กว่าจะหลุดพ้นจากเขาคนนั้นได้ก็แทบจะไม่มีแรงตอบโต้ โชคดีที่มีแม่บ้านเข้ามาทางด้านหลังทำให้นิรชาได้โอกาสเดินหลบหนีชายหนุ่มขึ้นไปข้างบนด้วยข้างในเต้นแรงรัวจนจะหลุดออกมาจากด้านนอก
"อีก1เดือน เราก็จะได้เป็นอิสระจากเขาสักที สู้ๆนะหนูนิด" พลางบอกให้กำลังใจตัวเอง แค่1เดือนผ่านไปเราก็จะได้กลับอยู่กับลูกสองแฝดที่เมืองไทยได้อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องมีพ่อของเด็กมาอยู่ด้วย!
"อีก1เดือนทำไมเหรอนิด" มัวแต่ตกใจ ลืมไปว่ายังมีเพื่อนนัยน์มาอยู่ในห้องของเธอเป็นเพื่อนด้วยกัน นิรชายิ้มกลบเกลื่อน
"เอ่อ ก็อีก1เดือนก็เป็นวันครบรอบวันเกิดของนิดไงล่ะ แหม นัยน์ก็จำวันเกิดของเพื่อนรักไม่ได้เหรอ"
"นั่นสิ ฉันเกือบลืมไปเลย เอ๋ จะเอาอะไรเป็นของขวัญปีนี้ดีน่า นิดอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า"
"อะไรที่พิเศษงั้นเหรอ?"
นิรชาทำสีหน้าครุ่นคิดเข้ามานั่งบนเตียงข้างๆยัยนัยน์ ปีนี้คงอยากจะได้อยู่กับเจ้าสองแฝดแสบซน พวกเขาเปรียบเสมือนดวงใจของเราและมีความพิเศษสำหรับเราอีกด้วย แต่คงบอกให้ยัยนัยน์รู้ไม่ได้
"....."
"คงจะเป็นเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ที่เธอซื้อให้ฉันเป็นของขวัญทุกๆปีล่ะมั้ง"
"นิดล่ะก็ บอกให้เอาตามใจฉัน เครื่องสำอางที่ซื้อให้ เธอก็ไปให้คนอื่นเขาบ้าง นิดของฉันใจบุญซะเหลือเกินนะ"
"ก็มันเยอะนี่น่าแล้วฉันก็ไม่ค่อยชอบแต่งหน้าเปลืองด้วย พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปกับเขาเพื่อไปลองชุดแต่งงาน เธอไปเป็นเพื่อนฉันได้ไหมนัยน์" เธอไม่อยากไปกับเขาสองต่อสอง ให้นัยน์นภาไปเป็นเพื่อนด้วยคงสบายใจขึ้นเยอะ
"มันจะดีเหรอนิด ฉันกลัวว่าคุณเซบาสจะไม่พอใจที่ฉันไปเป็นก้างขวางคอเขานะสิ" นัยน์นภาตีหน้าเสแสร้งเศร้าสลด แต่ข้างในระริกระรี้จนแทบควบคุมไม่อยู่
"ถ้าเขาไม่ยอมให้นัยน์ไปกับนิดด้วย นิดก็จะไปไหนกับเขาทั้งนั้น เขาจะต้องยอมให้นัยน์ไปกับนิดด้วย เชื่อใจนิดนะ"
"ขอบใจมากนะนิด เธอเป็นเพื่อนที่แสนดีสำหรับฉันมากจริงๆ"
"งั้นเรานอนพักผ่อนกันดีกว่า ใกล้จะเป็นเจ้าสาวของคุณเซบาสแล้วเดี๋ยวจะไม่สวยนะ" นัยน์นภาเป็นเพื่อนที่ดีต่อนิรชามากจริงๆ ไม่เสียแรงที่เราคบเป็นเพื่อนกันมานานกว่า8ปี
.
.
.
Talk เซบาสเตียน
[วันต่อมา]
หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วนั้น มาดามแพทแพทจะให้ลูกชายคนเล็กพาว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดแต่งงาน แต่นิรชาแอบขัดขืนเล็กน้อยเพราะอยากให้เพื่อนเธอไปช่วยเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน ผมรู้ว่าเพื่อนของเธอคนนี้ไม่ได้มาดีแน่ๆ แต่รอดูพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ว่าจะเป็นยังไง
นัยน์นภามีหน้าตาเหมือนกับน้องนุชราวกับฝาแฝด แต่สิ่งที่แตกต่างคือนิสัยที่ต่างกันมากราวฟ้ากับเหว!
"กว่าจะลงมากันได้ รีบขึ้นรถไปได้แล้ว" ชายหนุ่มที่นั่งรอสองสาวขึ้นไปแต่งตัวกันใหม่เกือบชั่วโมง แอบอารมณ์เสียที่ไม่ได้อยู่กับเธอสองต่อสอง
รอให้ถึงวันเข้าหอก่อนเถอะ พ่อจะจัดหนักๆเอาไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย โทษฐานที่ทำให้ผมหลงรักเธอจนหัวปักจนปำ....
"นัยน์ต้องขอโทษนะคะที่ทำให้ยัยนิดต้องลงมาช้า คุณเซบาสอย่าว่านิดเลยนะคะ" พอเข้ามาในรถส่วนตัวของเซบาสเตียนแล้ว เพื่อนเธอก็ขอโทษไม่หยุดอ้างว่าเป็นคนดี เขาฟังแล้วมันเฟลยังไงไม่รู้
"ถ้าจะผิดก็ผิดกันทั้งคู่ที่ไม่รักษาเวลา ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะรอพวกเธอได้ทั้งวันหรอกนะ"
ทุกวันนี้ก็ยิ่งมีงานทั้งธุรกิจและตำแหน่งมาเฟียที่พี่ชายรองยกให้บริหารงานแทนทั้งหมด จนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวพักผ่อนหย่อนใจเลย
พอได้ยินคำพูดแบบนั้นทำให้สองสาวกลับเงียบเชียบไปทันที นี่เขาพูดอะไรผิดงั้นเหรอ แต่ก็ดีแล้ว ทำให้เขามีสมาธิในการขับรถมากขึ้น
@ร้านพรีเวดดิ้ง
เซบาสเตียนพาว่าที่เจ้าสาวแสนสวยของผมมาลองชุดแต่งงาน โดยมีเพื่อนเจ้าสาวมาช่วยเลือกด้วยอีกคน เจ้าของร้านที่นัดกันเอาไว้แล้วก็เข้ามาให้เธอไปลองชุดที่จัดเอาไว้ให้เป็นอย่างดี ซึ่งชายหนุ่มก็ไปลองชุดเจ้าบ่าวอีกห้องฝั่งหนึ่ง
เซบาสเตียนลองใส่ชุดเจ้าบ่าวจนเป็นที่พอใจแล้วนั้นก็ออกมานั่งรอว่าที่เจ้าสาวอยู่ อีกไม่นานเพื่อนของเธอก็ออกมาพร้อมกับนิรชา
"เจ้าสาวออกมาแล้วค่ะคุณเซบาส"
ร่างสูงใหญ่หันหลังกลับไปดูพลางตกตะลึงกับความสวยงามของว่าที่เจ้าสาว เพราะเธอสวยมากยิ่งกว่าสาวๆคนไหนในโลกซะอีก
"เอ่อ...ฉันยังดูไม่ดีพอหรือเปล่า ทำไมคุณจึงจ้องฉันแบบนั้น" เธอเองก็เขินอายที่ถูกผมจ้องมองเธออย่างไม่วางตา
"ก็วันนี้หนูนิดของฉันดูสวยกว่าวันไหนๆ ฉันเลือกเจ้าสาวของฉันไม่ผิดจริงๆ" ว่าที่เจ้าบ่าวลุกขึ้นเข้าไปโอบเอวร่างบางแสดงความเป็นเจ้าของให้คนบางคนได้รู้ชัดเจนว่าผมเลือกใคร
"แหม คู่บ่าวสาวคู่นี้สวยงามหล่อเหลาช่างเหมาะสมกันมาก ราวกับกิ่งทองใบหยก คุณนัยน์ว่าอย่างนั้นไหมคะ" เจ้าของร้านหันไปถามเพื่อนสนิทของนิรชา นัยน์นภาตอบรับไปตามมารยาท
"ค่ะ" แต่ในใจของเธอกลับเดือดดาลมากกว่านี้ซะอีกเป็นหลายร้อยเท่า!
"ถ้างั้นเชิญว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวมาถ่ายรูปตรงนี้ได้เลยค่ะ"
"ครับ เชิญครับคุณเจ้าสาวของฉัน"
เซบาสเตียนสนใจแต่หนูนิดคนเดียว คนอื่นมองผ่านไปราวกับธาตุอากาศที่ไม่เคยคิดจะสนใจเลยสักนิดเดียว!
นัยน์นภาขอตัวไปด้านนอกเพื่อสงบอารมณ์โกรธ ความเจ็บปวดใจที่เขาไม่เห็นเธอในสายตา ในสายตาของคุณเซบาสมีแค่นิรชา เพื่อนของเธอคนเดียวเท่านั้น!
"เกลียดนักไอ้พวกรักเดียวใจเดียว คอยดูเถอะว่าทนได้สักกี่น้ำ!"
.
.
.
@คฤหาสน์รัสเตเรีย
"เป็นยังไงบ้างตาเซบาส หนูนิดไปลองชุดแต่งงานวันนี้ ราบรื่นดีไหมจ๊ะ" มาดามแพทหันไปพูดน้ำเสียงหวานกับหนูนิด ว่าที่ลูกสะใภ้น้อยของเธอที่โปรดปรานมากที่สุด
"อันนี้คุณแม่แพทคงต้องถามเขาเองดีกว่าค่ะ เพราะเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ทุกอย่าง นิดเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ"
นิรชาตอบว่าที่แม่ผัวอย่างตรงๆ และมันก็เป็นความจริงเพราะเธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะทั้งหมดผมเป็นคนจัดการเอง
"ไม่น่าเชื่อ ลูกชายของแม่นี่นะจัดการทุกอย่างเอง ตาเซบาสทำให้แม่ทึ่งได้ตลอดเลย ลูกชายคนนี้ไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ" นี่เป็นคำชมครั้งแรกจากคุณแม่แพทที่เอ่ยชมผมต่อหน้าเธอ
"ก็ผมไม่อยากให้ว่าที่ภรรยาของผมต้องลำบากไงครับ ว่าที่สามีต้องทำทุกอย่างเอง แค่นี้สบายมากเพื่อให้หนูนิดของผมมีความสุขครับคุณแม่"
"แหม หวานไม่เกรงใจแม่เลยนะตาเซบาส พาหนูนิดเขาไปพักเถอะ แม่เองก็จะพักผ่อนแล้วล่ะ"
"ครับคุณแม่ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอถึงที่ห้องเอง"
เซบาสเตียนเต็มใจทำดีกับเธอด้วยความจริงใจไม่ใช่เพราะทำดีต่อหน้าคุณแม่ เขาเป็นคนรักเดียวใจเดียว และเป็นคนที่รัก ไม่มีใครมาแทนที่นิรชาได้!
..............
"อันที่จริงคุณไม่ต้องทำดีกับฉันเพื่อตบตาคุณแม่ของคุณ ฉันเดินขึ้นไปห้องเองได้"
เมื่อเซบาสเตียนพามาส่งนิรชาที่ห้อง เจ้าตัวก็ตีตัวออกห่างจากเขาตั้งท่ารังเกียจ นี่เธอจะจงเกลียดจงชังผัวไปถึงเมื่อไหร่กัน
"ฉันเต็มใจพามาส่งเธอต่างหาก อีกอย่างเราก็จะได้แต่งงานกันในอีกเร็ววัน ฉันก็จะได้อยู่กับเธอในห้องเดียวกันไง"
"พูดบ้าอะไร ฉันจะพักผ่อน" มือบางกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง แต่ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือบางไม่ให้เข้าไปในห้องตอนนี้
"เดี๋ยวสิ ยังไม่บอกฝันดีเลย"
เซบาสเตียนเข้าไปฉวยโอกาสหอมแก้มนวลเนียนอย่างหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เธอช่างน่ารักน่าฟัดอะไรอย่างนี้
"คุณเซบาส!"
นิรชาทั้งตกใจทั้งเขินอายที่ถูกผมหอมแก้มตัวเองอย่างไม่ทั้งตั้งตัว
"ราตรีสวัสดิ์นะครับ เจ้าหญิงของฉัน"
หญิงสาวเขินจนหน้าแดงหมดแล้วรีบเข้าไปในห้องทันที ผมเผยรอยยิ้มแย้มที่มักจะเกิดขึ้นกับคนเย็นชาอย่างเขา ถ้าพวกพี่ๆได้เห็นคงทำสีหน้าไม่น่าเชื่อแน่ๆ
..................
เซบาสเตียนกลับมายังห้องนอนของตัวเองด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากข้างใน ไม่อยากเชื่อว่าการที่รักใครสักคนแล้วมันจะมีความสุขได้เพียงขนาดนี้ ต้องขอบคุณคนที่มอมเหล้าเธอในคืนนั้น ที่ทำให้เขาได้เจอเธอและตกหลุมรักเธอตั้งสองครั้งสองครา
"ฉันต้องทำให้เธอรักฉันให้ได้ นิรชา"