-4-
ฅนเถื่อน
หลังจากกลับมาเก็บร้านเสร็จตอนสองทุ่มกว่า ๆ อังอังก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดใกล้ ๆ ร้านเพื่อที่จะไปฉลองวันเกิดต่อกับเพื่อน ๆ ของเธอที่นัดเอาไว้
"ชุดนี้น่าจะโอเคนะ" อังอังพูดกับตัวเองหน้ากระจกเงาก่อนจะหยิบลิปสติกสีแดงมาแต่งเติมริมฝีปากอวบอิ่มให้มีสีสันเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วจึงหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กคล้องบ่าไปที่รถมินิคูเปอร์เพื่อไปยังผับที่นัดกับเพื่อนไว้
@ผับแห่งหนึ่ง
ร่างบางในชุดเกาะอกรัดรูปเดินเข้ามาภายในผับท่ามกลางความสนใจของใครหลายต่อหลายคน เพราะรูปร่างที่สมส่วนและขนาดหน้าอกที่ใหญ่เกินมาตรฐานจนสะดุดตาทั้งชายหญิงภายในสถานที่เริงรมย์แห่งนี้รวมไปถึงต้นเพื่อนชายที่เคยสารภาพรักกับเธอตอน ม.ปลาย ก่อนที่เธอจะไปคบหากับขุนพลด้วย
"เป็นเจ้าของวันเกิดมาช้าจังเลยนะ" ต้นเอ่ยแซว
"อยู่ช่วยเด็กที่ร้านเก็บร้านน่ะเลยมาช้า โทษทีนะ" อังอังอธิบายด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
"เราเข้าใจแต่ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปร่วมงานพอดีติดงานไปไม่ได้จริง ๆ" ต้นบอก
"ไม่เป็นไรเลยอย่าไปคิดมากแค่จัดงานวันเกิดให้อังก็ดีใจแล้ว นึกว่ากลับมาไทยจะไม่มีเพื่อนแล้วซะอีก" อังอังตอบติดตลก
"พวกเราทุกคนเพื่อนอังทั้งนั้นแหละ มา ๆ ฉลองกัน"
งานเลี้ยงวันเกิดดำเนินไปอย่างสนุกสนานเพราะเสียงเพลงและสีสันภายในผับ จนกระทั่งถึงตอนเป่าเค้กที่ทางผับเป็นคนเปิดเพลงสุขสันต์วันเกิดให้กับอังอัง
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์คร้าบบบบบ~"
"สุขสันต์วันเกิดครับคนสวยยย"
"เอาผมเป็นของขวัญวันเกิดไหมครับ ฮิ้ววว~"
เสียงคำอวยพรวันเกิดจากผู้คนมากหน้าหลายตาภายในผับเรียกรอยยิ้มให้กับเจ้าของวันเกิดได้เป็นอย่างดี มือเรียวชูแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นสูงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ร่วมกันฉลองในค่ำคืนนี้
"อังเราอยากคุยอะไรด้วยหน่อย" ต้นเดินเข้ามาพูดกับอังอังที่นั่งดื่มอยู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ได้สิ ต้นมีอะไรเหรอ"
"ไปคุยข้างนอกได้ไหม"
"อืม" อังอังคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจลุกเดินตามต้นออกไป
"อังรู้ใช่ไหมว่าเราชอบอัง"
"อังว่าต้นเมาแล้วนะ กลับบ้านไหม อังไปส่งขึ้นแท็กซี่" อังอังเลือกที่จะเปลี่ยนประเด็นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศดูอึดอัด
"เราไม่ได้เมา ตอนนั้นที่เราบอกชอบอัง เราชอบอังจริง ๆ นะตอนนี้เราก็ยังชอบอังอยู่"
"ต้น อังว่าเราเป็นเพื่อนกันแบบนี้แหละดีอยู่แล้ว มันไม่มีความสัมพันธ์อะไรยั่งยืนไปกว่ามิตรภาพจริง ๆ หรอกเชื่ออังสิ" อังอังพยายามอธิบายไม่ให้ทำร้ายน้ำใจต้นเกินไป
"ถ้าเราอยากเป็นแค่เพื่อนกับอังเราไม่รออังกลับมาหรอกนะ"
"ต้นอย่าเป็นแบบนี้เลย อังอึดอัด" อังอังพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจเพราะหากเธอปฏิเสธไปตรง ๆ คงจะได้ผิดใจกัน
"แต่เราชอบอังจริง ๆ นะ อังจะเปิดใจให้เราหน่อยไม่ได้เหรอ"
"ต้นเราขอร้องนะอย่าทำแบบนี้เลย"
"ไม่! วันนี้เราจะไม่ไปไหนจนกว่าอังจะให้โอกาสเรา"
"งั้นวันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเอาไว้ต้นหายเมาเราค่อยคุยกันดีกว่านะ" พูดจบอังอังก็ตั้งท่าเตรียมจะเดินกลับเข้าไปภายในผับอีกครั้งทว่าเอวคอดก็ถูกต้นโอบกอดเอาไว้จากทางด้านหลัง
"ต้นปล่อยอังนะ!" อังอังพยายามดิ้นขืนตัวออกจากการเกาะกุมของต้นทว่าก็สู้เรี่ยวแรงของชายอกสามศอกไม่ได้
"ไม่! เราชอบอัง เราบอกแล้วไงว่าวันนี้เราจะไม่ปล่อยอังไปไหนอีกแล้ว"
"ต้นเมาแล้วนะปล่อยอังนะ! อย่าให้อังต้องรู้สึกแย่กับต้นเพราะเรื่องแค่นี้เลย" อังอังเริ่มขึ้นเสียงเมื่อต้นซุกใบหน้าคมคายลงมาที่ลำคอระหง
"พูดตรง ๆ มันจะตายรึไง"
เสียงดุดันที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมกับร่างของต้นที่ถูกกระชากออกไปทำให้อังอังต้องรีบหมุนตัวกลับไปมองในทันทีที่ร่างกายเป็นอิสระ
พลั่ก!
"ต้น!!!" อังอังกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อขุนพลปล่อยกำปั้นหนักใส่ใบหน้าหล่อเหลาของต้นจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะตามกลับไปกระทืบซ้ำราวกับสัตว์ป่าดุร้ายจนเธอต้องรีบเข้าไปดึงตัวขุนพลออกมาไม่ให้เขาทำร้ายต้นไปมากกว่านี้
"ผู้หญิงเขาบอกให้ปล่อย มึงไม่ได้ยินรึไงวะ!!"
ตุบ! พลั่ก! ผลัวะ!
"หยุดนะ หนูบอกให้หยุด" แรงดึงจากมือเรียวเล็กทำให้กำปั้นที่กำลังจะฟาดลงบนใบหน้าของต้นหยุดชะงักกลางอากาศ ขุนพลสะบัดท่อนแขนแกร่งออกจากข้อมือเรียวเล็กก่อนจะหันไปมองใบหน้าหวานอย่างคาดโทษ
"เป็นบ้ารึไงคะ!" อังอังตะโกนต่อว่าอดีตแฟนหนุ่มอย่างเหลืออดก่อนจะปรี่เข้าไปดูต้นที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ทว่าก็ถูกกระชากออกไปก่อนที่จะถึงตัวของต้น
"โอ๊ย! หนูเจ็บจะพาหนูไปไหนปล่อยนะ!" อังอังพยายามตะโกนกรีดร้องเมื่อร่างกายถูกอดีตแฟนหนุ่มฉุดกระชากออกมาอย่างป่าเถื่อนแต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับหรือความปรานีใด ๆ