ตอนที่ 3

1508 คำ
“เธอ! ดูสิ คุณแพทริกเขาหล่อมากเลยเนอะ” เสียงแฟนคลับสาวไทยเอ่ยกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับกรี๊ดออกมาเบาๆเหมือนเห็นแพทริกเดินผ่านมา “ใช่เธอ ตัวจริงเขาดูดีมากๆเลย” สาวไทยอีกคนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยเต็มที่ “ผมเขาดูพลิ้วสลวยมาก ฉันว่านะ ถ้าเราได้สัมผัสมันต้องนุ่มมากแน่ๆเลย” หนึ่งในเหล่าแฟนคลับบอกด้วยใบหน้าที่คล้ายกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน “ฉันอยากสบตากับเขาจังเลย แหมเสียดายจังเขาไม่ยอมถอดแว่นออก” “ไม่เป็นไร เขาอยู่ไทยอีกตั้งสองเดือน ยังไงฉันว่าเราต้องมีโอกาสได้สบตาเขาบ้างล่ะน่า” “โอเคๆ แต่ตอนนี้เรามากรี๊ดเขาต่อกันดีกว่า” มีเสียงที่พูดถึงเขาอีกมากมาย แพทริกได้แต่ฟังและอมยิ้มไปด้วย เพราะสาวๆคงไม่รู้หรอกว่าเขาฟังภาษาไทยรู้เรื่อง ไม่งั้นพวกเธอคงต้องเขินเขาจนหน้าแดงแน่ๆ ขณะที่แพทริกกำลังจะเดินไปถึงจุดนัดหมาย บังเอิญได้ยินสองสาวที่น่าจะเป็นกลุ่มแฟนคลับของตัวเองกำลังคุย กัน “นี่วี...ทำไมทำหน้าเฉยแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอคุณแพทริก นี่ตัวเป็นๆเลยนะ” เสียงของปรียาภัทรเย้า วีรณาเพื่อนรักของเธอ ที่ตอนนี้ยืนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไปแล้ว “เอ่อ...คือ..วี...” ใช่ว่าเธอจะไม่ดีใจเสียเมื่อไหร่ เพียงแค่ได้เห็นเขาเดินผ่าน หัวใจเธอก็เต้นรัวจนแทบจะกระโจนออกมานอกอก มือไม้ของเธอเย็นเฉียบไปหมด ขาทั้งสองข้างของเธอก็พาลแข็ง แม้แต่แรงจะก้าวเดินยังไม่มี นี่เธอเป็นเอามากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย สายตาของเธอยังคงจดจ้องอยู่ที่เขาโดยไม่สามารถละสายตาได้ เขามองกลับมา แต่เธอไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเขาก็จ้องมองเธออยู่เช่นกัน เป็นเพราะว่าเขาสวมแว่นกันแดดสีดำปกปิดสายตาคมเข้มเอาไว้ “วี คุณแพทริกขึ้นรถออกไปแล้วนะ” ปรียาภัทรกล่าวพร้อมเอื้อมมือข้างหนึ่งจับที่แขนของวีรณาและเขย่าเบาๆราวกับช่วยเรียกสติ “อะ...อ๋อ... งั้นเรากลับกันเถอะข้าวหอม” วีรณาตอบอึกอักเพราะสติเพิ่งจะกลับมา “แหม เราอุตส่าห์ลุ้นให้วีเป็นลมล้มพับ เผื่อคุณแพทริกหันมาเห็นจะได้รีบวิ่งเข้ามาอุ้มเธอเหมือนพระเอกในละครไง พร้อมกับถามว่า “เอ่อ...คุณครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ปรียาภัทรเอ่ยพร้อมดัดเสียงแบบผู้ชาย วีรณาอดที่จะหมั่นไส้เพื่อนไม่ได้ เพี้ยะ! “นี่แน่ะแซวเราดีนัก” วีรณาตีแขนเพื่อนอย่างไม่จริงจัง ส่วนเพื่อนรักอย่างปรียาภัทรก็รับมุขร้องซะดังลั่น ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนานก่อนจะพากันก้าวออกจากสนามบิน วันนี้คงเป็นอีกวันที่วีรณาจะมีความสุขไปทั้งวันก็เพราะว่าได้เจอกับเทพบุตรสุดหล่อของเธอ เฮ้อ! ในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงที่พักสักที ดีนะ ที่ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ จึงทำให้การจราจรไม่ติดขัดมากนัก ทางเจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬา ได้เตรียมห้องพักซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองไว้เพื่อให้เขาสามารถเดินทางไปสนามกีฬาที่เป็นที่สำหรับฝึกซ้อมกีฬาฟุตบอลแก่เยาวชนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ส่วนโรเจอร์กับลูอิสพักอยู่ห้องตรงข้ามกับเขา วันนี้เขาต้องไปแถลงข่าว การเดินทางมาเป็นผู้ฝึกสอนเทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอลให้แก่เยาวชนทีมชาติ เห็นว่าทางสโมสรนัดนักข่าวไว้ช่วงบ่าย ดีแล้วล่ะ เขาจะได้งีบสักพัก เดินทางมาตั้ง 12 ชั่วโมงเมื่อยชะมัด เมื่อเข้ามาในคอนโดมิเนียมหรู แพทริกก็จัดการเดินสำรวจห้องพัก ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาวนวลดูแล้วสบายตา ไหนจะยังห้องครัว ห้องรับแขก และห้องนอนที่แสนจะโอ่อ่า ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี เขาก็ถูกใจอยู่หรอกนะ แต่ถ้าจะให้อยู่ตลอดคงไม่ดีกว่า ยังไงซะ เขาก็รักบ้านเกิดของเขามากที่สุด หลังจากเดินสำรวจภายในห้องจนพอใจ แพทริกจึงเดินวกกลับมาที่ห้องนอน หันมองเวลาจากนาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนที่เขาจะต้องไปงานแถลงข่าว จึงตัดสินใจพักผ่อนก่อน ชายหนุ่มเดินมาทรุดตัวลงบนเตียงหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆเอนตัวลงนอนแล้วหลับไปในที่สุด ก๊อก ก๊อก ก๊อก! “คุณแพทริก พร้อมหรือยังครับ” โรเจอร์เคาะประตูห้อง ก่อนจะส่งเสียงเรียกเจ้านายหนุ่มที่อยู่ด้านใน “อืม...เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวฉันออกไป” “ทางโน้นส่งรถมารับ จอดรออยู่ที่ด้านหน้าคอนโดฯแล้วครับ” โรเจอร์แจ้งให้ทราบขณะที่กำลังลงลิฟต์ ลูอิสก็ได้ติดตามมาด้วยเช่นกัน “อืม..” แพทริกพยักหน้ารับ “งานแถลงข่าวจัดที่ไหน” แพทริกหันไปถามลูกน้องทั้งสองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง เพราะทั้งคู่ทำหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬาฯ ขณะที่แพทริกต้องทำหน้าที่ในฐานะโค้ช “โรงแรมอามารีครับ” เป็นลูอิสที่เป็นคนให้ข้อมูล “อืม” แพทริกพยักหน้ารับเมื่อได้ยินข้อมูลที่ต้องการ โรงแรมอามารี เวลา 13.00 น. วีรณาและปรียาภัทรเข้ามาในงานแถลงข่าว ทั้งคู่มาในนามของนักศึกษาฝึกงานจากคณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อมาสังเกตวิธีการทำงานเกี่ยวกับการสัมภาษณ์และการนำเสนอข่าว ทั้งคู่จึงได้รับอนุญาตให้เข้ามาในงานแถลงข่าวได้ โดยหลังจากแถลงข่าวเสร็จจะมีการเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวรวมทั้งแฟนคลับที่รออยู่ด้านนอกมาร่วมขอลายเซ็นได้ ซึ่งแน่นอนว่าวีรณาเฝ้าคอยเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ “นี่วี จ้องคุณแพทริกจนตาจะถลนอยู่แล้วนะ” ปรียาภัทรเย้าเพื่อน ทั้งกระทุ้งศอกใส่แขนวีรณาเบาๆอย่างให้พอรู้สึกตัว “จะบ้าหรือไง เราก็มองเหมือนคนอื่นที่เขามองนั่นแหละ” วีรณาตอบไม่เต็มเสียง ก็เธอจ้องแพทริกอย่างที่เพื่อนบอกจริงๆนั่นแหละ “เหมือนตรงไหน จ้องซะขนาดนั้น คุณแพริกละลายแล้วมั้ง” ปรียาภัทรแสร้งว่า พร้อมหรี่ตามองวีรณาอย่างจับผิด “เราไม่คุยด้วยแล้ว ไปดูพี่ๆนักข่าวทำงานดีกว่า” เมื่อรู้ว่าเถียงสู้เพื่อนไม่ได้ วีรณาจึงเลี่ยงไปทางอื่น “เดี๋ยวให้นักข่าวแต่ละสำนักนั่งประจำที่ของตัวเองเลยนะครับ เนื่องจากมีนักข่าวมาจากหลายแห่ง เราจึงจะเปิดโอกาสให้ถามคำถามได้แค่คนละหนึ่งคำถามเท่านั้นนะครับ อยากให้ทุกคนเตรียมคำถามไว้ให้พร้อมเพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา หลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้วจะเปิดโอกาสให้ขอลายเซ็นคุณแพทริกได้นะครับ” เสียงพิธีกรชายกล่าวก่อนที่จะเริ่มงานแถลงข่าวและนักฟุตบอลระดับโลกอย่างแพทริกก็นั่งอยู่ที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าแจ้งกำหนดการคร่าวๆเกี่ยวกับการแถลงข่าวของเดวิด แพทริก มอร์แกนจบ ก็มีเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก จุดไคลแมกซ์น่าจะอยู่ที่การแจกลายเซ็นหลังแถลงข่าวนี่แหละ “คุณแพทริกจะมาสอนเทคนิคการเล่นก็กีฬาฟุตบอลเป็นเวลานานเท่าไรครับ” นักข่าวจากสำนักหนึ่งเริ่มต้นถามก่อน “ประมาณสองเดือนครับ” แพทริกตอบพร้อมอมยิ้มน้อยๆ “ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ คุณแพทริกเคยเดินทางมาประเทศไทยไหมคะ” นักข่าวสาวจากอีกแห่งก็ถามสิ่งที่ตนเองต้องการรู้เช่นกัน “ไม่ครับ ครั้งนี้ครั้งแรกครับ” แพทริกส่งยิ้มบางๆไปให้นักข่าวสาวตามมารยาท “ทราบมาว่าคุณแพทริกพูดได้หลายภาษา” นักข่าวชายอีกคนถามขึ้นมาบ้าง “ใช่ครับ ภาษาไทยก็พูดได้นะครับ” หลังจากที่แพทริกพูดจบ ก็มีเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก ด้วยทุกคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าแพทริกพูดภาษาไทยได้ และก็มีอีกหลายคำถามที่ส่งมาให้แพทริกได้ตอบ ซึ่งเขาก็เต็มใจตอบทุกคำถาม “อยากทราบว่าคุณแพทริกมีแฟนหรือยังครับ” นักข่าวชายจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งถามคำถามนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นคำถามที่กระแทกใจของวีรณาอย่างแรง เธอจ้องมองไปที่เขาแบบรอคอยว่าคำตอบจะออกมาเป็นแบบไหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม