ตอนที่ 1
โรงพยาบาลคิงส์คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
วีรณาเดินกลับมาในห้อง แล้วมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ ริมฝีปากบางขยับน้อยๆพอให้คนที่นอนอยู่บนเตียงได้ยินข้อมูลที่ต้องการ
“เดี๋ยวสักครู่ คุณหมอจะเข้ามาดูนะคะ” วีรณาบอกน้ำเสียงเจือด้วยความห่วงใย
“ครับ” แพทริกพยักหน้ารับ “เอ่อ…ขอโทษทีนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครเหรอครับ”
“คุณแพทริกล้อวีเล่นใช่ไหมคะ”
“เปล่าครับ ผมไม่รู้จักคุณจริงๆ” แววตาเขาว่างเปล่า และบอกชัดเจนว่าไม่ได้ล้อเธอเล่น ร่างกายของเธอชาวาบ
จนแทบจะกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ไม่ไหว แพทริกบอกว่าไม่รู้จักเธอ นั่นก็หมายความว่าเขา ‘จำเธอไม่ได้’
วีรณาพูดอะไรไม่ออก ถึงกับนั่งนิ่งไปชั่วขณะ แพทริกเห็นแบบนั้นเขาก็ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงอะไรเธอต่อ สงสารเธออยู่เหมือนกัน แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเขาไม่รู้จักเธอจริงๆ
หมอกับพยาบาลเข้ามาตรวจอาการ แจ้งว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก มีสมองฟกช้ำจากอุบัติเหตุรถยนต์ แต่ไม่ถึงกับอันตรายและแจ้งเขาว่าให้อยู่สังเกตอาการอีกวันสองวัน แต่เขาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขาขับรถแล้วไปเกิดอุบัติเหตุที่ไหน เมื่อไหร่
โรเจอร์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับลูอิส แต่รู้สึกได้ว่าบรรยากาศภายในห้องอึมครึมแบบแปลกๆ
“คุณแพทริก เป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ปวดหัวนิดหน่อย แต่ไม่มากเท่าไหร่ เอ่อนี่…ฉันมีเรื่องอยากจะถามนายพอดี”
“ว่าไงครับ” โรเจอร์ขยับตัวเข้ามาใกล้ รอฟังสิ่งที่เจ้านายหนุ่มต้องการจะถามอย่างนอบน้อม
“ผู้หญิงคนนี้ เป็นใคร”
ไม่ใช่แต่โรเจอร์เพียงเท่านั้นที่เกิดอาการชะงัก ลูอิสก็ด้วย วีรณายิ่งแล้วใหญ่ คำพูดที่ตอกย้ำอยู่กลายๆว่าเขาจำเธอไม่ได้ ทำให้ขอบตาเธอร้อนผ่าว น้ำตาแทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ
นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาว่าเกือบจะตีสองแล้ว ทั้งๆที่ง่วงมาก แต่วีรณาก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอรอคอยการมาของใครบางคนอยู่ จริงๆพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ใกล้จะสำเร็จการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงมีชิ้นงานต่างๆมากมายที่จะต้องส่ง รวมถึงรายงานอีกฉบับของเธอที่ยังไปไม่ถึงไหนเพราะยังหาข้อมูลไม่ได้ แต่เรื่องนั้นไม่ได้ทำให้เธอทุกข์ใจมากนัก ยังไงเธอก็คิดว่าต้องทำสำเร็จแน่ๆ แต่จะทำได้ดีหรือเปล่า นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง ตอนนี้เธอขอรอคอยการมาของคนสำคัญของเธอก่อนจะดีกว่า
ขณะเตรียมขนมขบเคี้ยวพร้อมทั้งน้ำอัดลมมาไว้ที่โต๊ะเล็กหน้าทีวี เสียงเคาะประตูดังขึ้น คิ้วสวยยกสูงอย่างแปลกใจเล็กน้อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ถ้าให้เดา ต้องเป็นยายข้าวหอมหรือปรียาภัทรเพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ข้างห้องแน่ๆ เพราะดึกขนาดนี้ไม่มีใครจะกล้าบ้าบิ่นมาหาเธอในเวลานี้หรอก
“มีอะไร มาหาเราซะดึกเชียว” วีรณายู่หน้าถามเพื่อนรัก เมื่อเห็นปรียาภัทรยืนยิ้มหน้าบานอยู่ที่หน้าประตูห้องเธอ
“แหมๆๆ เราก็จะมาดูพ่อเทพบุตรสุดหล่อของวีด้วยน่ะสิ” ปรียาภัทรว่า รอยยิ้มบนใบหน้าฉีกกว้างมากกว่าเดิม
“นี่ๆ ไปนอนได้แล้ว ไม่ต้องมาแซวเราเลย” วีรณารีบผลักเพื่อนออกไปทันทีเพราะรู้ดีว่าเพื่อนรักไม่ได้ตั้งใจจะมาหาเธอจริงๆหรอก แค่แวะมาแซวเรื่องที่เธอรอดูเทพบุตรสุดหล่อก็เท่านั้นเอง
เทพบุตรสุดหล่อที่เพื่อนของเธอเอ่ยถึงเป็นนักฟุตบอลของสโมสรชื่อดังในประเทศอังกฤษ ทั้งยังเป็นนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษอีกด้วย เธอแอบหลงรัก หลงรักทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอตัวจริงของเขาเลยด้วยซ้ำ ส่วนเขาก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
วีรณาหลงรักเขามาตั้งแต่เธออายุ 13 ปี ตอนนั้นเขาอายุ 16 ปี เขาเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดด้วยความสามารถที่โดดเด่นและในปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ เธอมักจะตัดรูปของเขาเวลาที่มีการตีพิมพ์ไว้เสมอ เคยฝันไว้ว่าอยากจะไปดูเขาแข่งฟุตบอลที่อังกฤษสักครั้ง อยากเฝ้ามองเวลาที่เขาอยู่ในสนาม อยากเจอตัวจริงของเขาสักครั้งในชีวิตก็ยังดี
อีกไม่นานความฝันของเธอคงเป็นจริง หลังจากที่เธอเรียนจบแล้วทำงาน เธอก็จะเก็บเงินสักก้อนเพี่อไปอังกฤษ เธอเฝ้ารอให้ถึงวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเพื่อนรักอย่างปรียาภัทรก็รู้ดีว่าเธอหลงรักนักฟุตบอลหนุ่มคนนี้ จึงแกล้งย้ำเธอทุกวัน จนเธอฝังใจและถอนตัวไม่ขึ้น
“อะแฮ่มๆ” ปรียาภัทรแกล้งกระแอม เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน “ตกลงจะให้เราดูเทพบุตรสุดหล่อด้วยได้หรือเปล่า”
“ถ้าอยากดูจริงๆเราให้ดูด้วยก็ได้ แต่ถ้าจะมาแกล้งเรา เราจะไล่กลับจริงๆด้วย” วีรณาว่า ทั้งแกล้งขู่ไว้ล่วงหน้า ก็ปรียาภัทรน่ะชอบเย้าเธอ ทำให้เสียสมาธิในการดูเทพบุตรสุดหล่ออยู่เรื่อยเลย
กว่าการแข่งขันฟุตบอลจะจบก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่ ปรียาภัทรหลับไปตั้งแต่ตีสามแล้ว วีรณาส่ายหน้าอย่างขำๆรู้ๆกันอยู่แล้วว่าเพื่อนรักแค่จะมาแกล้งเธอ ไม่ได้ตั้งใจจะมาดูฟุตบอล(และนักกีฬาเหมือนเธอหรอก)เห็นเพื่อนหลับสนิทจึงไม่ได้ปลุก วีรณาเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมให้เพื่อนที่หลับสนิทอยู่ที่โซฟาจากนั้นจึงเดินกลับเข้าห้องไป คืนนี้เธอคงหลับฝันดีอีกคืน เพราะได้เห็นเทพบุตรสุดหล่อก่อนนอน วีรณาเอื้อมมือไปดับไฟที่หัวเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วค่อยๆหลับไปในที่สุด
มหาวิทยาลัยของรัฐ คณะมนุษย์ศาสตร์
“วีๆๆ เห็นข่าวเช้านี้หรือยัง” ปรียาภัทรวิ่งมาหาเพื่อนรักอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ
“ใจเย็นๆก่อนข้าวหอม มีอะไร ค่อยๆพูดก็ได้” วีรณาส่ายหน้าขำๆ มือบอบบางยื่นน้ำให้เพื่อนดื่ม ด้วยเกรงว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน ท่าทางกระหืดกระหอบเสียขนาดนั้น
“เรารับรองได้เลยว่าถ้าวีได้รับรู้ข่าวนี้วีต้องช็อกแน่ๆ” ปรียาภัทรกล่าวท่าทีจริงจัง แต่วีรณาเดาไม่ออกจริงๆว่าข่าวที่เพื่อนนำมาบอกนั้นจะเกี่ยวกับเรื่องอะไร
“ข่าวอะไรล่ะ” คิ้วสวยได้รูปยกสูง ถามกลับอย่างสงสัย
“อะนี่ วีอ่านเองดีกว่า” ปรียาภัทรว่าพร้อมยื่นหนังสือพิมพ์มาให้ วีรณารับมาก่อนจะเปิดพลิกไปมาแต่ก็ยังไม่เห็นข่าวสำคัญที่ปรียาภัทรว่าแต่อย่างใด
“ไหน ข่าวอะไร เราไม่เห็นเลย”
“นี่ๆ ตรงนี้ไง” ปรียาภัทรบอกพร้อมเปิดไปหน้าข่าวกีฬา แล้วอ่านอย่างเสียงดังชัดเจน “วงการกีฬาฟุตบอลของเมืองไทย ได้รับข่าวดีอีกครั้งจากการติดต่อให้นักฟุตบอลชื่อดังวัย 26 ปี จากประเทศอังกฤษ เดวิด แพทริก มอร์แกน มาช่วยสอนเทคนิคกีฬาฟุตบอลให้กับนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยเป็นเวลาทั้งหมด 2 เดือน โดยคาดว่าเขาจะเดินทางมาถึงประเทศไทยไม่เกินสิ้นเดือนนี้”
ทันทีที่ปรียาภัทรอ่านข่าวจบ หัวใจดวงน้อยของวีรณาก็เต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ มันลิงโลดไปด้วยความดีใจ เพียงแค่ได้ยินข่าวว่าเขาจะมาเมืองไทยเธอยังตื่นเต้นขนาดนี้ ถ้าเจอตัวจริงของเขาเธอจะตื่นเต้นขนาดไหนกันนะ
“เป็นไงล่ะ เราบอกแล้วว่าถ้าวีได้รู้ข่าวต้องช็อกแน่ๆ” ปรียาภัทรว่าอย่างมั่นอกมั่นใจ
“อืม…” วีรณาพยักหน้า เธอช็อกอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆนั่นแหละ
“เขาจะมาสิ้นเดือนนี้แล้ว ก็อาทิตย์หน้านี้แล้วสิ” ปรียาภัทรเอ่ยด้วยความตื่นเต้น แววตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ข้าวหอมดูตื่นเต้นมากกว่าเราอีกนะ” วีรณาอมยิ้มน้อยๆกับท่าทางของเพื่อนรัก
“แหมๆๆ เราแค่อยากจะเห็นว่าเวลาที่วีเจอตัวเป็นๆของเขา จะเป็นยังไงกันน้า...” ปรียาภัทรแสร้งใช้นิ้วชี้มือขวาเคาะที่ขมับอย่างครุ่นคิด
“ก็ไม่เป็นยังไงหรอกน่า” วีรณาว่า ใบหน้าเธอขึ้นสีแดงระเรื่อนิดๆ
“แต่เราว่านะ บางที วีอาจจะเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าเขาเลยก็ได้หรือไม่ก็ขาแข็งจนก้าวเท้าไม่ออก”
“บ้า!” วีรณาต่อว่าเพื่อนแบบไม่จริงจังนัก ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เสียงหัวเราะเงียบลงเมื่ออาจารย์ประจำภาควิชาเดินเข้ามาในห้อง ทั้งคู่มองหน้าและยิ้มให้กัน จากนั้นจึงหันไปสนใจในสิ่งที่อาจารย์เริ่มบรรยาย