(ปิดจ๊อบยังวะ)
เสียงแจ้งเตือนที่เด้งเข้ามาทำให้ผมขมวดคิ้ว นี่เพิ่งวันแรกเองนะ มันรีบ
ไปไหนวะ
“ใจเย็น เดี๋ยวไก่ตื่น”
ผมพิมพ์ตอบกลับไปแล้วเตรียมจะกดเข้าดูตารางเรียนของพรุ่งนี้ ทว่าโทรศัพท์ในมือกลับสั่นไหวกะทันหัน เหตุเพราะมีคนโทรเข้ามา และที่ทำให้ผมแปลกใจจนต้องรีบเด้งตัวขึ้นนั่ง นั่นเป็นเพราะปลายสายคือยัยเด็กก้านตอง เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าวะ?
“ว่าไง”
ผมกรอกเสียงลงอย่างราบเรียบ แล้วรอฟังว่าปลายสายจะพูดอะไรออกมา
“พะ พี่ไทน์ มีคนมาเคาะห้องอีกแล้วค่ะ”
เสียงสะอื้นสั่น ๆ ทำเอาผมหูผึ่ง ประกอบกับเสียงเคาะประตูดังสนั่นยิ่งทำให้ผมนั่งไม่ติด
“โทรบอกนิติยัง?”
“ไม่มีคนรับสายเลยค่ะ ฮึก! พี่ไทน์มาได้ไหมคะ หนูกลัว”
“ห้ามวางสายนะ จะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบก็ไม่รอช้า ผมรีบถือกุญแจรถแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ระหว่างนี้ก็เรียกก้านตองเป็นระยะ พอใกล้ถึงหอ เธอก็บอกว่าเสียงเคาะหายไปแล้ว แต่ผมยังไม่สบายใจเลยอยากขึ้นไปดูให้เห็นกับตาก่อนว่าเธอปลอดภัยแล้วจริง ๆ
ก๊อก ก๊อก!
“นี่ฉันเองนะ เปิดประตูให้หน่อย”
มาถึงหน้าห้องก็ไม่เจอใครแล้ว ผมเคาะประตูเรียกแล้วรออยู่สักพักประตู
ก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออก
“พี่ไทน์...”
“ชั้นนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดเลยเหรอ?”
ผมเข้ามาในห้องแล้วสังเกตความผิดปกติ พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
จะน่าห่วงก็แต่ใต้ตาแดงก่ำที่เกิดจากการร้องไห้เพราะเสียขวัญ
“มีค่ะ แต่ว่ากล้องเสียเมื่อสองวันก่อน เห็นว่ากล้องตัวใหม่จะมาติดพรุ่งนี้ค่ะ”
“หอพักเหี้ยไรวะ แม่งไร้มาตรฐาน”
ผมพึมพำเสียงเบาก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดนอนผ้าซาตินสีชมพู กระโปรงยาวเลยหัวเข่าลงมาเกือบถึงคืบ แถมข้างบนยังเป็นเพียงสายเดี่ยวเผยให้เห็นไหปลาร้าเนียนสวยและเนินอกอวบอิ่มอีกด้วย แม้จะใส่แว่นตาอันหนาเตอะอยู่ แต่รูปร่างของเธอกลับเซ็กซี่จนสะกดสายตาผมไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ไทน์เสียเวลา”
เธอกล่าวอย่างรู้สึกผิดพร้อมกับยกมือขึ้นพนมที่เนินอก
“ไม่เป็นไร แล้วคืนนี้เอาไง นอนได้เหรอ เดี๋ยวมันย้อนกลับมาอีกนะ”
“เอ่อ...”
เธออ้ำอึ้งพลางครุ่นคิดอย่างหนักว่าควรทำอย่างไรต่อ
“งั้นเอางี้ ฉันจะนอนเป็นเพื่อนแล้วกัน”
“จะดีเหรอคะ ถ้าแฟนพี่ไทน์รู้เข้า... เขาอาจจะไม่พอใจก็ได้นะคะ”
คนตัวเล็กเอ่ยถามโดยไม่กล้าสบตา
“ฉันไม่มีแฟน ไม่ต้องเกรงใจใครหรอก แล้วเธอล่ะ? มีแฟนไหม”
“หนูก็ยังไม่มีค่ะ”
“ก็ดี”
เข้าทางแฮะ เพราะถ้ายัยนี่มีแฟนนี่ยุ่งเลย ผมไม่ชอบยุ่งกับคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว เพราะเกลียดการเป็นตัวเลือกของใคร
“งั้นฉันนอนบนโซฟาแล้วกันนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ไทน์ พี่ไปนอนบนเตียงเถอะ”
เธอรีบคัดค้านอย่างเกรงใจ
“ได้ไงล่ะ เธอไปนอนบนเตียงเถอะ เดี๋ยวฉันนอนโซฟาเอง”
ผมเดินไปวางกุญแจรถแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาอันหนานุ่ม เห็นแล้วว่าโซฟามันสั้นกว่าส่วนสูงผม จึงรีบเหยียดขาตรง ๆ ให้เจ้าของห้องมองเห็นว่าผมนอนบนนี้ได้ไม่ถนัด
“เอ่อ... หนูว่าเตียงมันก็กว้างอยู่ พี่ไทน์นอนบนเตียงด้วยกันก็ได้นะคะ เดี๋ยวหนูเอาหมอนข้างกั้นไว้ให้”
หึ... เสร็จโจร
“จะดีหรือไง เธอเป็นผู้หญิงนะ เดี๋ยวก็เสียหายหรอก”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ถือ”
ยัยบื้อเอ๊ย ไว้ใจคนง่ายจริง ๆ อยู่รอดปลอดภัยมาถึงตอนนี้ได้ยังไงวะเนี่ย
“งั้นไม่เกรงใจละนะ”
ผมขยับเปลี่ยนที่นอนทันที รีบเดินตามหลังเธอไปนอนบนเตียงสีชมพู
อันหนานุ่ม บนหัวเตียงมีตุ๊กตาหมีอยู่สองสามตัว ทุกอย่างดูหวานแหวว
ไปเสียหมด
พอทิ้งหัวลงหมอนแล้วต่างฝ่ายก็ต่างเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเบา ๆ ข้างฝาผนังที่ยังทำงานอยู่ รอบ ๆ มืดสนิท มีเพียงแสงไฟสีขาวนวลที่สาดลอดช่องผ้าม่านเข้ามาเท่านั้น
“ขอโทษนะ”
“คะ?”
ในที่สุดผมก็เอ่ยปากทำลายบรรยากาศความเงียบที่มีอยู่ก่อนหน้าให้พังทลาย
“เรื่องที่สั่งให้เธอปั่นจิ้งหรีดน่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำโทษหนักขนาดนั้น”
“อ๋ออ ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูเข้าใจ พี่เป็นพี่ว้ากนี่ ถ้าไม่โหดแล้วใครจะกลัวล่ะคะ”
ผมพลิกตัวหันไปมองอีกฝ่าย แล้วแอบดึงหมอนข้างที่คั่นกลางลงไปข้างล่างเพื่อจะให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
“แล้ว... ทำไมถึงชื่อก้านตองเหรอ”
ผมชวนคุยไปเรื่อย ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตว่าผมขยับเข้าไปชิดเธอมากขึ้น
“ที่บ้านทำสวนกล้วยน่ะค่ะ เลยได้ชื่อนี้มา แล้วเป็นชื่อที่บอบบางมาก ๆ เหมือนตัวหนูเลย อ่อนแอ ป่วยง่าย แค่เอามือจิ้มใบตองเบา ๆ
ก็แตกแล้ว”
เธอบอกติดตลก พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ
“เหรอ...”
ผมขยับเข้าไปใกล้จนชิดตัว ก่อนจะจิ้มนิ้วลงที่ต้นแขนอย่างแผ่วเบา
“ก็ไม่เห็นจะแตกนี่”
“พี่ไทน์จิ้มเบานี่คะ ต้องจิ้มแรงกว่านี้อีก”
“หึ ๆ เหรอ... อนุญาตให้จิ้มแล้วใช่ไหม?”
คนข้างกายเงียบไปครู่หนึ่ง แม้มองไม่เห็นหน้าผมก็รู้ว่าเธอกำลังงงงวยเล็กน้อย
มือหนาค่อย ๆ สอดเข้าไปใต้ผ้าห่ม สัมผัสต้นขาของอีกฝ่ายพร้อมกับ
ลูบขึ้นอย่างเชื่องช้า
“พะ พี่ไทน์ จะทำอะไรคะ”
“ก็บอกให้จิ้มแรง ๆ ไม่ใช่หรือไง ฉันก็กำลังจะลองจิ้มดู”
คนตัวเล็กเอาแต่นอนตัวแข็งทื่อ ปล่อยให้ผมเลื่อนนิ้วมาหยุดอยู่ที่ช่องทางสวรรค์ ทว่ากลับถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยกางเกงในผืนบาง
“กลัวเหรอ ตัวเกร็งเชียว”
“ค่ะ... นะ หนูไม่เคย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันสอนให้”
ปลายนิ้วลากผ่อนร่องน้ำกลางลำตัวอย่างเชื่องช้า รอไม่นานก็รับรู้ได้ถึงความเฉอะแฉะที่เยิ้มออกมาสัมผัสที่ปลายนิ้ว ความอยากกระหายของเธอนี่มันจุดติดง่ายจริง ๆ ก้านตอง
“พร้อมหรือเปล่า ถ้าไม่พร้อมฉันจะได้หยุด”
“เอ่อ... พร้อมค่ะ”
ผมนึกว่าจะได้มาเก็บคะแนนต่อในวันพรุ่งนี้ ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจ
ให้อะไร ๆ มันง่ายไปหมด ในเมื่อเธอเปิดทางแล้ว ผมก็จะไม่เกรงใจ
พึ่บ!
โคมไฟหัวเตียงสว่างจ้าขึ้นท่ามกลางความมืด คนตัวเล็กหยีตามองหน้าผมโดยปราศจากแว่น ภาพยัยเด็กเฉิ่มถูกสลัดออกไปไม่เหลือชิ้นดี มีเพียงหญิงสาวที่เนินอกอวบอิ่มกระเพื่อมไหวขึ้นลงตามจังหวะก้านนิ้วรูดไปตามร่องรัก
เซ็กซี่ฉิบหาย... ยัยนี่มันของดีที่ซ่อนอยู่ในป่ากล้วยชัด ๆ
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะทำเบา ๆ”
ผมขยับขึ้นมาคร่อมทับร่างผอมบางเอาไว้หลวม ๆ ก่อนจะถลกกระโปรงของเธอขึ้นแล้วดึงกางเกงในสีดำตัวบางออกจากตัว
“พี่ไทน์! อย่าเพิ่งค่ะ”
เธอพยายามที่จะเอามือปิดจุดสงวนไว้ พลางหุบขาเข้าหากัน
“มาถึงขั้นนี้แล้วไม่ต้องอายหรอก ทำใจสบาย ๆ ฉันจะทำเบา ๆ”
“แต่ว่า...”
“ไม่ไว้ใจฉันแล้วเหรอ”
“...”
ผมแสร้งทำเป็นตัดพ้อจนอีกฝ่ายชะงัก จากนั้นก็ค่อย ๆ คลายมือออกอย่างเชื่องช้า เปิดโอกาสให้ผมได้รุกล้ำเข้าไปในร่างกายของเธอ
“เก่งมากเด็กดี ต่อไปก็อ้าขาออกกว้าง ๆ”
สิ้นคำพูดเรียวขาของเธอก็ถูกจับแยกออกจากกัน เผยให้เห็นกลีบดอกกุหลาบชมพูที่ฉ่ำน้ำอยู่ตรงหน้า สาบานเลยว่าผมไม่เคยเห็นใครที่มี
กลีบดอกน่าลิ้มลองขนาดนี้มาก่อน อดไม่ได้ที่จะคลี่ร่องรักแล้วแทรกหน้าเข้าไปกลางหว่างขา
“ฮึก!!”
เพียงปลายลิ้นสัมผัสเม็ดเสียวที่เด่นสง่า ร่างผอมบางก็บิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน ปลายเท้าจิกเกร็งลงพื้นที่นอนเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยาน
“พะ พี่ไทน์ อื้อออ”
เสียงครางกระเส่า ฟังแล้วหวานหูจนเผลอดูดเม็ดเสียวแรงขึ้นเท่าตัว
ทำเอาเสียงครางหวานดังไม่ได้ศัพท์ เจ้าตัวส่ายหน้าพัลวันพยายามจะ
ดิ้นหนีความเสียวที่ทะยานขึ้นอย่างไร้ขีดสุด
ปฏิเสธไม่ลงเลยว่ากลิ่นช่องทางรักจะซ่อนความหอมหวานเอาไว้ ผม
ไม่อาจละปลายลิ้นไปจากกลีบเนื้อสีชมพูระเรื่อนี้ได้เลย แม้คนถูกกระทำจะดิ้นพล่านด้วยแรงอารมณ์แทบจะขาดใจอยู่รอมร่อ
“อื้ออ พะ พอแล้วค่ะ หนูจะไม่ไหวแล้ว”
“หึ ๆ ปากบอกไม่ไหว แล้วขาที่พาดกดคอฉันอยู่ตอนนี้มันคืออะไรหือ?”
คนตัวเล็กเม้มปากแน่นอย่างเหนียมอาย ก่อนจะค่อย ๆ วางขาลงจาก
ต้นคอของผม
“อายทำไม? ทำดีแล้ว ฉันชอบแบบนี้แหละ”
ผมคลานขึ้นไปช้า ๆ พลางถลกชุดสีชมพูที่เธอสวมใส่ขึ้นมากองบนคอ
เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มขนาดเต็มกำมือ ชุดนักศึกษาตัวหลวมพราง
เนื้อแน่นตรงนี้ได้อย่างมิดชิด สาบานเลยว่าผมไม่เคยพอใจกับเรือนร่างของใครเท่านี้มาก่อน เธอทำให้ผมเซอร์ไพรส์ในทุกส่วนของร่างกายเลยละ
ผมโน้มหน้าลงละเลงชิมความอุ่นนุ่มจากยอดอกทีละน้อย มืออีกข้าง
ก็ขยำบีบเนินอกอิ่มฟูอย่างมันเขี้ยว
“อ๊ะ! สะ เสียว...”
เธอแอ่นอกรับปลายลิ้นร้อนชื้นอย่างรู้งาน มือเล็กรั้งท้ายทอยของผมไว้พร้อมกับขยำระบายความเสียวซ่านอย่างลืมตัว
“พร้อมจะขึ้นสวรรค์หรือยัง?”
ผมเลื่อนหน้าขึ้นไปกระซิบถามที่ข้างใบหู และไม่ลืมที่จะขบเม้มติ่งหูเบา ๆ อย่างหยอกล้อ เจ้าของใบหน้าเหยเกพยักหน้าระรัวพลางลอบกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น
ผมผละออกจากตัวเธอแล้วถลกเสื้อออกให้พ้นตัว ตามด้วยกางเกงขายาวสีดำเผยให้เห็นแท่งเนื้อแข็งขืนผงาดออกมาเต็มลำ ความใหญ่ยักษ์ของมันสร้างความน่าเกรงขามจนก้านตองเบิกตาโพลง
“ชิมไหม?”
ผมรูดสาวแท่งเนื้อที่ปริ่มน้ำสีใสให้เธอดูประกอบคำพูด
“เอ่อ... เอาไว้รอบหน้าก็ได้ค่ะ”
รอบหน้า? หึ ๆ ยัยเด็กน้อยเอ๊ย ไปมุดหัวอยู่ไหนมา ถึงไม่รู้ว่าฉันไม่เคยนอนกับใครซ้ำเป็นรอบที่สอง
“ถ้าฉันเผลอทำแรงบอกได้นะ ฉันไม่หยุด แต่จะเบาให้”
ผมเอี้ยวตัวไปหยิบถุงยางที่พกไว้ขึ้นมาสวม โชคดีที่พกเอาไว้ในรถด้วย
ผมเลยหยิบติดมือขึ้นมา ไม่คิดว่าจะปิดจ๊อบได้ไวขนาดนี้
“ห้องเก็บเสียงไหม?”
เธอพยักหน้ารับเบา ๆ แทนคำตอบ จังหวะที่ผมค่อย ๆ ถูแก่นเนื้อใส่ร่องรักฉ่ำน้ำ แค่ปากทางยังอุ่นขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าเข้าไปแล้วจะอุ่น
ขนาดไหน
“อ๊ะ!! จะ เจ็บ”
คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับเม้มปากแน่น ผมถึงค่อย ๆ เบามือ ลืมไปเลยว่าเป็นครั้งแรกของอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรนะ อีกหน่อยก็หายเจ็บแล้ว”
ผมเบี่ยงความสนใจโดยการโน้มลงไปบดจูบที่ริมฝีปากบางที่กำลังอ้าเผยอ ปลายลิ้นสอดเข้าไปแล้วตวัดหยอกล้อในโพรงปากนุ่มของอีกฝ่ายอย่างฉวยโอกาส
“อื้ออ”
เสียงครางกระเส่าดังออกมาด้วยความพึงพอใจ จนลืมไปว่าช่องทางรักกำลังถูกรุกล้ำด้วยอาวุธของผมช้า ๆ
แม่ง! แน่นเป็นบ้า แทบจะแตกอยู่แล้ว
“ฮึก! เอาออกก่อนได้ไหมคะ หนูเจ็บ”
“ชูววว อย่างอแงสิ อีกนิด”
สวบ!!
“ซี้ดดด!”
“อื้อออ”
คนตัวเล็กกำหัวไหล่ของผมเอาไว้แน่นพร้อมกับฝังปลายเล็บลงเข้าเนื้อ
ผมไม่ปล่อยให้เธอได้ทำใจ รีบขยับสะโพกออกจนเกือบสุดก่อนจะตอก
เข้าไปใหม่อย่างช้าเนิบ
“อ้าาา เพิ่งเสียบเข้ามาเองนะ ทำไมตอดแรงขนาดนี้ล่ะ”
อีกฝ่ายเอาแต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ แต่หารู้ไม่ว่าท่าทางของเธอกำลัง
ทำให้ผมลุ่มหลง
“อ้าขาออกกว่านี้ได้ไหม?”
“ดะ ได้ค่ะ”
เธอตอบเสียงสั่นพลางถ่างขาออกเล็กน้อย แต่ยังไม่สาแก่ใจจนผมต้อง
ยกขาอีกฝ่ายขึ้นมาพาดบนบ่า
“ไม่ต้องกัดปาก อยากครางก็คราง ปล่อยอารมณ์ออกมาได้เลย”
“อ๊ะ อื้ออ”
เธอยกมือขึ้นมาบีบกำเนินอกตัวเองในจังหวะที่กำลังถูกผมตอกกระแทกอย่างไต่ระดับ นั่นยิ่งเพิ่มความอยากกระหายให้กับผมจนไม่อาจยั้งตัวได้ ทำตัวเองแท้ ๆ เลยยัยเด็กนี่!
พั่บ พั่บ พั่บ!!
“อ๊ะ อ๊ะ พะ พี่ไทน์ มันแรงไปค่ะ”
“อ้าาา ครางชื่อฉัน”
ผมไม่สนแล้วว่าอีกฝ่ายจะร้องขออะไร นาทีนี้ความต้องการมันพุ่งทะยานจนใกล้จะถึงขีดสุดอยู่แล้ว
“อื้อออ”
“ก้านตอง! อ้าา ครางชื่อฉัน”
มือหนาบีบเข้าสันกรามอีกฝ่ายหลวม ๆ พร้อมกับประโยคบีบบังคับ ในที่สุดเธอก็ยอมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พะ พี่ไทน์ อ้าา หนูเสียว”
“ฮึก! ดีมาก”
ผมเลื่อนมือขึ้นไปช้า ๆ แล้วสอดปลายนิ้วเข้าปากอีกฝ่าย เธอรู้ว่าต้องทำยังไง จึงรีบดูดก้านนิ้วของผมพร้อมกับหลับตาพริ้ม
“อ้าา อย่างงั้นแหละก้านตอง”
ผมเผลอกระแทกร่างถาโถมอย่างหนักหน่วง ฟังเสียงครางที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ และถี่ขึ้นตามแรงกระแทกอันถี่ยิบ
“อ๊ะ อ๊ะ อื้ออ มะ ไม่ไหวแล้ววว”
เธอดึงนิ้วของผมออกจากปากพลางกุมเอาไว้แน่น ช่องทางรักเริ่มตอดรัดอย่างแรงบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังถึงจุดสุดยอด ผมจึงช่วยอีกแรงโดยการบดขยี้เม็ดเสียวประกอบกับโหมกระแทกหนัก ๆ
“อื้อออ”
สองมือเลื่อนขึ้นไปกำปลอกหมอนก่อนจะค่อย ๆ ตัวอ่อนระทวยลงเชื่องช้า
“ตาฉันบ้างนะ”
ส่งเธอขึ้นสวรรค์ไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาผมบ้าง สองมือเกาะเรียวขาไว้แน่นไม่ให้ขยับหนี ก่อนโถมตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยแล้วซอยสะโพกใส่อย่าง
เต็มเหนี่ยว
“อ๊ะ อ๊ะ อ้าาา พะ พี่ไทน์ หนูจะเสร็จอีกแล้ว”
“อ้าา อีกนิดตอง”
“อ๊ะ อ๊ะ นะ หนู อื้ออ”
สองร่างกายสอดประสานชิดกันจนสุด ก่อนที่ผมจะกระตุกของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเต็มถุงใส
คนตัวเล็กหอบกระเส่าเสียงดังพลางหลับตาพริ้มอย่างหมดเรี่ยวแรง
“เก่งเหมือนกันนะ ที่เอาฉันจบยกได้”
ผมลูบหัวคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะโน้มลงจูบที่หน้าผากอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
เห็นว่าเธอเจ็บระบมไม่น้อยก็รู้สึกผิด จึงอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ เสร็จแล้วก็ให้เธอไปรอที่ด้านนอกก่อน ส่วนตัวผมก็มาจัดการ
ล้างเนื้อตัวให้เรียบร้อย เตรียมจะออกไปจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ที่พกติดตัวมาด้วย
(กลัวไก่ตื่น หรือมึงไม่มีปัญญากินไก่วะไอ้เสือ)
ไอ้เรสเพิ่งจะตอบข้อความกลับมา แต่สบประมาทกันขนาดนี้ก็คงต้องอวดให้มันดูสักหน่อย ผมรีบกดเข้ากล้องแล้วถ่ายรูปตัวเองในลักษณะเปลือยท่อนบนให้มันดู พร้อมกับข้อความสั้น ๆ ว่า ปิดจ๊อบ
(ฮะ!!)
“โอนมา”
(เชี่ยยยย!! นี่มึงฉีกก้านตองแล้วเหรอวะ มึงนี่มันสุดจริงว่ะ กูนับถือ)
By: ก้านตอง
(ทำไมรีบร้อนจัง พี่บอกให้เล่นตัวสักสามวันก่อน)
เสียงแจ้งเตือนที่เด้งเข้ามาในตอนที่ฉันกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอย่างทุลักทุเล ตอนนี้พี่ไทน์กำลังเคลียร์ตัวเองอยู่ในห้องน้ำต่อ อีกหน่อยเขาคงออกมา
แล้วแหละ
ฉันเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะรีบตอบกลับ ตอนนี้เขาคงรู้แล้วว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ขอโทษค่ะพี่เรส เงินค่าจ้างแปดหมื่นเดี๋ยวตองโอนให้นะคะ รอพี่ไทน์กลับไปก่อน”
(โอนมาห้าหมื่นก็พอ พี่จะโอนให้ไอ้ไทน์ต่อ แล้วเรื่องนี้อย่าให้มันจับได้เด็ดขาดนะ ไม่งั้นมันโกรธพี่ตายห่าเลยที่ตลบหลังมันแบบนี้)
“ได้เลยค่าาา”
ยังไม่ทันพิมพ์อะไรเพิ่ม ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ฉันรีบกดลบบทสนทนาในมือถืออย่างรวดเร็วแล้วโยนโทรศัพท์เก็บไว้บนหัวเตียง รอจนอีกฝ่ายเดินมาถึงตัวก็แสร้งทำเป็นเจ็บหน่วงที่ท้องเพื่ออ้อนให้เขาอยู่ต่อจนถึงเช้า และแน่นอนมันได้ผล ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะเข้าใกล้เขากว่านี้ได้ เรา
ก็ต้องเขียนกติกาให้อีกฝ่ายเข้าหาเราแบบนี้แหละ...