Ep.4
Priew talk.
เอาล่ะ!
หลังจากฉันคุยกับคุณเจ้าขุน ซึ่งเป็นเจ้านายของฉันจนแน่ใจแล้วว่าท่านไม่ได้ประชด ฉันก็รีบเข้ามาเปลี่ยนชุดเก็บของเตรียมกลับไปนอนทันที
อะไรมันจะอเมซิงขนาดนี้ ไม่โดนดุและได้เลิกงานเร็ว แถมยังได้รับเงินเต็มจำนวน มีเจ้านายดีมันดีอย่างนี้นี่เอง อิอิ
เก็บกระเป๋าเสร็จฉันก็เดินออกทางประตูหลังเลยทันที แล้วก็เป็นโชคของฉันอีกนั่นแหละ ที่รถเมล์สายที่ฉันต้องนั่งกลับหอมันวิ่งตลอดทั้งคืน แค่มันนานๆ มาที แต่ไม่เป็นไร ฉันรอได้ เพื่อความประหยัด
ฉันเดินจนเกือบจะถึงป้ายรถเมล์ ฉันเดินอยู่ดีๆ ของฉัน แต่อยู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าฉันไปอย่างรวดเร็ว ฉันเบรกตัวเองแทบไม่ทัน ทำให้ฉันเกือบล้มลงไปกองกับพื้น!
"รีบไปตายที่ไหนเนี่ย !?" ฉันบ่นออกมาอย่างหัวเสีย พร้อมกระชับกระเป๋าเป้ตัวเองขึ้น แต่แล้วสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นฝูงคนกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังวิ่งมาทางที่ผู้ชายคนที่เกือบจะชนฉันวิ่งมา
ฉันตกใจตาเบิกกว้าง เมื่อฉันจำหนึ่งในฝูงคนที่กำลังวิ่งมาทางฉันได้!
"หยุดนะเว้ย! กูจับได้กูเอามึงตายแน่!"
เชี่ย!
เชี่ยจริงๆ เพราะพวกที่กำลังวิ่งมาทางฉัน ก็คือเจ้าหนี้ฉันเอง!
นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันนะ มาตามหนี้ถึงที่นี่เลยเหรอ
รออะไรล่ะครับ! ก็วิ่งสิ!
แล้วพอคิดได้แบบนั้น ฉันก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งไปทางเดียวกันกับผู้ชายคนนั้นทันที เพราะมันเป็นทางเดียวที่ฉันสามารถวิ่งหนีเจ้าหนี้พวกนั้นได้
มาทวงอะไรตอนนี้วะ ยังไม่ครบกำหนดจ่ายสักหน่อย!
แล้วทำไมครั้งนี้มาโหดกว่าทุกครั้งล่ะ ปกติไม่เห็นขู่ฆ่ากันแบบนี้เลย
เอ๊ะ! หรือว่าจับได้ที่ฉันแอบด่าพวกมันลับหลังประจำ ฮือ ไม่ๆ ไม่ใช่สิ เพราะเวลาฉันด่าฉันไม่ได้ด่าเสียงดังนะ ไม่น่ามีใครได้ยิน
โอ๊ยยย เครียด!
ฉันวิ่งหนีพวกนั้นอย่างไม่คิดชีวิต จนฉันเห็นแผ่นหลังของผู้ชายคนที่วิ่งเกือบจะชนฉันอยู่ข้างหน้าไม่ไกลท่าไหร่
แต่ไม่ใช่เวลามาสนใจเขา เพราะพวกที่ตามฉันมามันยังวิ่งตามมาติดๆ ฉันเลยต้องเร่งสปีดตัวเองให้วิ่งเร็วขึ้น
"เฮ้ย! หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!" พวกนั้นตะโกนตามหลังฉันขึ้นมาเสียงดัง ฉันจึงตะโกนสวนวกมันกลับไปทันที
"หยุดก็โง่น่ะสิ!" ใครจะไปโง่หยุดวะ ดูอาวุธในมือพวกมันแต่ละอย่างสิ ไม้หน้าสาม แท่งเหล็ก ไหนจะมีด ไหนจะปืนที่พวกมันยังไม่ชักออกมาอีกอะ ใครหยุดวิ่งตอนนี้ก็โง่เต็มทีแล้ว
และพอฉันตะโกนกลับไปแบบนั้น ผู้ชายที่วิ่งอยู่ข้างๆ ก็หันมาขมวดคิ้วมองฉันอย่างสงสัย
"!?"
"อะไร !?" ซึ่งฉันก็ถามไปทันทีที่ถูกเขามอง มองแบบนี้จะมีปัญหาอะไรกับฉันอีก คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ ใครมาเจ๊าะแจ๊ะตอนนี้ฉันสวนกลับหมดนะ บอกก่อน!
"วิ่งหนีอะไรมา" ผู้ชายคนนั้นถามฉัน ฉันจึงหันไปมองพวกข้างหลัง ก่อนจะหันกลับมาตอบคำถามเขา วิ่งก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ยังต้องมาพูดไปวิ่งไปอีก
"ก็ไอ้พวกนั้นไง ไม่รู้มาได้ไง อยู่ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้"
"พวกนั้น ?"
"ก็ไอ้พวกที่วิ่งตามฉันมาอยู่นั่นไง!"
เขาหันไปมองพวกข้างหลังทันทีที่ฉันพูดจบ ก่อนจะหันกลับมา แล้ว...
"s**t! ยัยโง่!" ด่าฉัน! ใช่ค่ะ! เขาหันไปมองพวกนั้นแล้วก็หันมาสบถหัวเสีย ก่อนจะด่าฉันออกมา
"เฮ้ย! อยู่ๆ มาด่าฉันทำไม เรารู้จักกันเหรอ?!!" คิดว่าหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำไรให้เลยนะ เขาถามฉันก็ตอบดีๆ อยู่ๆ มาด่าฉันเฉยเลย
"หยุดโง่ แล้วมานี่!" เขาไม่สนใจที่ฉันพูด แต่ยื่นมือออกมาจับแขนฉันแล้วดึงให้วิ่งเข้าไปในซอยเล็กๆ กับเขา
"ว้าย! จะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันนะ นายเป็นพวกเดียวกับพวกนั้นใช่ไหม!"
"หุบปาก แล้วตามมาเงียบๆ"
"นี่!"
"บอกให้เงียบไงวะ!"
เออ! เงียบก็ได้! ทำไมต้องทำเสียงน่ากลัวแบบนั้นใส่ด้วย นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่เปลี่ยวนะ อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมง่ายๆ ที่ยอมนี่ก็เพราะว่ากลัวโดนฆ่าตายหรอกนะ
และพอฉันเงียบ เขาก็หันไปมองข้างหลังอีกครั้ง ก่อนจะสบถออกมาอีกรอบ
"ตามมาทำไมนักหนักวะ! จิ๊!" เออนั่นสิ ตามมาทำไมวะ
"..." จะปริปากถามก็ไม่กล้า ได้แต่วิ่งตามแรงดึงของเขาไปแบบเงียบๆ
ฉันกับผู้ชายแปลกหน้าวิ่งกันมาได้สักพัก แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุดพ้นพวกที่ตามมาได้ง่ายๆ
สักพักผู้ชายคนแปลกหน้าก็ล้วงสมาร์ตโฟนตัวเองออกมา ก่อนจะกดต่อสายหาใครก็ไม่รู้
"จีน มึงออกมารอกูหน้าผับหน่อย กูมีเรื่องจะให้มึงช่วย เออ พวกเดิมแหละ เอาคนของพ่อมึงมาด้วยนะ แค่นี้ก่อน"
ไม่รู้ว่าที่เขาพูดมันหมายถึงอะไร พอพูดจบเขาก็เก็บสมาร์ตโฟนตัวเองเข้ากระเป๋าตามเดิม ก่อนจะพาฉันวิ่งลัดเลาะตามซอกซอย เพื่อจะกลับไปที่ผับเหมือนเดิม
"นี่นาย! จะวิ่งกลับมาอีกทำไม เผื่อมีคนของพวกนั้นอยู่นี่ล่ะ"
"..."
เขาไม่ตอบคำถามฉัน และยังคงวิ่งต่อ
"ไอ้ติณณ์! ถ้ากูจับมึงได้ มึงไม่รอดแน่! หยุดนะเว้ย!"
ไอ้ติณณ์ ? ผู้ชายคนนี้ชื่อติณณ์เหรอ
"นาย...ชื่อติณณ์เหรอ!?" เมื่อเกิดความสงสัย ฉันจึงตัดสินใจถามเขาออกไปเสียงหอบ
"จะถามทำไม!?" เอ๊า! หงุดหงิดใส่กูอีก!
"กะ...ก็อยากรู้ว่าพวกนั้นเรียกมันหมายถึงนายไหม"
"เออ หมายถึงฉันนี่แหละ"
"ฮะ!!" อึ้งแดกเลยไหมกู
หลังจากที่พวกนั้นมันเอ่ยชื่อออกมา และชื่อที่พวกมันเรียกก็คือชื่อของผู้ชายคนนี้!...
โอ๊ยยยย! ฉันอยากจะทึ้งหัวตัวเองให้ตายไปซะตอนนี้
ฉันพอจะประมวลและเข้าใจทุกอย่างแล้ว! หลังจากที่ฉันคิดย้อนกลับไปก่อนหน้านี้...
คนที่พวกนั้นวิ่งตามไม่ใช่ฉัน แต่เป็นอีตานี่! เพราะตอนที่ฉันกำลังจะเดินไปป้ายรถเมล์และเจอเขาวิ่งมา คือเขากำลังหนีพวกนั้นที่กำลังวิ่งตามเขา!
ใช่จริงๆ ด้วย เพราะพอฉันสังเกตหน้าเขาดีๆ คือหน้าเขามีรอยฟกช้ำเต็มเลย คงโดนซ้อมมาก่อนถึงได้วิ่งหนีมาแบบนั้น
และสุดท้ายคือ...ฉันมันโง่เองที่คิดว่าพวกนั้นมาทวงหนี้ อยากจะเอาหัวทุบพื้น!
โอ๊ยยยย!
วิ่งมาสักพักเราทั้งคู่ก็วิ่งมาถึงหน้าผับ พอวิ่งมาถึงก็มีบอดี้การ์ดจำนวนหนึ่งวิ่งมาคุ้มกันเราสองคนไว้ทันที อย่างกับในหนังแน่ะ! ไม่คิดเลยว่าความโง่ จะทำให้ฉันเจอเรื่องแบบนี้
พอมีคนมาคุ้มกันก็ทำให้พวกที่วิ่งตามมาทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องขึ้นรถกลับไปอย่างหัวเสีย...
"จะเข้าไปข้างในก่อนหรือจะกลับเลย ?"
"กลับเลย"
"แล้ว ?"
ฉันที่กำลังก่นด่าตัวเองในใจ ก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่ออยู่ๆ ผู้ชายที่ติณณ์ก็มาสะกิดแขนฉัน
"อะไร" ฉันถามขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่เขาก็ไม่พูดอะไรแล้วมองไปยังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้ฉันต้องมองตาม...
หล่อ! นี่คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว เมื่อฉันหันไปและได้เห็นหน้าผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า บอกตรงๆ ว่าต่อมความแรดที่ไม่ได้ใช้งานมานานเริ่มทำงานเลยทันที คนอะไรจะงานดีขนาดนี้อะ
"เธอคือใครเหรอ ?" คนหล่อตรงหน้าถามผู้ชายที่ชื่อติณณ์พร้อมมองมาทางฉัน
"ไม่รู้-_-"
"แล้วมึงมากับเธอได้ยังไง"
ผู้ชายที่ชื่อติณณ์หันมามองฉัน ก่อนจะด่าฉันอีกครั้ง
"โง่ไม่เข้าเรื่อง"
เจ็บ! มันเจ็บจี๊ดถึงข้างในเลย รู้แล้วว่าโง่ แต่อย่าย้ำมากได้ไหม
"?" พอด่าฉันเสร็จ เขาก็หันไปตอบเพื่อนตัวเองที่ทำหน้างง และมองฉันกับเขาสลับกันอยู่
"กูไม่รู้จัก กูกลับละ ขอบใจมึงมาก"
"งั้นเดี๋ยวกูไปส่งมึงที่หอแล้วกัน กูก็จะกลับพอดี แล้ว...เธอกลับยังไง" คุยกับเพื่อนตัวเองเสร็จ คุณคนหล่อก็หันมาถามฉัน ทั้งหล่อทั้งละมุน โอ๊ย ดีต่อใจมาก
"รถเมล์ค่ะ"
"หือ รถเมล์เวลานี้มีด้วยเหรอ พักอยู่แถวไหนเดี๋ยวฉันไปส่ง" พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น ฉันก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที เกรงใจอะ
"ไม่เป็นไรๆ รถเมล์ที่ฉันจะขึ้นมันมีทั้งคืนนั่นแหละ แค่ต้องรอนานหน่อย ขอบคุณนะคะ" หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีอีก ต่างกับเพื่อนตัวเองมาก หน้าตาก็ดีแต่ปากจัดมาก
"เกรงใจไม่เข้าเรื่อง ขึ้นรถ!"
อีกแล้ว! ด่าฉันอีกแล้ว และแค่ด่าไม่พอ ยังลากฉันไปขึ้นรถอีก