14 ติดใจกูอยู่แล้ว

1852 คำ
“โอ้โห! ไอ้ประธานมาเฟียเบอร์หนึ่งของประเทศ มานั่งรอเสื้อตัวเดียวเนี่ยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!” วายุหัวเราะหนักกว่าเดิม ก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดกอึกใหญ่ สายตามองคนตัวหน้าอย่างประหลาดใจ สายธารเหลือบตามองเพื่อน ตาคมวาวอย่างเอือมระอา “ตลกมากหรอวะไอ้เหี้ย” "เออสิวะ" "สัส" สายธารสบถออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วมึงไปถอดเสื้อให้เธอที่ไหนวะ” วายุเอ่ยถามด้วยความสงใส “คอนโด” คำตอบนั้นทำเอาวายุแทบจะสำลักเหล้า เขารีบวางแก้วลงแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ “อย่าบอกนะเว้ย ว่ามึงลากผู้หญิงขึ้นคอนโดแล้วเธอดันอ้วกใส่มึง” “กูไม่ได้ลากโว้ยไอ้สัส! เธอเมาจนไม่ได้สติกูก็เลยช่วยเธอแค่นั้น” น้ำเสียงหงุดหงิด แต่ใบหน้ากลับขึ้นสีแดงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว วายุหัวเราะในลำคอ “หึ! แล้วมึงช่วยยังไงวะ ช่วยท่าไหนบ้างวะเพื่อน” สายตาคมกริบเหมือนอ่านทะลุใจเพื่อนอยู่แล้ว เขารู้ดีว่าสายธารไม่มีทางปล่อยผู้หญิงไปง่ายๆโดยไม่แตะต้อง อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรไม่ต่ำกว่าสองน้ำขึ้นไป “อะไรของมึง“ “กินท่าไหนบ้างวะ บอกท่าได้แต่อย่าบอกนะว่าไม่ได้แดก” วายุกระซิบถามต่อ “เออ! ก็มีนั่นแหละ ไปขนาดนั้นใครจะไม่แดกวะ รู้แล้วแม่งก็ยังอยากเสือกถาม” สายธารขมวดคิ้วแน่น ทำทีเป็นหงุดหงิดใส่เพื่อน “กูว่าแล้วเชียว” วายุยักไหล่พลางยกแก้วเหล้าขึ้นกระดก ราวกับเรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องขำขันเสียมากกว่า “แค่ชั่วคราวก็ปกติป่าววะ มึงจะต้องถามทำไม” สายธารเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขารู้ดีอยู่แล้ว แต่เพื่อนก็ยังอยากที่จะถามไม่เลิก “แล้วเธอเป็นใครวะกูชักอยากจะรู้แล้วสิ เธอต้องตัวเด็ดมากแน่ๆ ถึงขนาดทำให้มึงยอมโผล่มานั่งรอตั้งแต่หัวค่ำแบบนี้” วายุจ้องหน้าเพื่อนด้วยสายตาล้อเลียน “ไอ้สัสกูไม่ได้มารอเธอเว้ย กูมารอเสื้อกูต่างหาก เล่นอ้วกใส่จนเสื้อกูเละขนาดนั้น ไม่จัดแม่งก็เสียชื่อหมดดิวะ” เสียงต่ำกระด้างดังลอดไรฟัน ราวกับเสือที่ไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อรอดมือไปง่ายๆ “แล้วทำไมมึงไม่โทรหาเธอวะ” “กูไม่มีเบอร์” วายุถึงกับเลิกคิ้วสูง “อ้าวเฮ้ย แล้วเธอชื่ออะไรวะ อย่างน้อยบอกชื่อกูก็พอจะถามเด็กๆในร้านให้ได้ ถ้าเป็นลูกค้าประจำที่นี่ ไม่มีใครหลุดรอดสายตาพวกมันไปได้หรอก” สายธารถอนหายใจหงุดหงิด “กูไม่รู้ กูบอกมึงแล้วว่าไม่รู้ แล้วก็ไม่มีเบอร์ด้วย มึงเลิกถามเซ้าซี้กูซักที” วายุแทบสำลักหัวเราะ “เฮ้ย!! มึงอย่าบอกนะเว้ย ว่ามึงลากผู้หญิงขึ้นห้องแล้วเสือกมีอะไรกันเสร็จสรรพ แต่แม่งไม่แม้แต่จะถามชื่อเธอเลยเนี่ยนะ” “เออสิวะ” คำตอบสั้นๆแต่แฝงความไม่สบอารมณ์เต็มไปหมด ยิ่งถูกเพื่อนเซ้าซี้แบบนี้เขาก็ยิ่งแสดงท่าทางหงุดหงิดมากขึ้น เพราะไม่อยากเสียฟอร์มไปมากกว่านี้ วายุกระแทกฝ่ามือกับโต๊ะดังปัง ก่อนหัวเราะลั่นทั้งบาร์ “ฮ่าฮ่าฮ่า…สัสเอ้ย! มึงแม่งไม่ตงิดใจบ้างเลยเหรอวะ ว่ามึงกำลังถูกผู้หญิงเมินอยู่นะเนี่ย ปกติผู้หญิงแม่งต้องวิ่งเข้าหามึงกันทั้งนั้น แต่นี่กลายเป็นมึงเองที่ต้องมานั่งรอเธอ ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกชิบหายว่ะเพื่อน” เสียงหัวเราะของวายุสะท้อนก้องไปทั่วบาร์ ท่ามกลางใบหน้าเคร่งขรึมของสายธาร คิ้วหนาขมวดเป็นปมยิ่งกว่าเดิม ยิ่งเพื่อนหัวเราะเขายิ่งหงุดหงิด แต่ลึกๆในใจกลับยอมรับว่าสิ่งที่วายุพูดมันคือเรื่องจริง “ขำเหี้ยอะไรของมึงวะกูแค่มาแดกเหล้าของกูอยู่แล้ว แล้วกูคิดว่าเธออาจจะโผล่มาแดกที่นี่อีกก็ได้ กูเลยจะมารอทวงเสื้อกูคืนเว้ย” สายธารเสียงเข้ม หน้านิ่งไม่ยอมให้เสียฟอร์ม ทั้งที่จริงเขาเองยังหาคำอธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าทำไมถึงอยากมาตั้งแต่หัวค่ำแบบนี้ “งั้นหรอวะ ไม่ใช่ว่ามึงติดใจเธอหรอกนะ” วายุเลิกคิ้วพร้อมยิ้มมุมปาก “ติดใจค*ยอะไรล่ะ เงอะงะยังกับเด็กประถม จะเอาเหี้ยอะไรมาติดใจ” สายธารตอกกลับทันควัน แต่คำพูดนั้นกลับสวนทางกับภาพในหัวที่ยังติดตาไม่เลือน “มึงอย่าบอกนะเว้ย ว่าไอ้เสือสายธารแม่งได้เปิดซิงอีกแล้ว” วายุมองหน้าเพื่อนเต็มตา แววตาวาววับอย่างสนใจ “ระดับกู…” สายธารยักคิ้วกอดอกพาดพิงเก้าอี้ ท่าทางเต็มไปด้วยความมั่นใจ “เฮ้ย...ไม่ธรรมดาแล้วเว้ยเพื่อนกู” วายุยิ้มขำๆ ก่อนยกมือตบไหล่เพื่อนแรงๆราวกับดีใจกับเพื่อนด้วย “แน่นอนอยู่แล้วเว้ย” รอยยิ้มกระตุกที่มุมปากของสายธาร ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความมั่นใจแบบคนเหนือกว่า “แบบนี้แม่งอีกเดี๋ยวก็ต้องมา เพราะมึงเป็นคนแรกของเธอไง ยังไงเธอก็ต้องโผล่มาหามึงอีกแน่ๆ ยังไงซะเธอก็ไม่มีทางลืมคนที่เปิดซิงได้หรอกเว้ย" วายุเอ่ยอย่างมั่นใจ “กูรู้เพื่อน กูอัดไปขนาดนั้นยังไงแม่งก็ติดใจกูอยู่แล้ว” น้ำเสียงสายธารเต็มไปด้วยความโอหัง แววตาคมเข้มฉายชัดถึงความมั่นใจสุดขีด เพราะเขายังจำเสียงครางแผ่วสั่นของเธอได้ติดหู และยังจำได้ว่าตลอดทั้งคืนนั้น เธอไม่เคยปฏิเสธหรือเอ่ยห้ามเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันยิ่งทำให้เขาเชื่อสุดใจว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางหนีเสืออย่างเขาไปได้ “มั่นใจขนาดนั้นเลย” วายุหัวเราะหึๆ พลางยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ แต่แววตายังคงจับจ้องเพื่อนตรงหน้า “แน่นอนดิเพื่อน มึงก็รู้ลีลากู” สายธารยักคิ้ว ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์เต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางหนีเสืออย่างเขาไปได้แน่นอน เวลาค่อยๆไหลผ่านจนเกือบห้าทุ่ม สายธารยังคงนั่งยกแก้วเหล้า สายตากวาดมองเป็นระยะๆ เหมือนกำลังเฝ้ารอใครบางคนโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา “กูว่าเธอคงกลัวมึงจนไม่กล้ามาเที่ยวแล้วก็ได้นะเว้ย” วายุเอนหลังพิงเก้าอี้ เอ่ยแซวเพื่อนด้วยน้ำเสียงสบายๆ “มาไม่มาก็เรื่องของเธอ ไม่เห็นเกี่ยวกับกูเลย กูมาแดกเหล้าไม่ได้มาหาใครโว้ย” สายธารสวนเสียงห้วน แต่ปลายตาคมยังคงกวาดไปรอบๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ “หึ!! ปากแข็งชิบหายไอ้สัส เห็นอยู่ว่ามึงแม่งเอาแต่ชะเง้อมองหา” วายุหัวเราะในลำคอ ขยับแก้วเหล้าในมืออย่างผู้รู้ทัน สายธารถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนไม่อยากต่อปากต่อคำ พร้อมรับเปลี่ยนเรื่องทันที “ร้านมึงวันนี้คนแน่นกว่าปกติป่าววะ ดูหนาแน่นเป็นพิเศษเลย” “ก็ปกติอยู่แล้ว บาร์กูแม่งก็แน่นทุกคืนอยู่แล้วนี่หว่า” วายุยักไหล่ท่าทางเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา “ไม่ใช่เว้ย วันนี้มันดูแน่นเป็นพิเศษ” น้ำเสียงสายธารทุ้มต่ำแฝงแววสงสัย ขณะสายตาคมกริบกวาดไปทั่วทั้งบาร์อีกครั้ง ราวกับกำลังจับจ้องอะไรบางอย่างหรือใครบางคน -มีนา- “แก...แกมานานยัง” เพลงถามพรางคว้าแขนเพื่อนไว้ทันที หลังจากที่เธอเดินมาถึงโต๊ะ พร้อมทั้งยิ้มหวานส่งให้เพื่อนด้วย “ก็พักนึงแล้วอ่ะแก” มีนายิ้มบางๆตอบกลับ ทั้งที่ร่องรอยความหม่นในดวงตายังไม่จางหาย เพลงไม่รอช้า รีบหันไปทางชายหนุ่มร่างสูงข้างกาย “นี่พี่พีพี่ชายของฉันเอง” มีนาหันไปมองก่อนจะยกมือไหว้ด้วยท่าทางสุภาพ “สวัสดีค่ะพี่พีหนูชื่อมีนานะคะ เป็นเพื่อนของเพลงค่ะ” “สวัสดีครับมีนา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของพีเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล แต่สายตาคมกลับจ้องมองร่างบางตรงหน้าราวกับต้องมนต์ “เห็นเพลงพูดถึงอยู่บ่อยๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะสวยขนาดนี้ ขอโทษที่พี่เผลอชมตรงๆทั้งที่เพิ่งเจอกันนะครับ แต่มีนาสวยจนพี่อยากชมจริงๆ” พี่เอยชมพร้อมทั้งมองคนตัวเล็ก เธออยู่ในชุดสายเดี่ยวเข้ารูปเผยให้เห็นหุ่นบางอรชร และยิ่งเธอใส่ชุดสีแดงเลือดหมูแบบนี้ ยิ่งดูร้อนแรงและเซ็กซี่จนไม่อาจละสายตาไปได้ คำพูดตรงไปตรงมาบวกกับแววตาที่ไม่คิดจะหลบเลี่ยง ทำเอาใบหน้าของมีนาร้อนวูบขึ้นมา เธอรีบเบือนสายตาหนีทันที “เอ่อ…ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่พี” “แหม พี่พีเอาใหญ่เลยนะ เห็นมั้ยล่ะหนูบอกแล้วว่าเพื่อนหนูสวยเหมือนหนูพี่ก็ไม่เชื่อ” เพลงเอ่ยแซวพร้อมทั้งขยับเข้ามากระซิบใกล้หูพี่ชาย และตอนนี้เธอก็ตื่นเต้นมากกว่าคนทั้งสองซะด้วยซ้ำ แถมยังเขินอายแทนมีนาอีกด้วย ที่พี่ชายของตัวเองชมตรงๆแบบนั้น “พี่ก็ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าไม่เชื่อ” พีแย้มยิ้มพรางยังคงกวาดตามองใบหน้าหวานที่พยายามหลบเลี่ยงเขา มีนาที่กำลังอึดอัดรีบเปลี่ยนบทสนทนา “อืมนั่งก่อนสิคะ อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะคะ ตอนนี้หนูยังไม่ได้สั่งอะไรนอกจากเครื่องดื่ม” “ถ้างั้นพี่นั่งตรงนี้นะครับ” พีเลือกเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธออย่างไม่ลังเล ราวกับตั้งใจจะจับจ้องเธอได้ถนัดตาที่สุด และนั่นก็ทำให้มีนารู้สึกเหมือนถูกมัดให้นั่งอยู่ใต้สายตาคมกริบ “ทำไมแกเลือกที่จะมาผับนี้ล่ะ ทำไมไม่ไปบาร์นีโอบาร์แทนล่ะ ที่นั่นปลอดภัยจะตายแก ถึงจะเป็นบาร์ของมาเฟียแต่ระบบดูแล ความปลอดภัยที่นั่นอันดับหนึ่งเลยนะแก” เพลงถามขึ้นทันทีที่เหลือบมองรอบๆบรรยากาศ พลางขมวดคิ้วแน่น เธอไม่ชอบที่นี่เท่าไหร่นัก “ฉันอยากมาที่นี่มากกว่า” มีนาตอบแค่นั้น พร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจิบเบาๆ ก่อนจะวางแก้วลงด้วยท่าทีเรียบนิ่ง “ฉันว่าดูอันตรายออกแก แกไม่ได้ยินข่าวเหรอเดือนก่อนมีการทะเลาะวิวาทกันยับเลยนะ คนเจ็บเข้าไอซียูเลยนะแก ที่สำคัญพวกการ์ดก็ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด” มีนาเอนหลังพิงเก้าอี้ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางๆ ดวงตาเจือความดื้อดึง “มันก็แค่จังหวะน่ะแก ดื่มเถอะที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ” มีนาคมเอ่ยปัดๆเพราะเธอไม่อยากที่จะไปเจอใครบางคนที่บาร์นั่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม