บทที่ 5 ถ้อยคำ...ที่แสนเจ็บปวด

1220 คำ
“อย่าเหี้ย มึงก็รู้ว่าตอนนี้กูต้องการมึง” จะบอกว่าเขาขอร้องก็ได้ ตอนนี้เขาอยากให้เพื่อนมาเป็นไม้กันหมาที่สุด เพราะเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับอรอุมา พาริยะบิดปากโค้งแบบร้ายลึก ก่อนจะว่าอย่างมีแต้มต่อ “มึงติดหนี้บุญคุณกูแล้วไอ้ดล จำไว้” แล้วร่างสูงก็ทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม “อืม” ดลวัฒน์จำต้องครางรับอย่างไม่มีทางเลือก อรอุมาก้าวมาถึงโต๊ะเป้าหมาย ก่อนมอบยิ้มละมุนละไมให้เป็นอันดับแรกเหมือนเช่นเคย “ดลแนะนำร้านอร่อยให้อรหน่อยสิ อรไม่รู้ว่าควรทานร้านไหนดี นี่อรยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย” คุณหมอคนใหม่ถามน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ ราวกับขอความเห็นใจ หากไม่รู้นิสัยกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เขาเชื่อว่าคงมีตกหลุมพรางของหญิงสาวคนนี้บ้าง “ให้ไอ้พร้อมแนะนำให้ดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยได้ทานที่นี่เท่าไร” ดลวัฒน์รีบโยนไปให้เพื่อน “ทำไมล่ะคะ หรือว่าไม่ถูกปากดล” คุณหมอสาวฉงนใจ ครู่เดียวสายตาก็เริ่มแวววาว หากคำตอบที่ได้มาเป็นอย่างที่คิด มันอาจจะเข้าทางเธอ แต่ครั้นได้ฟัง ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกก็เม้มเป็นเส้นตรง “เมียมันทำมาให้น่ะครับ” ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะใจดำ ไม่ยอมให้เขาทำมาให้แล้วก็ตาม พาริยะเป็นคนเฉลยให้ ส่วนอรอุมาพูดไม่ออก ทำได้แต่แสร้งยิ้ม แต่ในใจกำลังเดือดดาล หลังพาริยะจงใจเน้นหนักคำว่าเมีย ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าพาริยะเชียร์ฝั่งไหน แน่นอนว่าไม่ใช่ฝั่งเธอ ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต่อ เสียงโทรศัพท์ของดลวัฒน์ก็ดังขึ้น และทำให้ชายหนุ่มรีบหยิบมันมาแนบหูอย่างไว “ครับ ผมจะรีบไปครับ” ดลวัฒน์บอกกับปลายทางจบก็ขยับตัว แล้วหันมาบอกกับเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสองคน “ผมต้องไปแล้วครับ มีเคสด่วน” พูดจบก็โคลงศีรษะเพื่อบอกลา ก่อนจ้ำเท้าจากไป หญิงสาวที่ถูกชิ่งหนีได้แต่กำมือแน่นไว้ที่ใต้โต๊ะ ด้วยรู้ดีว่าดลวัฒน์จงใจหลบหน้าเธอ นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เขาอ้างว่ามีเคสด่วน และทำวิธีการนี้ประจำ พาริยะเองก็รู้ว่าเพื่อนสนิทใช้วิธีตั้งนาฬิกาปลุกไว้ล่วงหน้า ก่อนที่อรอุมาจะมานั่งดลวัฒน์ได้หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดตั้งเวลาไว้แล้ว อรอุมาเองก็คงมองออกเช่นกัน ถึงได้มีสีหน้าไม่พอใจเต็มเปี่ยม ทว่าเจ้าหล่อนก็ยังไม่เลิกดันทุรัง “ผมเองก็คงจะต้องไปแล้วครับอร แต่ที่นี่ก็อร่อยทุกร้านละครับ” พาริยะลุกขึ้นบอกลาเช่นกัน แต่ก็ไม่ลืมทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี แนะนำร้านอาหารให้ตามความต้องการของอีกฝ่าย บทที่ 5 ถ้อยคำ...ที่แสนเจ็บปวด “พี่ว่าคุณแม่จะชอบไหมคะ” สิ้นคำหญิงสาวก็ก้มลงไปมองถุงกระดาษใบหนึ่งที่มีสีสันสวยงามพอๆ กับของข้างใน ซึ่งถูกเลือกสรรมาเป็นอย่างดี วันนี้สิรินดานัดกับสามีเพื่อเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้จารวีที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งวันเกิดของแม่สามีจะมาถึงในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า “เธอซื้อ พี่ไม่เคยเห็นว่าจะไม่ถูกใจสักครั้ง” ตลอดเวลาสองปีกว่าๆ ที่สิรินดารับบทลูกสะใภ้ แม่ของเขาล้วนเห็นดีเห็นงามกับเธอด้วยแทบจะทุกครั้ง สิรินดายิ้ม ถึงแม้จะได้รับคำชมเช่นนั้น แต่เธอก็ยังอยากเลือกของขวัญให้ดีที่สุด อยากให้ท่านรู้ว่าเธอนั้นรักและเคารพแค่ไหน “แล้วตกลงอยากจะกินร้านไหน” “ร้านอาหารญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้กินอาหารประเภทนี้ “งั้นนำไปสิ” ชายหนุ่มเอ่ยปาก เขาไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้สักเท่าไร และน้อยครั้งมากที่จะมาเดินห้างสรรพสินค้า ส่วนมากถ้าได้รับวันหยุด สิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์อย่างเขามักจะทำ นั่นคือการนอนพักเอาแรงเพื่อไปต่อสู้ยื้อชีวิตคนไข้ในวันถัดไป สิรินดาเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไม่ต้องรอคิวนาน ด้วยรู้ว่าเวลาของชายหนุ่มนั้นสำคัญเพียงใด ดลวัฒน์เองก็คงอยากจะกลับไปพักเต็มทีแล้ว เมื่อเข้ามานั่งในร้านเธอก็สั่งข้าวหน้ากุ้งเทมปุระ ส่วนคนนั่งตรงข้ามกันสั่งข้าวหน้าแกงกะหรี่ หลังจากบริกรมารับออร์เดอร์ไปแล้ว ดลวัฒน์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถหน้าจอดูโลกออนไลน์ ส่วนสิรินดามองดูบรรยากาศภายในร้าน รอไม่เกินสิบห้านาทีอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟ คนทั้งคู่เริ่มลงมือทาน ทว่าไม่นานกลับมีเสียงเรียกเข้าของสมาร์ตโฟนดังขึ้น ชายหนุ่มรีบคว้ามันขึ้นมาดู ก่อนสีหน้าของชายหนุ่มจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด “เดี๋ยวพี่กลับมา” “ค่ะ” หญิงสาวขานรับ แม้ว่าแอบแปลกใจนิด ๆ ที่ครั้งนี้เขาปลีกตัวไปคุยที่อื่น ปกติแล้วไม่ว่าสายนั้นเป็นสายจากใครเขาก็จะนั่งคุยที่เดิม ด้วยความที่สิรินดาตาไว จึงเห็นว่าสายที่โทร.เข้ามาเป็นเบอร์จากต่างประเทศ กระนั้นก็ไม่ได้เก็บมาคิดมาก แต่การกระทำของดลวัฒน์ดูเหมือนพยายามจะซ่อนบางสิ่งบางอย่าง ไม่อยากให้สิรินดารับรู้ หญิงสาวนั่งกินข้าวต่อไปอีกสี่ห้าคำ เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก็ถูกเลื่อนอีกหน ร่างบางเงยหน้าไปมองคิดว่าต้องเป็นสามี ทว่ากลับไม่ใช่ “ไม่เจอกันนานเลยนะคะคุณไจ๋” อรอุมาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงหวาน แต่ดวงตากลับหาความจริงใจไม่พบ สิรินดาไม่ได้กล่าวทักทายตอบกลับ ไม่คิดว่าคนที่เคยเป็นศัตรูหัวใจกันจะเข้ามาทักทาย แถมเธอก็ไม่ได้เจอกับอีกฝ่ายนานพอสมควรแล้ว ก่อนจะสังเกตเห็นตราโรงพยาบาลบนเสื้อที่อรอุมาสวมใส่อยู่ “ทำไมทำหน้าตกใจแบบนั้นล่ะคะ ดลไม่ได้บอกหรือคะว่าอรมาทำงานกับดลเป็นอาทิตย์แล้ว” อรอุมาสาดความร้ายใส่อย่างไม่ปิดบัง แล้วทำท่าเอียงคออย่างขบคิด “แปลกจังค่ะ ทำไมเขาไม่บอกเมียแบบคุณไจ๋ล่ะคะ” “มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรไม่ใช่หรือคะ ไจ๋ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะว่าโรงพยาบาลมีลูกจ้างรับใหม่กี่คน” หญิงสาวส่งสายตาย้ำว่าเรื่องของอรอุมาไม่ใช่เรื่องสำคัญที่หล่อนควรต้องใส่ใจ “หรือคะ อรก็นึกว่าเพราะใกล้เลิกกันแล้วเสียอีก เห็นดลเองก็ไม่ใส่แหวนแต่งงาน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม