3 สิ้นหวัง

1284 คำ
-โฟกัส- “แกไปกินข้าวกับฉันป่ะ ที่คณะวิศวะ” เราเรียนกันจนถึงตอนเที่ยง สมายด์ก็ชวนฉันไปกินข้าว ฉันก็อยากไปกินด้วยอยู่หรอก พอได้ยินว่าคณะวิศวะแค่นั้นแหละ ฉันรีบส่ายหัวทันที “แกไปเถอะ ฉันไม่อยากเจอไอ้รุ่นพี่ปากเสียนั่นอะ ” ฉันรีบบอกปัด เดี๋ยวถ้าเจอกันตอนนั่งกินข้าว เกิดทวงเงินฉันขึ้นมาทำไง แค่นี้ก็อายคนจะแย่ “ โอเคงั้นฉันไปนะ เดี๋ยวแฟนฉันรอนาน” “จ้า~คนมีแฟน ” แฟนของสมายด์หล่อ ดูดีมาก ฉันเคยเห็นตอนวันมอบตัว พอฉันไม่ได้ไปกินข้าวกับสมายด์ ฉันก็ไปกินกับเพื่อนคณะเดียวกันอีกคน ก็พอมีคุยๆกันบ้าง นั่งกินกันแป๊บๆก็บ่ายโมงแล้ว “โฟกัส แกไปซื้อชานมกับพวกฉันป่ะ ” พอกินข้าวเสร็จอลิซก็ชวนไปซื้อชานม แต่ฉันก็ปฏิเสธ เพราะสถานะการเงินฉันตอนนี้ไม่ควรฟุ่มเฟือย “พวกแกไปกันเลย เดี๋ยวฉันขึ้นไปรอบนอาคารนะ ” “อะเค งั้นฝากซื้อป่ะ เดี๋ยวฉันซื้อมาให้ด้วยก็ได้นะ” แล้วเพื่อนก็หวังดีมากเลย “ ไม่เป็นไร ฉันคุมน้ำหนักด้วยแหละแกไปเถอะ” “ งั้นก็ตามใจ ” ฉันแยกกับเพื่อน แล้วขึ้นไปรอบนอาคาร แรกเริ่มเดิมทีก็มีตั้งแปดพัน ยังไงซะเดือนนี้ก็พอใช้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่โอนจ่ายค่าซ่อมรถนายนั่น ตอนนี้เหลือเงินไม่ถึงสามพัน แล้วยังจะซ่อมรถตัวเองอีก “ เอาวะ ลองหางานดูก่อนแล้วกัน เผื่อมีที่ไหนเค้ารับพาร์ทไทม์ ” ฉันเข้าหาดูงานในมือถือ มีประกาศรับสมัคงานอยู่หลายที่เหมือนกัน และก็ไม่ได้ไกลจากที่พักฉันสักเท่าไหร่ “ สวัสดีค่ะ ร้านกาแฟม่านดาวใช่ไหมคะ” {ใช่ค่ะ ติดต่อเรื่องอะไรคะ} “ พอดีหนูเห็นลงรับสมัครงานน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้ได้พนักงานหรือยังคะ ” {ยังค่ะ ถ้าน้องสนใจ วันนี้สามารถเข้ามาสัมภาษณ์ที่ร้านได้นะคะ} “ ขอเป็นตอนเย็นได้ไหมคะ คือหนูเป็นพาร์ทไทม์อะค่ะ ไม่ทราบว่าสะดวกหรือเปล่า” {พาร์ทไทม์หรอ ถ้าพาร์ทไทม์ยังไม่ได้รับนะคะ พอดีทางร้านเราหาลูกน้องประจำอะค่ะ ต้องขอโทษน้องด้วย} “ ไม่เป็นไรค่ะ ” ร้านที่1ผ่านไป เค้าบอกไม่รับพาร์ทไทม์ และฉันก็ยังเลื่อนหาดูต่อไป มันต้องมีที่ไหนซักที่แหละ และฉันก็พยายามโทรอีกหลายที่นะ แต่ก็ยังไม่มีใครรับ “มาแล้ว ทำอะไรทำไมถึงคิ้วขมวดขนาดนั้น” พอสมายด์กลับมาถึง ก็ทักขึ้นว่าฉันคิ้วขมวด ทั้งที่ฉันเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ “ กำลังหางานพาร์ทไทม์ทำน่ะ โทรไปถามหลายที่แล้วบอกยังไม่รับ ” “ ใจเย็นๆนะ ค่อยๆหาไป เดี๋ยวฉันช่วยอีกแรง” “ ขอบใจแกนะมายด์ ” “ไม่ต้องคิดมากนะ ตอนนี้เข้าเรียนกันได้แล้ว ” ฉันยิ้มบางให้เพื่อน และเข้าเรียนในช่วงบ่าย พอถึงตอนเย็น ฉันเดินลงมาจากอาคารเรียนคู่กับเพื่อน ก็เห็นแฟนของสมายด์ยืนยิ้มกว้างรออยู่ ก่อนที่สมายด์จะหันมาบอกฉัน “ บ๊ายบายนะโฟกัส พรุ่งนี้เจอกัน” ฉันยิ้มบางให้เพื่อน และเดินแยกออกมายังโรงจอดรถ เห็นสภาพลูกรักของตัวเองแล้ว ฉันก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง “ แล้วค่าซ่อมจะกี่บาทกันล่ะเนี่ย ” ฉันขับรถออกจากมหาลัยด้วยสภาพด้านหน้ายับแบบนั้นแหละ คนก็มองกันใหญ่ ฉันรีบมองหาร้านซ่อมที่อยู่ใกล้ๆ แล้วในที่สุดก็เจอ “ลุงคะ ช่วยซ่อมรถให้หนูหน่อย สภาพแบบนี้ถ้าซ่อมมันจะเท่าไหร่ ” “เดี๋ยวลุงดูให้นะหนู ” แล้วลุงร้านซ่อมก็เดินมาสำรวจไปมา ซักพักก็ยืนเท้าสะเอวพร้อมทำคิ้วขมวด พอเห็นแบบนั้นฉันนี่ทำใจรอเลย “ ค่าอะไหล่ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยนะ ส่วนค่าแรงลุงคิดแค่สามร้อยก็พอ เห็นว่ายังเป็นนักศึกษาอยู่ ช่วยๆกัน ปกติค่าแรงลุงคิดห้าร้อยนะหนู ” “ ขอบคุณค่ะคุณลุง ถ้าอย่างนั้นลุงซ่อมได้เลยค่ะ” ไอ้ที่ลุงลดให้ฉันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ไอ้ที่เสียใจมันก็ยังตั้งหนึ่งพันแปดร้อยอยู่ดี แล้วจะเอาเงินไหนใช้จนกว่าจะกล้าขอแม่ใหม่กันละ ฉันนั่งรอรถที่กำลังซ่อมเกือบชั่วโมง ลุงเปลี่ยนเฟรมด้านหน้าให้ใหม่ และซ่อมระบบไฟด้านหน้าอีกนิดหน่อย ฉันจ่ายเงินเสร็จ ก็ขับกลับห้องพักด้วยใจหดหู่ “อ้าว~ กลับมาแล้วหรอโฟกัส เป็นไงบ้างเปิดเรียนวันแรก สนุกไหม ” พอมาถึงร้าน น้าเดือนก็ถามขึ้นทั้งที่ยังก้มๆเงยๆที่หน้าเตา ถ้าน้ามองดูหน้าฉันซักนิด น้าจะรู้ว่าหน้าฉันสิ้นหวังแค่ไหน “ก็ดีค่ะน้าเดือน แล้วน้าโชคไปไหนคะ ” “ไปจ่ายตลาดจ๊ะ ขึ้นไปอาบน้ำเถอะ จะได้ลงมากินข้าวเย็น ” “ค่ะน้าเดือน ” ฉันเดินหงอยขึ้นไปบนชั้นสอง หรือเรื่องนี้ฉันไม่ควรบอกน้า แต่เงินมันก้อนใหญ่มากนะ ฉันขอคิดหน่อยแล้วกัน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็ลงมาทานข้าวเย็น “น้าโชคยังไม่มาเหรอคะ ” พอลงมาข้างล่าง ก็เห็นน้าเดือนนั่งอยู่แค่คนเดียว “ น่าจะแวะก๊งกับเพื่อนอีกนั่นแหละ เฮ้อ!!น้าก็เหนื่อยใจ ตอนไม่เมาก็แสนดี พอเมาขึ้นมาก็หาแต่เรื่องชวนทะเลาะ ไม่ต้องเล่าให้พี่ดุจฟังนะ เดี๋ยวแกจะไม่สบายใจเอา ” “ค่ะน้าเดือน ” ต่อให้ฉันไม่เล่า ทางบ้านก็พอรู้แหละ ว่าน้าโชคชอบดื่มเหล้า เพราะกลับบ้านช่วงเทศกาลทีไร น้าโชคก็ดื่มเมาทุกที และยังชวนน้าเดือนทะเลาะอยู่บ่อยๆ “ เดี๋ยวพ่อกินข้าวเสร็จ ก็ขึ้นห้องเลยนะ ก่อนนอนก็ล็อคประตูห้องให้เรียบร้อย ห้ามลืมล่ะ” “ค่ะน้าเดือน ” ฉันรีบรับปากน้าสาว แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว และฉันก็สรุปได้ว่า ฉันไม่ควรเอาปัญหาของของตัวเอง มาทำให้น้าพลอยหนักใจไปด้วย พอกินข้าวอิ่ม ฉันก็เก็บกวาดเช็ดถู แล้วกลับขึ้นไปบนห้อง และยังไม่ลืมที่จะล็อคประตูอย่างน้าเดือนบอก ครืด~ครืด~ {ว่าไงโฟกัส เปิดเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง} “ ก็ดีค่ะแม่ แล้วแม่ทำอะไรคะกินข้าวเย็นหรือยัง” {ยังเลยลูก แม่เพิ่งกลับมาจากตลาดแหนะ เอาผักไปขายเหมือนเดิมนั่นแหละ } “เหรอจ๊ะ แล้ววันนี้ขายดีหรือเปล่า” {ขายดีเหมือนเดิมนั่นแหละลูก นี่ก็เก็บไว้ค่าพันธ์ผักกับค่าปุ๋ย พ่อก็จะแบ่งไปจ่ายค่าประกันหมู่บ้าน ถ้าเงินหมดก็บอกนะ แม่จะได้ฝากน้าดินไปโอนให้ } “ยังมีใช้อยู่ค่ะ เดี๋ยวถ้าหมดแล้วหนูบอกนะ ” {มีอะไรอีกไหม แม่จะไปหุงข้าวสักหน่อย กับข้าวก็ซื้อแกงถุงมาจากตลาดนัดเลย ไม่ค่อยมีเวลาทำกินหรอก } “ ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ” พอฉันวางสายจากแม่ ฉันก็ถอนหายใจยาว ว่าจะขอตังค์แม่เพิ่ม พอได้ยินเสียงแล้วก็สงสาร แม่เก็บออมทุกบาททุกสตางค์ เพื่อครอบครัว เพื่อส่งฉันเรียนจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม