ตอนเที่ยงที่คณะสถาปัตย์
“เอ๊ะ!!! วันนี้แกไม่ต้องไปกินข้าวกับแฟนหรอ”
ฉันถามเพื่อนอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นสมายด์เดินตามฉันมายังโรงอาหาร
“ไม่อะ พี่ภูจะมากินข้าวด้วยกันที่นี่ ”
“อ้อ~”
ฉันพยักหน้าเข้าใจ และรีบเดินไปจองโต๊ะ
“เอาโต๊ะตัวยาวนะ เพื่อนพี่ภูมาด้วยหลายคน ”
แล้วฉันกับสมายด์ ก็เลือกโต๊ะตัวยาวที่นั่งกันได้หลายคน เพราะเห็นบอกว่าเพื่อนแฟนจะมาด้วย
เมื่อจัดการเอากระเป๋าวางจองโต๊ะเสร็จ ฉันก็แยกตัวไปซื้อข้าว และกลับมานั่งกินที่โต๊ะ
“กรี๊ด!!/กรี๊ด!!!”
กินข้าวได้แค่สองสามคำ ก็มีเสียงกรี๊ดจากนักศึกษาที่อยู่ในโรงอาหาร ฉันเงยหน้ามองที่มาของเสียงอย่างสงสัย ก่อนเห็นกลุ่มรุ่นพี่ในช็อปแดง เดินเรียงกันมาห้าคน และยังมีผู้หญิงหน้าตาสวยอีก1 ฉันจำได้ดีหนึ่งในนั้นคือแฟนของสมายด์ นึกไม่ถึงเลยว่ารุ่นพี่จะดูฮอตขนาดนี้ ฉันไล่สายตาไปเรื่อยๆ แต่ละคนทั้งหล่อและดูดีจนกระทั่งถึงคนสุดท้าย
“ไม่นะ”
ฉันพูดเบาๆกับตังเอง เมื่อเห็นหน้าคนสุดท้ายไม่ชัดสักเท่าไหร่ แต่พอจ้องอยู่สักพัก ฉันถึงกับเหงื่อซึมตามกรอบหน้าเลยทีเดียวเชียว ไอ้รุ่นพี่ปากเสียนั่นเป็นเพื่อนกับพี่ภูแฟนของสมายด์ มันมีอะไรที่ซวยซ้ำซวยซอนขนาดนี้อีกไหมนะ หรือชะตาฉันไม่สมพงษ์กับมหาลัยนี้วะ ในจังหวะที่ฉันกำลังสตั้น เขาก็หันมาสบตาฉันพอดี ฉันเห็นว่าเขากระตุกยิ้มมุมปาก มันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกสุดๆ จนฉันต้องรีบก้มหน้าตักข้าวยัดใส่ปาก ไม่มองดูเขาอีก นี่มันเจ้ากรรมนายเวรชัดๆ
“มาแล้วเหรอคะ หนูสั่งข้าวให้พี่ๆทุกคนแล้วค่ะ
ป้ากำลังทำ คงใกล้เสร็จแล้ว ”
“ขอบคุณครับน้องมายด์/ขอบใจจ๊ะ”
ฉันได้ยินบทสนทนาทุกคำเลย แต่ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ป่านนี้หมอนั่นคงมองดูฉันใหญ่ คงหัวเราะในท่าทีของฉันไปหมดแล้วมั้ง
พรึบ~
และตอนนี้ฉันเห็นในหางตาแล้วละ ว่ามีคนนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฉัน ขออย่าให้เป็นหมอนั่นเลยนะ
“โฟกัส นี่เพื่อนๆพี่ภูนะ รู้จักกันไว้สิ พี่ๆคะ นี่โฟกัสเพื่อนหนูเอง ”
หลังสิ้นเสียงแนะนำฉันก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ มองหน้าคนนั่งตรงข้ามฉันคนแรกเลย
-ธีร์ธัช-
หึ~มันจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ ยัยเด็กปากดีเป็นเพื่อนของน้องมายด์ แฟนไอ้ภูนี่เอง พอมาถึงผมก็นั่งลงตรงข้ามเธอเลย ก้มหน้าก้มตากินข้าว
ทำเป็นไม่สนใจงั้นเหรอ หลบหน้าผมเหรอมันไม่ง่ายนักหรอก
พอน้องมายด์แนะนำให้เธอรู้จักกับพวกผมแค่นั้นแหละ เธอก็เงยหน้ามามองผมก่อนเลย
หน้าตาเธอดูตลกชะมัด คงทำตัวแทบไม่ถูกสินะ ผมจึงเลิกคิ้วกวนๆใส่เธอหนึ่งที
“ สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูชื่อโฟกัสนะคะ เป็นเพื่อนของสมายด์ ”
“หวัดดีจ๊ะน่ารักจังเลย /หวัดดีครับ ”
เพื่อนผมทักทายกลับ และก็ชมเด็กนี่ว่าน่ารัก
น่ารักเหรอ เห็นสกิลปากของเธอรึยัง เธอหันกลับมาสบตากับผมอีกครั้ง ผมจึงถามเธอขึ้นพร้อมยิ้มมุมปาก
“ไง~ตอนนี้ดูเรียบร้อยเชียว ไม่เห็นปากดีเหมือนตอนคุยกันเมื่อเช้า ”
พอผมพูดแค่นั้นแหละ เพื่อนๆก็หันมามองกันใหญ่
“มึงรู้จักน้องโฟกัสเหรอวะไอ้ธีร์ ”
ไอ้คูเปอร์ถามขึ้น พร้อมทำหน้าสงสัย
“นั่นนะสิคะ พี่ธีร์กับโฟกัสรู้จักกันเหรอคะ ”
ทั้งน้องมายด์และคนอื่นๆ ต่างก็มองผมกับยัยโฟกัสปากดีนี่เพื่อรอคำตอบ
“ก็เด็กนี่แหละ ขับรถชนท้ายรถกู แล้วยังพูดไม่ดีอีก ”
“เฮ้ย!!จริงดิ เพื่อนน้องมายด์นี่นะ ”
“พี่ธีร์เองเหรอที่แกขับรถชน ทำไมมันบังเอิญขนาดนี้ ”
ยัยเด็กปากดีพยักหน้ารับรัวๆ ไม่เห็นปากดีเหมือนตนอยู่กันสองคนเลย
“แต่ที่ฉันพูดไม่ดีกับพี่ เพราะพี่พูดไม่ดีกับฉันก่อนนะ ”
“ขนาดนี้แล้วยังจะเถียงอีกเหรอวะ ”
ผมเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาอีกละ
“เฮ้ย!!มึงก็ใจเย็นก่อนดิวะไอ้ธีร์ ให้เวลาน้องหาเงินบ้าง น้องก็ยังเรียนอยู่มึงจะอะไรนักหนา ”
ไอ้วาคิมพูดขึ้น เห็นเด็กนี่หน้าตาดีหน่อยไม่ได้
เมื่อวานมันยังโมโหแทนผมอยู่เลย กิ้งก่าเปลี่ยนสีชัดๆ
“มึงจะจ่ายแทนไหมละสัสคิม สองแสน ”
ผมเลิกคิ้วสูงถามเพื่อน
“ฉันไม่ต้องให้ใครมาจ่ายแทนค่ะ จะรีบหามาจ่ายไม่เบี้ยวแน่นอน พี่ๆเป็นพยานได้ ”
-โฟกัส-
ฉันกำหมัดแน่น อยากชกไอ้รุ่นพี่นิสัยเสียนี่เต็มที
“ก็ดี…แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ เธอควรระบุให้ชัดเจนนะ ว่าจะจ่ายได้วันไหน ”
“เริ่มงวดแรกต้นเดือนหน้าค่ะ ”
ฉันรีบรับปากไปก่อนเพื่อตัดรำคาญ
“โอเค~ทุกคนเป็นพยานนะ ”
พอตกลงกันได้ฉันก็นั่งกินข้าวต่อ แต่ก็กินแทบไม่ลง เพราะเหมือนพี่ธีร์เอาแต่มองหน้าฉัน จนบางครั้งฉันต้องแสดงให้เขารู้ ว่าฉันรู้นะว่าเขามอง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการเลิกคิ้วกวนๆ
ซัดหน้าซักทีดีไหม
“พี่ภูคะ หนูเคยได้ยินว่าผับเฮียไดม่อนรับพาร์ทไทม์ ตอนนี้ยังรับอยู่มั้ย พอดีโฟกัสกำลังหางานทำ”
อยู่ๆสมายด์ก็พูดขึ้นกลางโต๊ะ เหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ ฉันรีบหันไปมองหน้าพี่ภูเพื่อรอฟังคำตอบ
รู้สึกมีความหวังขึ้นมานิดๆ
“รับนะ จะทำรึเปล่า เดี๋ยวพี่ฝากให้ ”
ฉันตาโตขึ้นมาทันที
“ทำค่ะทำ เริ่มงานวันนี้หรือพรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ หนูพร้อม ”
ฉันรีบบอกพี่ภูอย่างดีใจ
“โอเค พี่ขอถามเฮียก่อน แล้วเดี๋ยวให้มายด์บอกนะ ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภูใจดีมากเลย ”
ฉันรีบยกมือไหว้พี่ภู ก่อนปรายตามองพี่ธีร์ พร้อมพูดผ่านไรฟัน
“ไม่เหมือนบางคน ใจร้ายปากเสีย ”
แล้วยังเบ้ปากน้อยๆไปอีก1ที จนอีตานี่ขบกรามแน่น โมโหควันออกหูไปเลยสิ