แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะสาเหตุที่หญิงสาวยังไม่ขึ้นมายังห้องนอนเป็นเพราะเจ้าหล่อนกำลังคิดวิธีประนีประนอม หาเหตุผลให้สามีอ่อนลงและเห็นด้วยไปกับตน การที่เธออยากจะริเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็เพราะอยากทำให้พ่อภูมิใจและหายห่วง
เธออยากมีอาชีพ อยากให้ผู้เป็นพ่อสามารถเอาไปบอกกับใครต่อใครได้ว่าลูกสาวทำธุรกิจอะไร ไม่ใช่แค่เป็นแม่บ้านให้สามี ถึงแม้ว่าเงินทองที่พ่อเธอมีจะมากมายก็ตาม
สิรินดาหลับตาลง พยายามฝังกลบความรู้สึกปวดหนึบให้จางหายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น
จังหวะที่ชายหนุ่มดึงกางเกงตัวโปรดออกมาจากราวแขวน ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก ดลวัฒน์ชะงักไป อารามตกใจเล็กๆ เมื่อเห็นประกายความเศร้าปนความเจ็บปวดในแววตาคู่นั้น
ดลวัฒน์ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มก่อนจะดึงสายตากลับ จากนั้นก็สวมใส่กางเกงแล้วไปนอนบนเตียงตามปกติ ขณะที่สิรินดาเองก็เดินมานอนบนเตียงข้างกัน ก่อนที่แสงไฟในห้องจะถูกดับลง
หญิงสาวพยายามข่มใจให้หลับ แต่ทำอย่างไรก็ยังหลับไม่ลง ครั้นพลิกตัวไปด้านซ้ายก็เห็นว่าสามีหันหลังให้กัน
สิรินดารู้ว่าตัวเองไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรไปเทียบกับสามี เธอก็แค่เด็กเรียนไม่เก่ง ไม่ใช่คนสวยเลิศเลออะไร เป็นแค่ผู้หญิงหน้าตาออกจะธรรมดา มีดีแค่พ่อรวย ที่สำคัญยังเคยทำผิดต่อเขา
หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าตอนนั้นเธอเลือกอีกหนทางหนึ่ง ไม่เดินหน้าจนได้เป็นภรรยาของเขา ปล่อยให้ดลวัฒน์ได้จัดการด้วยตัวเอง ชีวิตของเธอและเขาจะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่า
ส่วนดลวัฒน์กำลังจมอยู่กับความคิดตนเอง ใจไม่เป็นสุข ด้วยรู้ว่าก่อนหน้านี้พูดแรงไป
ครู่หนึ่งเขาก็ต้องพลิกตัวไปมอง เมื่อรับรู้ได้ว่าหญิงสาวก้าวลงจากเตียง
“จะไปไหน” ดลวัฒน์ถามพร้อมกับยื่นมือไปเปิดสวิตช์ไฟ แล้วพบว่าร่างเล็กกำลังจะตรงไปยังประตูห้อง
“ไจ๋นอนไม่หลับ ไจ๋ว่าจะไปนอนห้องอื่น” หญิงสาวหันมาตอบ เธอคงได้นอนพลิกตัวไปมาทั้งคืนแน่ เพราะมีเรื่องให้คิดไม่ตก “ไจ๋ไม่อยากทำให้พี่ดลนอนไม่หลับไปกับไจ๋ด้วย"
“ใครสั่ง พี่สั่งหรือไงกัน” ดลวัฒน์เอ่ยถามเสียงดุและห้าวห้วน “พี่บอกใช่ไหมว่านอนไม่หลับเพราะเธอ” ไม่เข้าใจว่าทำไมสิรินดาชอบคิดแทนเสมอ
“เปล่าค่ะ แต่ไจ๋” ทั้งที่หญิงสาวกำลังอธิบายเพื่อให้เข้าใจกันได้ถูก แต่ดลวัฒน์กลับไม่ยอมฟัง
“งั้นจะสร้างเรื่องทำไม หรือคิดจะไปฟ้องย่าพี่อีก”
เมื่อถูกต่อว่า หญิงสาวก็เม้มปากแทบจะเป็นเส้นตรง ทำไมความหวังดีของเธอถึงถูกมองในแง่ร้ายไปเสียทุกครั้ง
“รีบกลับมานอนซะ พี่ง่วงจะตายอยู่แล้ว”