ยามเหม่า ณ ตำหนักจวิ้นอ๋อง แม่ทัพเหยียนจื่อหยาตื่นขึ้นมาในเวลาฟ้ามืด สตรีที่นอนในวงแขนเขาหายไปแล้ว เขาคลำไปบนที่นอนด้านข้างที่เย็นชืด นางคงไปนานแล้วกระมัง เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เฮ้อ! “นี่เจ้าจะไปไม่บอกเลยรึไง ไปไหนมาไหนก็ไม่เคยบอก สืบสาวเรื่องราวอันใดได้ก็ไม่รายงานพี่” เขาบ่นกับตัวเอง ร่างสูงใหญ่มองไปยังที่นอนด้านข้าง กำลังจะลุกขึ้นจากที่นอน กลิ่นกายหอมอ่อนจางของนางยังติดผ้าปูเตียงเขาอยู่ เขาลูบไปบนเตียงด้านข้าง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้นอนกอดนางข้างกาย แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนนางเริ่มเหินห่างออกไปทุกที เหตุใดหนอเหตุใดเขาจึงรู้สึกเช่นนี้ ตั้งแต่นางฟื้นมา นางก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน อย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ นางแทบไม่ต้องการพึ่งพิงเขา ไม่ต้องการจะพึ่งพาความช่วยเหลือใด ๆ จากสองมือที่เคยปกป้อง นางเข้มแข็ง นางเย็นชา นางค่อย ๆ ห่างหาย หากเป็นเช่นนี้สู้ให้นางอ่อนแอ บอบบางอยู่ข้างกายเสียดีก