ล้ม

1896 คำ
มีนา เลิกคิ้วพร้อมกัยมองไปจินเล็กน้อย ‘เขาเป็นหนี้อย่างนั้นหรอ?’ เธอค่อนข้างแปลกใจ แต่เมื่อคิดได้ว่าเงินของเขาทำหายไปทุกเดือนนี่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะเธอไม่ได้ใจดีขนาดนั้น จินยังคงจมอยู่กับความคิด ถ้าหากสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริงมันก็น่าโกรธอย่างมาก ถึงแม้จินจะเลิกกับแฟนไปแล้ว แต่ช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกันหลายปีไม่ใช่เรื่องโกหก ตนก็ยังรักอยู่ แต่ถ้าเธอทำอย่างนั้นกับเขาจริงก็มีแต่ต้องเลิกรัก เขาไม่ได้โง่ถึงขนาดที่ว่ารักคนที่ทำร้ายตัวเอง “งั้นหรอ ถ้าเสร็จแล้วก็รีบกลับไปหาเจ้านายของพวกแกซะและถ้าหากเจ้านายของพวกแกถามหาฉันอีก ก็บอกไปว่าฉันตายไปแล้วและไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” มีนารีบไล่พวกนี้ออกไปทันที ถ้าหากอยู่นานกว่านี้ได้มีข่าวไม่ดีเรื่องหอของเธอมากกว่านี้แน่ และไม่ต้องพูดถึงเจ้านายของพวกมันเพราะเธอค่อนข้างรำคาญเจ้านั่น จินได้สติกลับมา “รถขนย้ายอีกสักพักคงมา ไม่ต้องเป็นห่วงน่าจะเสร็จทันเย็นนี้” มีนาบอกเขาเพื่อไม่ให้เป็นห่วง ส่วนว่าเรื่องเขาติดหนี้จริงหรือไม่ อันนี้ไม่ใช่เรื่องของเธอ มีนาไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนักและถ้าหากเป็นไปได้เธอแทบจะไม่สนใจคนรอบตัวเลย “ งั้นหรอครับ ขอบคุณมากนะครับ” เขากล่าวขอบคุณเธอ ตอนนี้มีสิ่งที่ต้องยืนยันทันทีจินหยิบมือถือออกมาและโทรไปยังเบอร์ที่ไม่อยากจะโทรมากที่สุด นั่นก็คือเบอร์แฟนเก่าหรือเมย์นั่นเอง แต่ดูเหมือนจะเป็นดังคาดเมื่อโทรไปเพียงไม่กี่วิสายนั้นก็ถูกตอบกลับโดยอัตโนมัติโดยเสียงสัญญาณที่บอกว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ซึ่งตนเองเชื่อว่าอีกฝ่ายคงบล็อกหรือไม่ก็ตัดขาดจากเบอร์ตนเองไปเรียบร้อยแล้ว จินมองไปยังมือถือพร้อมถอนหายใจ สักพักก็คิดได้ทำไมตนเองต้องเสียใจกับคนแแบบนี้ด้วยนะ ถึงแม้จะเป็นความจริงที่ว่าทั้งสองคบกันมานาน แต่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้รักจริงแค่ต้องการเงิน จินก็ไม่ควรไปเสียใจกับคนและเรื่องแบบนั้น ‘ทำไมเราต้องรักกับคนที่ไม่รักเราจริงขนาดนั้นนะ’ เมื่อคิดได้ดังนั้น จินนับตั้งแต่นี้ไปไม่คิดเกี่ยวกับความรักและแฟนเก่าเมย์อีก นี่คือปัจจุบันเมื่อจินได้ระบบมาแล้วเขาจะทวงคืนสิ่งที่เสียไปให้หมด ในอดีตก็จริงอยู่ที่ตนหน้าตาหล่อแต่เมื่อไม่มีเงินก็เหมือนตกนรกและโดนเหยียดหยาม ตอนนี้หากต้องการที่จะใช้ชีวิตที่เคยฝันไว้ ไม่มีการดูถูก ไม่มีคนมามองเหยียด หรือแม้ไม่มีกระทั้งความรักเข้ามาก่อกวน . . เมื่อทบทวนและคิดสิ่งที่ควรทำกับสิ่งที่ไม่ควรคิดแล้ว ก็เตรียมตัวไปแจ้งความทันทีถึงแม้จะได้รายละเอียดเล็กน้อยและพวกแก๊งค์เหล่านั้นกลับไปแล้วแต่ตอนนี้คือการแจ้งความเพื่อให้เรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดถึงตนจะไม่ได้คาดหวังกับพวกตำรวจพวกนี้ก็เถอะ “เดี๋ยวก่อน มาช่วยฉันก่อนจะไปได้ไหม” มีนาเอ่ยทักก่อนที่เขาจะเดินจากไปตอนนี้เธอมีช่วงยุ่งวุ่นวายกับหอมาก เนื่องจากว่าลูกหอเริ่มที่จะประสาทแดกขึ้นไปเรื่อยๆ ที่เธอต้องการให้เขาช่วยนั่นก็คือจัดการปัญหาของห้องลูกหอคนหนึ่ง “ครับ” จินตอบรับพร้อมสงสัย จริงอยู่ที่ตนเองรีบแต่ถ้ามีนามีอะไรให้เขาช่วยก็จะตอบรับทันที ไม่ใช่เพราะว่าเธอสวยหรืออะไรแต่เป็นเพราะเธอมักจะใจดีกับตนอยู่เสมอนั้นรวมไปถึงยอมให้เขาติดค่าเช่าด้วย “ มาช่วยยกของได้หรือเปล่า พอดีว่ามีลูกห้องคนหนึ่งที่ฉันไล่ออกไปแล้ว ของกระจัดกระจายห้องเต็มไปหมดและตอนนี้ฉันอยากจะให้นายมาช่วยยกของให้หน่อย ที่จริงก็ว่าจะจ้างคน แต่ฉันเห็นนายมีหน่วยก้านดีเลยเข้าล็อคพอดี ส่วนเรื่องค่าจ้าง ไม่ต้องเป็นห่วงฉันให้แน่นอน แค่แป๊บเดียวเองงานไม่หนัก” “โอเครได้ครับ” ถึงจินจะไม่ขาดเรื่องเงิน แต่ตนก็ไม่สามารถปฏิเสธมีนาได้ . . . . เมื่อมาถึงชั้นสองที่อยู่ของที่ต้องยก ปรากฎให้เห็นของที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง เรียกได้ว่าถ้าหากไม่ได้ยินว่าก่อนหน้านี้มีคนอยู่ จินนึกว่าที่อยู่ของหมาจรจัดซึ่งกลิ่นมันเหม็นมาก ‘เขาไปทำอะไรกับห้องนี้เนี้ย ทำไมถึงเหม็นขนาดนี้’ จินคิดในใจเงียบๆ เมื่อมองสำรวจอีกครั้งก็พบกับคราบดำและน้ำตาลเข้นซึ่งเป็นต้นต่อของกลิ่นเหม็นนั้น จินไม่ได้คิดอะไรมากเพราะคิดว่านั้นอาจจะเป็นคราบอาหารที่ทำหกของเจ้าของห้องนี้ก็เป็นได้ “เอาไปไว้ไหนหรอครับ” จินถาม “ตามฉันมาก็ได้ ของพวกนี้ต้องเอาไว้ที่ห้องเก็บของหลังหอ” มีนาตอบทันที จินที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับเดินไปข้างใน ของที่ต้องเก็บมีไม่มากพวกเสื้อผ้าและที่ใหญ่สุดอย่างมากก็แค่กระเป๋าไซค์ใหญ่ จินหยิบพวกเหล่านั้นรวมกันและเอาแบกขึ้นไหล่ มีนา เมื่อเห็นว่าจินแบกของแล้วเธอก็เดินนำหน้าทันที ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงชั้นล่าง มีนาเดินไปหลังหอพร้อมกับมองจินเป็นระยะๆ เธอเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอะไรไหมเพราะแบกของ ที่หนักขนาดนั้นลงมาต้องเหนื่อยเป็นธรรมดาแต่เมื่อไม่เห็นเขาแสดงอาการอะไรก่อนโล่งใจ “ ช่วยรอแป๊บนึงนะเดี๋ยวฉันขอไขกุญแจก่อน” จินพยักหน้า ในขณะที่เธอกำลังไขกุญแจ ตนเองก็อดที่จะมองไปยังบันท้ายและรูปร่างที่มีเสน่ห์ของเธอ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าร่างกายของเธอนั้นเย้าญวนถึงแม้เธอจะเรียกได้ว่าเป็นป้า แต่นั้นก็ไม่สามารถหยุดความคิดเสน่หาได้ “ โอเคเข้าไปได้เลยไปวางที่ท้ายสุดของห้องเลยนะ” จินดึงสติกลับมา เขาเพิ่งคิดและตัดสินใจกับตัวเองว่าจะไม่คิดเกี่ยวกับความรักเมื่อไม่กี่นาที แต่นี่ตนเริ่มจะไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ‘อย่าวอกแวกมีสิ่งที่ต้องทำอยู่’ จิน เดินเข้าไปภายในห้องเก็บของปรากฏให้เห็นห้องที่มืดมิดและไม่สามารถมองเห็นหน้าต่างที่มีแสงลอดผ่านเข้ามา “ เอาเข้าไปข้างในสุดเลยใช่ไหมครับ” “อืม” มีนา ก็เข้ามาในห้องเก็บของเช่นเดียวกันกับเขา เพื่อชี้ทางบอกว่าควรเก็บที่ไหน เมื่อเสร็จแล้วซึ่งมีนาก็พยักหน้าแต่ก่อนที่จินจะกลับออกไป เนื่องจากว่ามืดมากและไม่สามารถมองเห็นได้เลยว่าอะไรอยู่บนพื้น นั่นจึงทำให้เขาสะดุดอะไรบางอย่างพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า มีนาที่เห็นได้ว่าจินกำลังจะล้มมาทางเธอก็แสดงสีหน้าตกใจพร้อมเตรียมจะหลบ แต่แล้วเมื่อสักพักสัมผัสว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอแปลกใจ จินตอนนี้ตนเองมีทักษะการต่อสู้ขั้นสูงจึงทำให้การตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นเร็วกว่าเก่า นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาไม่ล้มและสามารถยืนตัวตรงเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีนาที่เห็นอย่างนั้นถอนหายใจพร้อมกับกำลังเตรียมออก แต่แล้วเธอก็ดันพลาดซะเอง มีนารู้สึกได้ว่าข้อเท้าของเธอถูกขัดโดยอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเห็น ทำให้ร่างกายของเธอสูญเสียการทรงตัวและพร้อมจะล้มไปข้างหน้า มีนาตอบสนองทันทีเธอเตรียมที่จะทรงตัวและยืนกลับมาเป็นปกติแต่แล้วก็มีร่างหนึ่งมาขัดขวางเธอ จินใช้มือทั้งสองข้างอวบกอดเอวเธอ นั่นจึงทำให้ร่างของเธอกระชับเข้ามาใกล้จิน กลิ่นกายหอมของมีนาโชยเข้ามา ยิ่งอยู่ในห้องที่มืดขนาดนี้ยิ่งเพิ่มประสาทสัมผัสขึ้นไปอีก จินรู้สึกหัวใจเต้นตุ๊บตับอย่างไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากว่ามันกระทันหันเกินไปร่างกายของเขาตอบสนองโดยทันทีเมื่อเห็นเธอกำลังจะล้ม และไม่คิดเลยว่ากลิ่นของเธอมันจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับตัวเอง หัวใจเต้นสั่นรัวด้วยกลิ่นหอมที่แผ่ออกมา แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งมาขัด “ คือว่าช่วยปล่อยได้ไหมตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” “อะ- อ้าครับ!” จินรีบปล่อยให้เธอลุกขึ้นยืนทันที มีนาน้ำเสียงของเธอเมื่อกี้นี้ค่อนข้างน่าหวาดกลัวดูเหมือนว่าเขาอาจจะเพ้อตัวไปนิดนึง “ผมว่าควรจะติดหน้าต่าง หรืออะไรก็ได้ที่สามารถทำให้แสงส่องผ่านได้นะครับเพราะในนี้มันมืดเกินไป”จินออกความคิด “อือ ฉันก็ว่าเหมือนกัน” มีนาพยักหน้าด้วยความเข้าใจเพราะเมื่อกี้เธอเกือบล้ม ถ้าไม่ได้จินมาช่วยเธออาจจะยืนได้สวยงามกว่านี้ คงไม่ต้องมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา……. . . . เมื่อเสร็จงานแล้วเธอก็จ่ายค่าจ้างให้เขาซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างพอดี สำหรับงานแป๊บเดี๋ยว เมื่อไม่มีอะไรแล้วจินก็ไปแจ้งตำรวจทันที มีนา มองไปยังแท็กซี่ที่จินใช้ขี่ไป เมื่อรถนั้นลับสายตาของเธอไป มีนาก็เอามือทั้งสองข้างแตะไปที่แก้มพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง!!!! “กรี๊ดดดด” นั่นสร้างความตกใจให้พื้นที่ละแวกนั้นมาก มีนาตอนนี้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อกี้เธอได้รับรู้ถึงกลิ่นกายที่หอมของเขา ถ้าหากเธอไม่บอกให้เขาปล่อย ไม่แน่ว่าเธออาจจะอยากดมมากกว่านี้! ‘เฮ้อ~~ เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ยมีนา!! นั่นมันรุ่นลูกเลยนะ! แล้วทำไมฉันถึงสะดุดด้วย!’ มีนา ได้แต่โทษตัวเองจากความไม่ดูให้ดีของเธอ ถ้าเธอสังเกตดีกว่านี้เธอคงไม่ล้ม ถึงแม้เธอจะแน่ใจถ้าล้มสามารถยืนขึ้นได้ทันที แต่เขามาช่วยเธอก่อน มันจึงทำให้การทรงตัวของเธอล้มเหลว มีนากำมือและทุบหน้าผากตัวเองซ้ำๆจนเกิดรอยแดง เมื่อเธอนึกถึงตอนที่จินกอดรัดเอวของเธอ ใจของเธอเต้นแรงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เหมือนจะระเบิดออกจากอกได้ทุกเมื่อ ‘หยุดคิด!! นั้นมันรุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! รุ่นลูก! …….’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม