-5-
รื้อฟื้นความจำ
ปึก!
ร่างบางถูกเหวี่ยงเข้ามาภายในรถสปอร์ตคันหรูอย่างแรงก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูรถและเครื่องยนต์ที่ถูกสตาร์ตออกไปตามลำดับ
"เฮียเป็นบ้าไปแล้วเหรอ จะพาหนูไปไหน" อังอังถามด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง สายตาพยายามมองตามทางที่รถกำลังขับเคลื่อนไป
"ทำไม อยู่กับผัวเก่าจะตาย ทีผู้ชายคนอื่นยอมให้กอดว่างั้น"
ขุนพลตอบกลับด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวไม่ต่างกัน ปลายเท้าออกแรงกดคันเร่งให้รถขับเคลื่อนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนอังอังต้องรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้
"เราคุยกันเรื่องนี้แล้วนะ อีกอย่างหนูจะกอดกับใครทำอะไรกับใครมันเกี่ยวอะไรกับเฮียด้วย เราเลิกกันไปตั้งนานแล้วอย่ามาทำตัวเป็นหมาหวงก้างแถวนี้นะ"
"ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่คิดว่าจะร่านขึ้นเยอะขนาดนี้เลยนะ ลองของใหม่จนพรุนหมดแล้วสิ"
"ทุเรศ! อย่าพูดจากับหนูแบบนี้นะ อย่าเอาความเลวของตัวเองมายัดเยียดให้กับคนอื่น" อังอังตะโกนตอบกลับด้วยน้ำเสียงโกรธจัด เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาดูถูกเธอ เพราะเขาต่างหากที่เป็นคนทำเรื่องเลวทรามทั้งหมด
"ทีกับเฮียอะปากดีจังนะ ทีกับพวกผู้ชายคนอื่นปากมีไว้ทำอะไรวะ"
"ก็หนูไม่อยากทำร้ายจิตใจคนอื่น"
"แล้วเฮียล่ะ หรือเป็นแค่ผัวเก่าเลยไม่จำเป็นต้องแคร์" ขุนพลตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
"จะพูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ ทำไมหนูต้องแคร์ผัวเก่าทั้ง ๆ ที่ตอนคบกันเฮียยังไม่แคร์ความรู้สึกของหนูเลย"
"ก็แค่ความผิดพลาดครั้งเดียว มันจะอะไรกันนักหนาวะ"
"ก็เพราะเฮียเป็นแบบนี้ไง! หนูถึงไม่อยากกลับมาเจอเฮียอีกเห็นแก่ตัว ตัวเองทำอะไรไม่เคยผิดเลย ถ้าหนูไปมีอะไรกับคนอื่นต่อหน้าต่อตาเฮียบ้างเฮียคงจะไม่พูดแบบนี้ใช่ปะ นี่ขนาดเลิกกันไปตั้งนานแล้วแต่พอหนูกลับมาเฮียก็มาทำตัวเป็นหมาหวงก้าง แล้วที่ผ่านมาเฮียหายหัวไปไหนมาวะ!" อังอังหันกลับไปตวาดลั่นรถราวกับคนเสียสติทั้ง ๆ ที่เธออุตส่าห์พยายามลืมเรื่องราวในอดีตไปแล้ว เขาจะกลับมาพูดให้เธอคิดถึงมันอีกทำไม
"งั้นหลังจากนี้ก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ"
"เฮียจะทำอะไร จอดรถเดี๋ยวนี้นะ! อย่าทำให้หนูต้องเกลียดเฮียไปมากกว่านี้ อย่าทำให้หนูรู้สึกผิดที่ตัดสินใจกลับมาได้ไหม"
"เดี๋ยวก็รู้"
@คอนโดเก่าขุนพล
ดวงตาสีนิลแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาที่คอนโดของขุนพลสถานที่ที่เคยเป็นรังรักของเธอกับเขาในตอนที่ยังคบกัน
"เฮียพาหนูมาที่นี่ทำไม หนูจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีกแล้ว"
"พามารื้อฟื้นความหลังไง"
"หนูไม่ไป!" อังอังยืนยันคำเดิมเมื่อขุนพลเดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่เธอนั่งอยู่
ขุนพลใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างขัดใจกับท่าทางต่อต้านของอดีตแฟนสาว ก่อนจะโน้มตัวลงไปอุ้มร่างบางมาไว้บนอ้อมแขนแกร่งแทน
ตุบ!
"อึก!"
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงบนที่นอนอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกจุก ดวงตาสั่นระริกกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ทุกอย่างในห้องยังคงเหมือนเดิมที่นอนที่นั่งอยู่ตอนนี้ก็เหมือนกัน มันยังคงเป็นอันเดียวกันกับที่สร้างบาดแผลให้เธอในวันนั้น "หึ เก็บที่นี่เอาไว้เป็นรังรักคอยนอนกกผู้หญิงเหรอคะ" อังอังแค่นหัวเราะในลำคออย่างน่าสมเพช
"เฮียไม่ชอบคนอวดดี เราน่าจะรู้นะ" ขุนพลพูดขณะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกไปด้วย
"ถ้าเฮียทำอะไรหนู หนูจะไม่มีวันให้อภัยเฮียอีกเป็นครั้งที่สอง" ดวงตาสีนิลแดงก่ำฉายแววเอาจริง เธอเคยคบกับเขามาก่อนจึงรู้ดีว่าการต่อสู้กับเขาเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์
เพราะแรงของเธอไม่สามารถสู้เรี่ยวแรงของเขาเวลากระหายได้เลยสักครั้ง เมื่อก่อนเธอยอมทนเป็นที่บำเรอกามให้เขาเพราะความรัก แต่วันนี้เธอรู้แล้วว่าเขาไม่ได้มองเธอเป็นคนรัก ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษใด ๆ กับเธอเขามองเธอเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงหน้าโง่หนึ่งคนที่คอยเป็นที่บำเรอกามให้เขาเท่านั้น
"เราก็จะไม่มีโอกาสได้ไปจากเฮียเป็นครั้งที่สองเหมือนกัน"
พรึ่บ!
"อ๊ะ! เฮียอย่านะ!" อังอังพยายามขืนตัวออกเมื่อถูกกระชากข้อเท้าให้เลื่อนลงไปอยู่ตรงขอบเตียง ทำให้เดรสเกาะอกที่ใส่มาเลื่อนขึ้นไปกองอยู่เอว คอดเผยให้เห็นดอกกุหลาบอวบนูนที่ถูกห่อหุ้มด้วยแพนตี้ตัวจิ๋ว
ขุนพลในตอนนี้เหมือนคนหูหนวกตาบอดไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น มีเพียงความปรารถนาอันแรงกล้าที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาเพียงแค่นึกถึงความสวยงามภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วที่เขาเคยได้สัมผัสมาก่อน
"อึก!" ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันจนห้อเลือดเมื่อแพนตี้ตัวจิ๋วถูกกระชากออกไป "ฮะ...เฮียหนูขอร้องนะ อย่าทำแบบนี้เลย...ฮึก"
อังอังยกมือขึ้นพนมขอร้องอดีตแฟนหนุ่มที่ตอนนี้กลายเป็นสัตว์ร้ายอย่างน่าเวทนาเพียงแค่นึกย้อนไปในอดีต ภาพที่เขากำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนอื่นบนเตียงหัวใจดวงน้อยก็เจ็บราวกับจะแตกออกมาเป็นเสี่ยง ๆ
ขุนพลเหลือบมองใบหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเพียงนิด ก่อนจะก้มลงไปทักทายกับกลีบกุหลาบที่ห่อหุ้มดอกไม้งามเอาไว้ด้วยสายตาหลงใหล มันยังคงสวยงามไม่ต่างจากวันแรกที่เขาเคยสัมผัส
"อึก!" ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันจนห้อเลือดมือเรียวจิกลงบนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่เมื่อถูกเรียวลิ้นร้อนชื้นตวัดเลียทักทายติ่งกระสันจนร่างกายสั่นสะท้านเพราะเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับใครเลยนับตั้งแต่วันที่ตัดสินใจไปจากเขา
“ชอบเหมือนเดิมสินะ” ขุนพลเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยหยอกเย้าหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะตะโบมดูดดุนติ่งกระสันอย่างหนักหน่วง
"ฮะ...เฮีย...อึก!...อย่า" อังอังพยายามห้ามปรามอดีตแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น
"ปากบอกไม่ แต่ร่างกายเรามันซื่อสัตย์กับเฮียนะ"
ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าหวานแสร้งหันมองไปทางอื่นเพราะเธอปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบสนองกับสัมผัสที่คุ้นเคย ถึงแม้หัวใจจะเจ็บปวดที่ต้องมานอนทับที่ของเขากับผู้หญิงคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็ตาม เพียงแค่คิดว่าจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับเขาอีกครั้งน้ำตาแห่งความน่าสมเพชก็ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย