ห้าว~
ตอนนี้เริ่มดึกนิดนึง ฉันก็เริ่มง่วงแล้วหละ พักสมองหน่อยแล้วกัน พรุ่งนี้ยังมีอะไรให้คิดอีกเยอะแยะ ฉันหลับตาลงในหัวก็คิดถึงแต่เงินสองแสน แต่ในขณะที่กำลังเคลิ้มๆจะหลับ
เพล้ง~
เสียงของตกกระแทกพื้นเสียงดัง ฉันสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจรีบลุกขึ้นนั่ง
“กูบอกว่าหิวข้าวไงวะ ไปหาข้าวมาให้กูกิน ”
ฉันเอามือทาบอก เสียงน้าเขยฉันนั่นเอง
“ก็ฉันบอกพี่แล้วไงละ ว่ากับข้าววางอยู่บนโต๊ะ
แค่ตักข้าวใส่จานเอง มันจะตายรึไง ”
น้าเดือนเองก็โวยวายกลับอย่างไม่ยอม
“มึงปากดีเหรออีเดือน อย่างนี้มันต้องโดน ”
“ว้าย!!อย่านะ ”
ฉันคิดว่าน้าเดือนกำลังจะถูกทำร้าย จึ้งรีบลุกจากเตียง แล้วสาวเท้าไปที่ประตู
“หยุดนะคะน้าโชค อย่าทำอะไรน้าเดือนนะ ”
ฉันรีบเปิดประตูวิ่งออกไปช่วยน้าเดือน โดยการจับมือน้าโชคไว้ แต่ฉันกลับถูกสะบัดอย่างแรงจนล้มพับไปกับพื้น
พรึบ!!
“โอ้ย!/โฟกัส!กลับเข้าห้องไป หยุดนะพี่โชค ”
น้าเดือนเรียกฉันอย่างตกใจ พร้อมรีบตะโกนห้ามน้าโชค ฉันจุกจนหน้านิ่วพยายามลุกแต่ลุกยังไงก็ไม่ขึ้น พอน้าโชคเดินเซหายเข้าห้องไป
น้าเดือนก็รีบเข้ามาดูฉัน
“เจ็บไหมลูก ”
ฉันพยักหน้ารัว ทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดไม่ออก
แรงผู้ชายตัวโตอะเนาะ ตัวเล็กๆอย่างฉันจะเอาอะไรไปสู้
“น้าบอกแล้วว่าให้ล็อคประตูให้แน่นหนา แล้วก็ไม่ต้องออกมา น้าโชคก็โวยวายไปงั้นแหละ แต่เขาก็ไม่ทำอะไรน้าหรอก ”
ฉันเงยหน้ามองน้าเดือนนิ่ง
“น้าโชคเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ แล้วน้าเดือนทำไม่ยังทน ”
ตั้งแต่ฉันมาอยู่ก็เกือบเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่น้าโชคเมากลับมาแบบนี้
“ ก็นานๆทีจ๊ะ ”
“ แล้วทำไมน้าต้องทนหรอคะ น้าเดือนเก่งจะตาย ต่อให้ไม่มีน้าโชคน้าเดือนก็อยู่ได้”
น้าเดือนเงียบไปสักพัก ก่อนมองไปที่หน้าประตูห้องตัวเอง แล้วหันหน้ากลับมาพร้อมอธิบายให้ฉันฟังเสียงเบา
“ เดี๋ยวพอถึงพรุ่งนี้หลานก็จะเข้าใจเอง วันนี้ดึกมากแล้วไปนอนเถอะ ”
น้าเดือนช่วยประคองฉันเข้าไปในห้องนอน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะระบมหรือเปล่า ยิ่งพึ่งเปิดเทอมอยู่แล้วด้วย
เช้าวันต่อมา
“โอ้ย~เจ็บขาจริงๆด้วย ”
พอตื่นเช้ามา ฉันก็รู้สึกเจ็บขามากกว่าเมื่อคืนนี้ซะอีก แต่ยังไงก็ต้องไปเรียนอยู่ดี ฉันเดินกระเผลกเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว รีบลงไปทานอาหารเช้าที่น้าเดือนทำไว้ จะได้ประหยัดค่าข้าวด้วยหนึ่งมื้อ
“โฟกัส มากินข้าวเร็ว นั่นเจ็บขาเหรอ ”
ฉันเดินลงมาด้านล่าง น้าเดือนก็มองเห็น และรีบเรียกฉันไปทานมื้อเช้า พร้อมถามอย่างเป็นห่วง
ฉันมองดูน้าโชคที่ยืนทำอะไรอยู่อีกมุม ก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะ น้าโชคดูเงียบมาก ไม่เห็นเหมือนเมื่อคืนเลย
“นิดหน่อยค่ะน้าเดือน ”
ฉันบอกน้าสาวพลางตักข้าวเข้าปาก
“เอ่อ~โฟกัส น้าอยากขอโทษเรื่องเมื่อคืนหนะ คือน้าจำอะไรไม่ได้เลย พอน้าเดือนเล่าให้ฟังตอนเช้าน้าถึงรู้ ”
นั่งกินข้าวไปได้ซักพัก น้าโชคก็เดินเข้ามาขอโทษ หน้าตาดูสำนึกผิด ต่างจากเมื่อคืนเอามากๆ
“ไม่เป็นไรคะ ”
ฉันไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะฉันมันก็แค่ผู้อาศัย
ถ้าน้าเดือนไม่ว่าอะไร ฉันก็จะว่าอะไรได้ล่ะ
“เอ่อ~ น้าโชคเขารับปากกับน้าแล้วละ ว่าจะดื่มให้น้อยลง และจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก น้าโชคเค้าสำนึกผิดแล้วล่ะ”
และน้าเดือนก็ออกรับหน้าแทน ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วล่ะ น้าเดือนรักสามีมาก คำตอบทุกอย่างอยู่ที่คำว่าอภัยหมดเลย
“ค่ะ~ หนูไม่เป็นไรจริงๆค่ะ น้าโชคกับน้าเดือนไม่ต้องคิดมากนะคะ แล้วหนูก็ไม่บอกแม่กับน้าดินหรอก”
พอทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันก็ขับรถเข้ามหาลัย
ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียน ฉันก็เปิดมือถือหาดูที่ไหนเขารับสมัคงานบ้าง
ครืด~ครืด~
“หืม…เบอร์ใครอะ มิจฉาชีพรึเปล่า ”
ฉันถึงกับคิ้วขมวด ยังไม่ทันที่จะเข้าดูงานด้วยซ้ำ
อยู่ๆก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ฉันลังเลอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับ แต่สุดท้ายก็รับเพราะอาจจะเป็นร้านที่ฉันหางานอยู่ก็ได้
“สวัสดีค่ะ อลินดาพูดค่ะ”
{ค่าซ่อมรถฉัน เธอจะจ่ายได้เมื่อไหร่}
แต่ไม่ใช่ใครที่ไหน คู่กรณีฉันนั่นเอง
“ ฉันเพิ่งโอนให้พี่เมื่อวาน วันนี้พี่มาทวงอีกแล้วหรอ กะจะไม่ให้ฉันหายใจหายคอเลยเหรอ ”
{ฉันถามเธอดีๆ แล้วเธอจะตอบดีๆไม่ได้รึไง }
“ ก็ใครใช้ให้พี่พูดไม่รู้เรื่องกันล่ะ ฉันบอกพี่แล้วว่าฉันขอหาเงินก่อน แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังเร่งหางาน พี่ต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง”
{นี่เธอ เธอเป็นหนี้ฉันอยู่นะ เธอควรพูดให้มันดีกว่านี้ไหม}
“ ฉันแค่เป็นหนี้ ไม่ได้ฆ่าใครตายสักหน่อย
แค่นี้แหละ ”
{นี่}
ฉันไม่รอให้รุ่นพี่พูดต่อ รีบตัดสายทิ้งไปเลย
และเขาก็ยังพยายามโทรมาอีกหลายต่อหลายสาย แต่ฉันก็เมิน เลือกที่จะไม่รับขี้เกียจคุยกับคนพูดไม่รู้เรื่อง
-ธีร์ธัช-
“เหอะ~ดีจริง ตัดสายฉันทิ้งเหรอ…ได้…เดี๋ยวได้เห็นดีกัน”
ผมพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เป็นหนี้คนอื่นแล้วเมินแบบนี้ได้ไง ไม่พอยังตัดสายทิ้ง และยังพูดจาไม่ดีมากๆอีกด้วย ยัยเด็กไม่มีใครสั่งสอน
“เป็นไรอีกวะ ช่วงนี้มึงแลดูเครียด”
ไอ้ภูถามขึ้น เมื่อเห็นผมเอาแต่หงุดหงิดอารมณ์เสีย แหงหละ สถานการณ์แบบนี้ใครมันจะไปมีอารมณ์ยิ้ม นั่นมันรถใหม่ป้ายแดงผมเลยนะเว้ย
“เออ ตอนเที่ยงมึงกินข้าวไหน ”
พอคิดอะไรดีๆออกผมเลยถามขึ้น
“กินที่นี่แหละ มึงจะทำไม”
“ไปกินที่คณะสถาปัตย์กับน้องมายด์ป่ะ กูจะไปเตือนความจำยัยลูกหนี้ปากแจ๋วซักหน่อย ถ้ายังปากดีใส่กูไม่เลิกนะ กูจะประกาศให้รู้ทั้งคณะเลย ว่ายัยนั่นเบี้ยหนี้กู ”
“เอาแบบนั้นเลยเหรอวะ ”
ผมยิ้มมุมปาก ก่อนเลิกคิ้วส่งให้เพื่อนเป็นคำตอบ