“แก นั่นมันพี่บอสแฟนแกใช่ไหม”
น้ำเสียงตื่นตระหนก พร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปยังร่างสูงคุ้นตา ที่กำลังเดินเคียงข้างผู้หญิงอีกคน มือทั้งสองประสานกันแน่น แววตาของเขามีเพียงหญิงสาวคนนั้นราวกับโลกนี้มีแค่เธอ
“ไหนแก”
มีนารีบขยับแว่นสายตาบนดั้งเล็ก ตั้งใจเพ่งมองไปในทิศทางที่เพื่อนรักชี้ ก่อนที่หัวใจดวงน้อยจะเจ็บปวดขึ้นมาในทันที
ใช่ผู้ชายคนนั้นคือบอส แฟนหนุ่มที่เพิ่งบอกเลิกเธอไปอย่างไม่ใยดี เขาเดินเคียงข้างผู้หญิงร่างบางสวยงามคนหนึ่ง ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และแววตาหวานที่คนรักกันเท่านั้นถึงจะมอบให้กันแบบนั้นได้
ดวงตาหลังแว่นของมีนาพร่าเบลอขึ้นมาทันใด แม้เธอจะพยายามกลั้นเอาไว้ แต่ความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นวูบเข้าโจมตีรุนแรงเกินกว่าจะห้ามได้
“ไอ้เหี้ยพี่บอสจริงๆด้วย เลิกกับฉันไปแค่ไม่กี่วัน เขาก็กล้าควงผู้หญิงคนใหม่ออกมาโชว์แบบนี้แล้วอ่ะแก”
เสียงของมีนาสั่นเครือทั้งที่พยายามแข็งกร้าว แต่ดวงตากลับเอ่อคลอ ก่อนจะไหลลงมาที่แก้มขาวอย่างห้ามไม่ได้ มีนารีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม พร้อมทั้งจ้องมองร่างของคนทั้งสองด้วยความโมโห พร้อมความเจ็บปวดที่เธอเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้
เพลงหันมามองเพื่อนรักใจเจ็บตามไปด้วย แต่แทนที่จะปลอบเธอกลับกัดฟันพูดเสียงเข้มเหมือนคำสั่ง
“แกหยุดร้องเดี๋ยวนี้นะมีนา อย่าเสียน้ำตาให้ผู้ชายพันธุ์นั้นเลย เสียดายน้ำตาของแกซะเปล่าๆ มันไม่มีค่าพอที่จะทำให้แกต้องเจ็บขนาดนั้นหรอก”
มือของเพลงจับไหล่เพื่อนแน่น สายตาแข็งกร้าว มันคือความหวังดีที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นแทนเพื่อนรัก
“เมื่อกี้แกยังด่าเขาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แกอย่ามาอ่อนแอให้ผู้ชายเลวๆแบบนั้นได้ใจสิ”
เพลงไม่ได้ปลอบใจแบบอ่อนโยน เพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียน้ำตาให้กับผู้ชายพันนั้นอีก
ร่างเล็กของมีนาสั่นเทา พยายามเช็ดน้ำตาแบบลวกๆ แต่ยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยิ่งไหลไม่หยุด หัวใจเธอราวกับแตกสลาย
“หึ!! คิดว่าจะทิ้งฉันไปง่ายๆหรอไอ้พี่บอส”
มีนากัดฟันกรอด ปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่แคร์อะไรอีกแล้ว ก่อนจะรีบก้าวขาเดินพุ่งออกจากร้านไปทันที
“แกจะไปไหนอ่ะมีนา!”
เพลงร้องเรียกเสียงดังลั่นจนคนทั้งร้านหันขวับมามองเป็นตาเดียว ความเงียบชั่วขณะถาโถม เพลงได้แต่ยิ้มแห้งๆรีบก้มหัวขอโทษพนักงานกับลูกค้ารอบๆ
"เอ่อ...ขอโทษค่ะ"
เพลงเอยพร้อมทางก้มหัวลงเล็กน้อยพร้อมกับความสำนึกผิด ที่เสียงดังเกินไปจนทำให้ลูกค้าคนอื่นๆตกใจ แล้วรีบควักเงินไปจ่ายที่เคาน์เตอร์อย่างลวกๆ ก่อนจะรีบวิ่งตามหลังเพื่อนรักไปทัน
“พี่บอส!!”
เสียงตะคอกของมีนาดังก้องทันทีที่เธอก้าวมาถึงตรงหน้าผู้ชายคนนั้น ภาพที่เห็นบาดลึกลงกลางใจ บอสกำลังโอบเอวผู้หญิงคนใหม่ไว้แนบชิด สายตาหวานเยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความพอใจ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่เคยได้จากเขาเลย
บอสชะงักหันมามองตามเสียงเรียก ข้างกายเขาคือหญิงสาวสุดเซ็กซี่ ยิ่งตอกย้ำความแตกต่างจนเจ็บแสบ เสื้อคอลึกเผยให้เห็นเนินอกชัด กระโปรงสั้นจนแทบปิดอะไรไม่มิด ทุกการขยับกายชวนสะกดสายตา คนรอบข้างหันมองกันแทบทั้งโซนห้าง
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะพี่บอส”
เสียงหวานปนร้ายกาจดังขึ้นจากริมฝีปากของผู้หญิงคนนั้น เธอปรายตามองมีนาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหยียด ความคิดในใจแทบถูกเขียนไว้บนหน้าผู้หญิงเฉิ่มเชย ดูไร้รสนิยมสุดๆ สายตาของเธอหยุดที่ผมเพ่าที่รวบตึงไว้ด้วยหนังยาง ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซื้อตามตลาดนัดเส้นละสิบบาท เสื้อผ้าที่เรียบจนจืดชืดเกินบรรยาย ดูไม่น่ามองเลยสักนิด
“นั่นสิพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นใคร สงสัยคงเป็นพนักงานเก่ามั้ง ช่างเถอะไม่ต้องไปสนใจหรอกเราไปกันดีกว่า”
บอสพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะเอื้อมมือโอบไหล่ผู้หญิงแสนสวยคนนั้น อย่างแสดงออกชัดเจนถึงการเลือกคนข้างกาย รอยยิ้มของเขาไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวของความรักให้มีนาอีกต่อไป
"งั้นหรอคะ ดูพี่บอสไม่น่ารู้จักกับคนแบบนี้นะคะ"
"ใช่จ๊ะ...พี่ไม่เคยรู้จักเลย พี่ว่าเขาน่าจะจำคนผิดมากกว่า"
บอสรีบจักไหล่ของผู้หญิงคนนั้นให้เดินออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่เขาจะหันมามองเพียงครู่เดียว สายตาคมกริบเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะปัดมือไล่เธอแรงๆ ราวกับเธอเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ
“ไปไกลๆสิ…ชิว”
ประโยคสั้นๆ แต่เชื่อไหมว่ามันเหมือนคมมีดกรีดลึกกลางอกขิงเธอมาก บอสไม่แม้แต่จะยอมรับว่าเคยรู้จัก ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมาเธอเองก็คอยให้ความรักดีๆกับเขามาโดยตลอด
"พี่บอส"
มีนามองแผ่นหลังกว้างของเขาที่กำลังเดินจากไปพร้อมกับผู้หญิงคนใหม่ แต่ตอนนี้น้ำตาของเธอไม่ไหลอีกแล้ว เพราะมันเจ็บเกินกว่าจะร้องไห้ให้เขาอีก
“แก”
เสียงของเพลงดังขึ้นจากด้านหลัง เธอวิ่งเข้ามาถึงตัวเพื่อนรัก มือรีบแตะลงบนไหล่เล็กเบาๆ แรงสัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความเข้าใจและความห่วงใย
“แก...เขาตอบว่าเขาไม่รู้จักฉัน แล้วเขาก็ไล่ฉันเหมือนหมาตัวหนึ่งเลยแก”
มีนาเอ่ยเสียงสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด เธอไม่ได้หันมามองหน้าเพลงด้วยซ้ำ ดวงตายังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังของคนทั้งคู่ ที่ค่อยๆเดินหายลับไป
“ช่างเถอะแกคนแบบนั้นไม่เห็นค่าแกก็ปล่อยมันไป อย่างน้อยแกยังมีฉัน ฉันนี่แหละคือเพื่อนที่ไม่เคยตัดสินแกจากเปลือกภายนอกเลยเว้ย”
เพลงพูดด้วยความจริงจังกว่าที่เคย เป็นถ้อยคำที่จริงใจอย่างเห็นได้ชัด และมันทำให้หัวใจของมีนารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่น้อย ถึงแม้ว่าไม่อ่านทำให้ความเจ็บลดลงได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าเธอยังมีเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งเธอไปไหน
“ฉันขอบใจแกมากนะเพลง แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยรู้มั้ย”
เธอพูดทั้งน้ำเสียงสั่นพร่า ก่อนจะโผเข้าไปกอดเพื่อนรักแน่น
สองร่างเล็กโอบกอดกันกลางห้าง ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความจริงใจของมิตรภาพที่เหนียวแน่นตั้งแต่ที่เรียนมหาลัย จนถึงวันที่ได้ทำงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของสายธาร และวันนี้เพลงก็ยังยืนอยู่ตรงนี้เคียงข้างเธอเสมอมา
“กลับกันเถอะแก ใกล้ถึงเวลาทำงานแล้ว เดี๋ยวแกไปช้าจะโดนท่านประธานดุเอาอีก ชีวิตแกช่วงนี้ยิ่งเจอแต่เรื่องบ้าๆอยู่ด้วย”
เพลงเอ่ยขึ้นเหมือนเตือนสติ น้ำเสียงจริงจังเต็มไปด้วยความห่วงใย
“อืม…”
มีนาพยักหน้าช้าๆรับคำ ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นด้วยความเจ็บปวด
มีนานั่งเงียบๆบนรถไม่นาน เธอก็หันมามองหน้าเพลง สีหน้าเต็มไปด้วยความลังเล
“แก…”
เพลงยังคงมองตรงไปบนถนน
“หือว่าไงแก”
“คืนนี้ฉันอยากดื่มอ่ะ”
น้ำเสียงของมีนาสั่นนิดๆ เพราะในใจกลัวว่าตัวเองจะเมาเละเหมือนคืนนั้นอีก แต่ความเจ็บช้ำที่กัดกินหัวใจจนตอนนี้มีแต่ความเจ็บปวด ทำให้เธอไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว และอย่างน้อยๆวันนี้เธอก็มีเพื่อนไปด้วย คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับเธออีกหรอกมั้ง
เพลงเหลือบตามามองก่อนจะยกยิ้มบางๆ
“ได้สิแก แต่ฉันขอพาพี่พีไปด้วยได้ไหม”
“อืม ตามใจแกเลย”
“โอเค”
เสียงตอบรับของเพลงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แถมยังแอบยิ้มกว้างจนห้ามไม่อยู่ เธอดีใจที่มีนายอมไปเจอพี่ชายของเธอซักที หลังจากที่เธอแอบเชียร์พี่ชายตัวเองให้จีบมีนามานานแล้ว
“แกไม่กลัวพี่ชายของแกจะเขินฉันรึไง”
มีนาแกล้งพูดติดตลก พยายามดึงอารมณ์ตัวเองออกจากความหม่นหมอง
“นั่นสิแกฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน อยากรู้ว่าพี่ชายฉันจะทำหน้ายังไงถ้าได้เจอแกจริงๆ”
เพลงหัวเราะคิกตื่นเต้นดวงตาเป็นประกาย อยากให้พี่ชายของเธอเห็นเพื่อนรักเต็มที
มีนายิ้มเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย แต่มีนาเธอก็ไม่เคยเจอพี่ชายของเพลงเลย เพราะเขาเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ หลังจากได้ทุนไปเรียนต่อกว่านาน 4 ปี แถมยังทำงานที่โน่นต่ออีกพักใหญ่ กว่าจะตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยก็เพิ่งไม่นานนี้เอง
เย็นของวัน
“ไอ้เสือลมอะไรหอบมึงให้โผล่มาที่บาร์ของกูตั้งแต่หัวค่ำวะ”
วายุเอ่ยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเพื่อนจะมาไม่ได้ แต่ปกติสายธารไม่เคยโผล่มาที่บาร์เร็วแบบนี้ ต่อให้มีนัดก็ต้องเกือบห้าทุ่มถึงจะโผล่เข้ามา แต่ครั้งนี้ฟ้ายังไม่มืดสนิทด้วยซ้ำ
สายธารกระดกเหล้าเข้าปากคำหนึ่ง พลางถอนหายใจยาวเหมือนอัดอั้น
“กูก็มาของกูออกจะบ่อย มันแปลกตรงไหนวะ”
“แปลกสิวะปกติไม่ห้าทุ่มมึงโผล่หัวเข้ามาหรอก นี่หัวค่ำมึงโผล่เข้ามาแบบนี้กูว่ามันแปลกๆอยู่นะเว้ย”
วายุเอนตัวพิงโซฟา จ้องมองเพื่อนสายตาคมเต็มไปด้วยแววล้อเลียน
“กูแค่อยากเจอใครสักคน”
คำตอบสั้นๆแต่แฝงความกวนใจในน้ำเสียง
วายุชะงักทันที ความสนใจในเอกสารตรงหน้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขาหันมามองเพื่อนเต็มตา
“ใครวะ”
สายธารกัดฟันแน่น เขาไม่ได้อยากยอมรับ แต่ภาพผู้หญิงเมื่อหลายวันก่อนยังตามหลอกหลอนเหมือนภาพซ้อนในหัว
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ผู้หญิงที่เมาเละในบาร์มึงนั่นแหละ เธออ้วกใส่กูแล้วกูก็เลยให้เธอเอาเสื้อไปซักมาคืนกู แล้วนั่นก็เป็นเสื้อตัวเก่งของกู กูก็เลยอยากได้คืน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!”
วายุหลุดหัวเราะออกมาทันที ก่อนยกคิ้วสูงแล้วถามต่อ
“เดี๋ยวนะ มึงจะบอกกูว่า ที่มึงโผล่มาเร็วนี่คือมารอเสื้องั้นหรอวะ”
“อืม…”
สายธารตอบสั้นๆขมวดคิ้วแน่นอย่างหงุดหงิด