นมารขวางชีวิตคุณแบบนี้แหละดี มีความสุขดีออก!”
พูดจบวาสิตาก็หันไปมองข้างนอกหน้าต่าง สงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ตามลำพัง ส่วนเพชรรัตน์หันไปมองจ้องหลังม่านที่ขวางกั้น ข้างในนั้นมีแอร์โฮสเตสคนที่เขาอยากพูดคุยด้วยแอบซ่อนตัวอยู่ไม่กล้าสู้หน้าเขา