“จูบสิ...”
เสียงเล็กพึมพำที่มีเพียงเรา 2 คนเท่านั้นที่ได้ยิน พร้อมกับร่างบางโน้มตัวเข้าไปใกล้วางมือทั้งสองลงกับโต๊ะด้านหลังแอสตัน กักตัวเขาให้อยู่ภายในอ้อมแขนของตัวเอง ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวยขยับพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการท้าทาย
เพราะฉันรู้ดีกว่าเขาไม่ทำ เราขยะแขยงกันยิ่งกว่าแมลงซะอีก คำท้าทายที่อีกฝ่ายทำได้แค่เพียงนิ่งไม่ตอบโต้ ๆ ใดมันทำให้สนุกอย่างบอกไม่ถูกเลย พออยู่ในโหมดหุบปากไม่พูดมากค่อยรู้สึกว่าสมกับที่เป็นฝาแฝดกับมาร์ตินขึ้นมาหน่อย
ปกติพูดมาก น่ารำคาญแล้วยังปากไม่ดีสุด ๆ อีกด้วย
“จูบ”
“....” แอสตันยังคงนิ่ง แววตาสีหน้าเรียบเฉยจ้องมองยังฉัน ซึ่งตัวเองก็มองกลับอย่างไม่หลบสายตาเช่นกัน ทำไมต้องหลบ ทำไมต้องกลัว...เพราะไม่เคยกลัวเลยสักครั้ง
“ตอนอยู่ต่อหน้าเด็กเก่านายยังพูดจะจูบอยู่เลย ทีนี้ไม่กล้าแล้วเหรอ...มีดีแค่ปากจริง ๆ ด้วย”
“....”
“คนเป็นแฟนมันน้อยในใจนะคะ ~” น้อยใจกับผีน่ะสิ สะใจมากกว่าทำให้อีกฝ่ายนิ่งไปเลย
“....”
“แฟนเก่าทำยังไง ทำไมไม่ทำกับแฟนคนปัจจุบันแบบเดียวกันล่ะคะ น่าน้อยใจจัง...” เป็นการน้อยใจที่สร้างความหมั่นไส้ให้เขาไม่หยุด
“ท้าทายไม่หยุดเพราะอยากลอง” หลังจากเงียบอยู่นานในที่สุดก็เปิดปากพูด นัยน์ตาคมจ้องลึกเข้ามาราวกับสะกดไม่ให้ฉันหลบสายตา ไม่หลบอยู่แล้วไม่เคยกลัว
“เรื่องพวกนั้นฉันจะลองกับใครก็ได้หมดนั่นแหละ ยกเว้นนายเห็นหน้าก็ทำไม่ลงละ” พูดจบก็ปล่อยมือที่ยันบนโต๊ะออก เพื่อพาตัวเองกลับมายืนในท่าหลังตรง
หมอนี่หล่อมากนะ หล่อเกินคนแล้วยังดูดีมาก ๆ ด้วย แต่ก็แค่นั่นแหละความหล่อไม่ได้มีผลกับฉันและในจังหวะที่กำลังพาตัวเองออกห่าง จู่ ๆ ฝ่ามือใหญ่คว้าจับเข้ายังแขนทั้งสอง
หมับ!
แอสตันออกแรงดึงร่างบางเข้าหาตัวโดยไม่สนใจว่าคนถูกกระชากนั้นจะเป็นยังไง มือเล็กยกขึ้นดันอกกว้างเอาไว้ ปฏิกิริยาป้องกันตัวเกิดขึ้นอัตโนมัติ ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจแต่แล้วก็สามารถกลับมามีสีหน้าที่เป็นปกติได้
“หึ...เมื่อกี้หน้าซีดเชียว คิดว่าฉันจะดึงมาจูบเหรอ” แอสตันยิ้มเยาะมุมปาก คิ้วเข้มเลิกมองอย่างกวนประสาท
“ใช่ กลัวล้างปากไม่ทันห้องน้ำที่นี่อยู่ไกลระ อื้อ!”
เพียงเสี้ยววินาทีร่างบางถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด แขนแกร่งยกรั้งเอวเข้าชิดตัวแล้วใช้มืออีกข้างยกขึ้นสอดเข้าใต้ท้ายทอย ออกแรงกดบังคับให้หันหน้าเข้าหาตัวเอง ก่อนจะตามด้วยริมฝีปากนุ่มหยุ่นประกบทาบทับครอบครองช่วงชิงจูบแรกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตุบ! ตุบ!
กำปั้นเล็กยกทุบอกกว้างแล้วพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดแต่ก็ไร้ผล ด้วยแรงที่ต่างกันลิบลับและขนาดตัวเมื่อเทียบกับคนตรงหน้า ฉันสูงเลยไหล่แอสตันมานิดเดียวเอง
ลิ้นร้อนละเลียดริมฝีปากล่าง ใช้ลิ้นดันให้ปากเล็กเผยอคลายตอบรับเรียวลิ้นจากอีกฝ่าย แอสตันกระชับอ้อมแขนแน่นยิ่งขึ้นพร้อมทั้งกดจูบรุกล้ำไม่หยุด เขาเอียงใบหน้าในองศาให้จูบได้ถนัดยิ่งขึ้น เสียงอืออาดังอยู่ในลำคอ พยายามทักท้วงก็ถูกจูบของเขากดกลืนเสียงเหล่านั้นให้หายไป
ปลายลิ้นสัมผัสกันในปากร้อนทำเอาหัวใจของฉันเต้นถี่ระรัว มือที่ยกดันตัวเขาเปลี่ยนมาเป็นกำสาบเสื้อแน่น ลิ้นชื้นเกี่ยวพันแลกจูบอย่างดูดดื่มแต่เป็นฝ่ายเขาที่รุกเร้าไม่หยุด และแล้วแอสตันก็ทำทีเหมือนจะผละจูบออกแต่แล้วก็กดปากประกบลงมาอีกครั้ง
“อื้อ...”
ริมฝีปากประกบลงมาหนักหน่วงกว่าเดิม บดบี้จนปากบางเริ่มแดงก่ำ ฝ่ามือใหญ่ยกโอบแผ่นหลังกดคนตัวเล็กไม่ให้ดิ้นหนีไปจากเขาได้ ในหัวอื้ออึงไปหมดไม่ได้ยินเสียงใดรอบตัวทั้งสิ้น รับรู้เพียงสัมผัสนุ่มที่ปาก รสเหล้าจากปากของเขากับหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง
“...จูบไม่เป็น” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยพูดหลังผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง แขนที่กอดเอวยังไม่ยอมปล่อยให้ออกห่าง ดวงตาคมจ้องใบหน้าสวยที่แดงจนถึงใบหู ริมฝีปากค่อย ๆ ยกยิ้มมุมปาก
“....” ดวงตากลมโตเบิกโพลง อยู่ในอาการนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“จูบแรก” แอสตันถามขึ้นอีกรอบ
“....” ไม่มีการตอบกลับสำหรับทุกคำถามของเขา ฉันพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอด แต่ยิ่งต่อต้านอีกฝ่ายกลับยิ่งกอดแน่นขึ้น
“ว่าแล้วท้าทายจัง อยากลองนี่เองแม้แต่จูบยังไม่เคยเลย จืดสนิท จืดโคตร ๆ นอกจากหน้าแล้วมีอะไรดีบ้าง” คำพูดเจ็บแสบที่ฉันชินชา แต่ก็โมโหได้ทุกครั้งที่ได้รับ!
พรึ่บ!
กระเป๋าในมือของฉันถูกเหวี่ยงเต็มแรงอย่างตั้งใจให้มันโดนคนตรงหน้า และนั่นทำให้แอสตันปล่อยแขนที่กอดฉันอยู่ออกเอี้ยวตัวหลบได้ทัน เมื่อได้เป็นอิสระเท้าเล็กก้าวเดินถอยหลังออกห่าง แล้วหมุนตัวเพื่อเดินออกไปทางประตู
หมับ! ปึก!
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ เพียงอีกนิดเดียวจะถึงประตูแต่ถูกมือหนาจับแขนเอาไว้ กระชากให้หันหน้ามาหาตัวเอง จากนั้นก็ดันตัวฉันให้หลังชนประตูเบื้องหน้าคือคนตัวสูงที่กักให้อยู่ใต้ร่างเขา
“โดนหน้า” โดนหน้าเหรอ? ความรู้สึกฉันเหมือนว่ามันไม่น่าจะโดนเลยนะ แต่โดนก็ดีแย่จัง มันควรจะโดนแบบเน้น ๆ เข้าเต็มหน้ามากกว่านี้
“ก็โดนไปสิ หนาขนาดนี้ไม่ตายหรอก” ฉันตอบกลับอย่างไม่แยแส บังคับสายตาให้หันมองไปทางอื่นแต่สุดท้ายก็โฟกัสที่ริมฝีปากแดงของคนตรงหน้า
ภาพเมื่อกี้มันวนเข้ามาในหัวอีกแล้ว กรี๊ด!
“ปาก” พูดถึงปากขึ้นมาทำไมอีก!
“ทำไมมีปัญหาอะไรกับปาก แล้วจะปล่อยได้หรือยัง...ปล่อยจะกลับบ้าน!” ฉันพยายามแกะมือที่จับแขนตัวเองออก แต่ยิ่งพยายามดึงมือแอสตันออก แรงบีบที่แขนก็ยิ่งแน่นขึ้น
“จะรีบกลับไปไหนวันนี้เธอเหมาทั้งหมดเลย เหมาเพื่อมาอยู่กับแฟนไม่ใช่เหรอ” แอสตันโน้มหน้าลงมาใกล้ในขณะที่พูด ทำให้ฉันพยายามเบือนหน้าหลบสุดตัว หันจนคอจะหักเขาก็ยังไม่หยุดยื่นหน้าเข้ามาหา
“เปลี่ยนใจเห็นหน้าแล้วจะอ้วก อยู่ใกล้กับสิ่งอัปมงคลมากไม่ได้รู้สึกอยากกลับบ้านขึ้นมาละ อย่าเอาหน้ามาใกล้ได้มั้ย เอาหน้าออกไป!” ด่าเท่าไรก็ดูไม่สำนึกเลย ยิ่งผลักไสยิ่งถูกไล่ต้อนกลับมาให้จนมุม แขนทั้งสองถูกจับเอาไว้แน่นไม่สามารถดิ้นหลุดไปจากแอสตันได้
“ปากไม่ตรงกับใจเลย หัวใจเธอเต้นแรงมาก...รู้สึกกับฉันเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามข้างหูทำฉันถึงกับชะงักไป เราอยู่ใกล้กันเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของตัวเองอย่างชัดเจนขนาดนี้
ใช่...หัวใจของฉันเต้นแรง แต่ที่เต้นแรงมันไม่ได้มาจากความรู้สึกดีแน่นอน!
“อย่าเพ้อเจ้อ หุบปะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่” ใบหน้าสวยหันไปตอบกลับแอสตัน ปากที่กำลังขยับพูดต้องหยุดชะงักกับสิ่งที่เขาโชว์ขึ้นให้เห็น
แอสตันปล่อยมือออกจากแขนฉันข้างหนึ่ง ล้วงหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดโชว์หน้าจอที่เป็นภาพถ่ายมุมข้างใบหน้าของฉัน มองยังไงก็รู้ว่ามันคือเรา 2 คนแน่นอน
เขาถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทันรู้ตัวเลย ภาพนั้น...จังหวะที่เราจูบกัน