ร่างเล็กขยับตัวในอ้อมแขนหนาอย่างยากลำบากเพราะตั้งแต่ที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาก็อยู่ในอ้อมแขนเขามานานเกือบครึ่งนาทีได้
“เธอจะขยับตัวไปไหนหนักหนา เมื่อคืนเกือบเช้าฉันก็จับเธอมากกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ เธอจะอายอะไร”
“ไม่ได้อายค่ะ”
“ไม่ได้อายแล้วจะพยายามหนีออกไปไหน”
“ฉันจะเข้าห้องน้ำต่างหาก อยากจะล้างเนื้อล้างตัวค่ะ”
“เฮ้ออ~~” เบนจามินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแต่ก็ยอมคลายวงแขนหนาของตัวเองออกให้ และหันไปนอนหลับต่ออย่างไม่ได้สนใจหญิงสาวอีกต่อไป
วิเวียนลุกขึ้นนั่งและต้องกลั้นเสียงของตัวเองไว้แทบไม่ทัน เพราะแค่ขยับตัวมันก็ร้าวไปทั้งร่าง เจ็บระบมเหมือนเดินไปตกท่อที่ไหนสักแห่งมา
เธอกลั้นใจและทนต่อความเจ็บปวดเดินขากะเผลกเขาห้องน้ำไป พอมาถึงเธอก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมา ดูร่องรอยที่เขาทิ้งไว้บนตัวของเธอมันไม่ใช่ความฝันมันคือความจริงที่เธอนั้นไม่มีวันลืมมันเลยเด็ดขาด
ไหนคนบอกว่าครั้งแรกเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ไง แต่สำหรับเธอมันเหมือนตกนรกมากกว่าอีก แรก ๆ เขาทำเหมือนจะอ่อนโยนแต่สักพักเขากลับถาโถมแรงใส่เธอทั้งหมด กินเธออย่างตะกละตะกลาม เหมือนเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องผลิตลูกให้กับเขาเท่านั้นและไม่ได้มีค่าไปมากกว่านั้นเลย
“เธออาบหรือเข้าไปตายกันแน่”
ทันทีที่เธอเปิดประตูห้องน้ำออกมาเสียงแดกดันก็รีบเอ่ยออกมาอย่างไม่รีรอ “ฉันอาบน้ำค่ะไม่ได้วิ่งผ่านน้ำ”
เบนจามินนิ่งเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะสวนกลับเขาเข้าอย่างจัง ที่ผ่านมาไม่เห็นเธอต่อปากต่อคำเขาเลยสักคำ แต่วันนี้ตัวอะไรมันเข้าสิงให้เธอตอบเขากลับแบบนี้ แต่ชายหนุ่มเลือกไม่พูดอะไร เพราะเช้านี้เขาต้องรีบเข้าบริษัทเพื่อไปเคลียร์งาน
“วันนี้ไม่หยุดเหรอพี่” คริสลูกพี่ลูกน้องที่ทำงานกับเขามานานหลายปีรีบเดินเข้ามาหา เพราะคิดว่าเจ้าของบริษัทจะหยุดงานและดื่มด่ำกับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับเจ้าสาวแสนสวยที่เขานั้นก็ตกใจว่าพี่ของตนไปเจอรักแท้มาตั้งแต่ตอนไหน
“ดีลครั้งนั้นได้เรื่องมารึยัง” เขาเลือกไม่ตอบแต่ถามหางานสำคัญที่ตนนั้นจ้องมานานแล้วแทน
“ผมวางไว้ที่โต๊ะแล้วครับ” คริสตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ยังคงเจืออยู่บนหน้า ใบหน้าของเขาหล่อเหมือนกับเบนจามินไม่มีผิด เพราะดีเอ็นเอถูกส่งต่อกันมาอย่างดี
วิเวียนเมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้วก็รีบเข้ามาดูแลน้องชาย เด็กน้อยที่เธอนั้นคิดถึง และเป็นน้องชายที่อายุห่างจากเธอเป็นสิบ ๆ ปี ถึงแม้จะเกิดกันคนละพ่อแต่เธอก็รักน้องชายคนนี้มาก
และตอนนี้เธอก็ต้องมาดูแลน้องชายเพียงคนเดียวของเธอที่แม่แท้ ๆ ได้เลือกทิ้งพวกเธอไปเมื่อน้องชายเธออายุได้เพียงแค่ 3 ขวบ ตอนนี้เธอเป็นทั้งแม่และพี่สาวให้กับน้องชายของเธอ ยิ่งน้องชายมาป่วยแบบนี้เธอยิ่งต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตให้น้องชายเธอรอด
“น้องไคล์พึ่งหลับไปค่ะคุณวิเวียน แต่เมื่อคืนนี้น้องไคล์นอนร้องเรียกหาคุณวิเวียนทั้งคืนเลยค่ะ”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูน้องมาเป็นอย่างดี”
“ค่ะ น้องไคล์เป็นเด็กน่ารักและรู้ความค่ะ ดิฉันแค่บอกว่าคุณวิเวียนไปทำงานน้องไคล์ก็เข้าใจและหยุดร้องทันทีเลยค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” เธอหันมายิ้มให้กับพยาบาลที่เข้ามาดูแลน้องเธอในเวลาที่เธอไม่อยู่ จะให้น้องเธอย้ายไปอยู่บ้านนั้นกับเธอก็ไม่ได้อีก ตอนนี้ไคล์อายุได้ 5 ขวบแล้ว และค่อนข้างติดเธอมาก เธอเองก็รู้สึกผิดที่ปล่อยให้เขาอยู่กับพยาบาลแทนที่จะเป็นพี่สาวอย่างเธอ
“พี่วิเวียนเหรอครับ” ตกอยู่ในภวังค์ได้ไม่นานเสียงงัวเงียแสนน่ารักก็เอ่ยขึ้น และเป็นเสียงที่เธอนั้นอยากได้ยินมาตั้งแต่เมื่อวาน
“ใช่ครับพี่วิเวียนเอง”
“คิดถึงจัง” ไคล์น้อยเอ่ยบอกและลุกขึ้นคลานมานั่งบนตักของพี่สาวด้วยความคิดถึง
“พี่ขอโทษนะที่พาเราไปด้วยไม่ได้”
“ผมรู้ครับว่าพี่ต้องไปทำงาน”
วิเวียนยิ้มและเอามือลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน เขาเป็นเพียงเด็กชายที่อายุได้เพียงแค่ 5 ขวบแต่กลับทำตัวเหมือนเป็นผู้ใหญ่ และดูโตกว่าเด็กคนอื่นที่อายุเท่ากัน
“ถ้าพี่ไม่มีไคล์แล้วพี่จะอยู่ยังไงล่ะเนี่ย”
“ใช่ม๊ะ ถ้าพี่วิเวียนไม่มีผมแล้วใครจะคอยดูแลพี่วิเวียนกัน”
วิเวียนหัวเราะขำกับความที่น้องชายพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา “ตรงนี้ยังเจ็บอยู่ไหม” เธอเอามือมาลูบรอยแผลเป็นที่ยังคงมีรอยแดงให้เห็นอยู่ตรงหัวใจข้างซ้าย
“ไม่เจ็บแล้วครับ ผมตื่นขึ้นมาก็ไม่เจ็บเหมือนแต่ก่อนเลย”
วิเวียนยิ้มทั้งน้ำตามันคุ้มแล้วกับสิ่งที่เธอทำลงไป ถ้าไม่ได้เงินก้อนนั้นเธอคงไม่ได้กอดน้องชายอยู่ตรงนี้แน่นอน เพราะหัวใจน้องชายเธออ่อนแอมาตั้งแต่เกิด และเธอก็เกือบเสียเขาไปตลอดกาล เพราะไม่มีเงินค่าผ่าตัดหัวใจ แต่ก็เหมือนฟ้ามาโปรดที่ส่งคนนั้นมาให้เธอ ตอนแรกเธอก็กลัวแต่ตอนนี้มันรู้สึกคุ้มมากที่เธอตัดสินใจไปแบบนั้น แค่เธอต้องตอบแทนเขาด้วยเลือดเนื้อเชื้อไขเขาก็เท่านั้นเอง
“พี่จะอยู่กับไคล์ใช่ไหม”
เด็กน้อยในอ้อมแขนทำหน้าอ้อนและซุกเข้าที่อกของพี่สาว เขาคิดถึงไออุ่นนี้มาตลอดทั้งคืน ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากป่วยเพราะถ้าเขาไม่ป่วยพี่วิเวียนก็คงไม่ต้องออกไปทำงานให้ลำบาก ถึงแม้เขาจะอายุได้เพียงแค่ 5 ขวบแต่เขาก็เข้าใจทุกอย่าง และรู้สึกสงสารพี่สาวที่เห็นเธอออกไปทำงานและกลับมาบ้านอย่างเหนื่อยล้า เวลานอนแทบจะไม่มีเพราะต้องดูแลเขาที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ทำอะไรก็เหนื่อย และต้องคอยระวังไม่ให้ทำกิจกรรมมากเกินไปเพราะหัวใจของเขาไม่แข็งแรง
“คืนนี้พี่ต้องกลับไปทำงานอีก แต่พี่จะอยู่จนกว่าไคล์จะหลับตกลงไหม”
“ตกลงครับ รอไคล์โตผมจะดูแลพี่วิเวียนเองนะ”
“งั้นดูแลพี่ไปตลอดชีวิตเลยดีไหม”
“ดีครับ ผมจะดูแลพี่ไปจนแก่เลย”
“จนแก่เลยเหรอตัวดี”
“ใช่ครับ ฮ่า ฮ่า” ไคล์หัวเราะลั่นเมื่อวิเวียนเข้ามาจี้ที่เอวจนเขาต้องหัวเราะออกมา “จักจี้นะ”
วิเวียนนั่งดูน้องชายที่หัวเราะออกมาอย่างสดใสทับแทนใบหน้าที่เมื่อก่อนซูบผอมแทบจะไม่มีแรง ดวงตาดูเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้กลับมาดูสดใสอีกครั้ง แค่นี้เธอก็สุขใจแล้ว ขอแค่นี้จริง ๆ เธอแค่อยากให้น้องชายไม่เจ็บไม่ป่วยอีกไปตลอดกาลก็เท่านั้นเองจะให้เธอทำอะไรก็ได้เธอยอมทำทั้งหมด
วิเวียนก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของไคล์ที่นอนหลับโดยจับมือเธอไม่ยอมปล่อย เขาคงกลัวว่าเธอจะหายไป เลือกได้เธอก็อยากจะอยู่กับน้อง แต่ทำยังไงได้เธอต้องกลับไปทำงาน งานที่ต้องขึ้นเตียงกับผู้ว่าจ้างของเธอนั้นเอง
“เธอไม่มีนาฬิกาเหรอถึงได้กลับมาเอาป่านนี้”
*******************************
เรื่องนี้ยังไม่จบนะคะ ไรท์จะเข้ามาแต่งให้และอัปวันละตอนสองตอนให้นะคะ
ฝากเอ็นดูและเก็บเข้าชั้นกันด้วยน้า ห่างหายไปนานหวังว่ายังไม่ลืมกันนะคะ