“คงคิดว่าวิธีงี่เง่าแบบนี้จะใช้ยั่วโมโหฉันได้ผล” นาวินยักไหล่คล้ายไม่แคร์แต่มือใหญ่มันสวนทางกับคำพูด เขากำพวงมาลัยเกร็งพร้อมเหยียบคันเร่งขับกระชากไปมาอย่างฉุนเฉียว การกระทำเหล่านี้บ่งบอกถึงแรงอารมณ์ซึ่งคุกรุ่นร้อนรุ่มอยู่ภายในใจ
“เหรอคะ แต่พิมพ์คิดว่ามันได้ผลดีเลยนะ” เลือกเชิดหน้าอวดดีตามบทบาทที่ได้รับ ทว่าในใจรู้ว่ามันอ่อนแอแค่ไหน การกลับมาเผชิญหน้าเขาอีกครั้งในรอบแปดปีไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลย
…มันไม่เคยง่ายเลยสักวัน
“หลงตัวเอง”
“ค่ะ พิมพ์เป็นอย่างนั้นแหละ” ยอกย้อนเก่งเหลือเกิน ไม่มีใครกวนประสาทแต่ปั้นหน้าตายได้น่าโมโหเท่าผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
“ทีหลังจะทำอะไรหัดไว้หน้าคุณแม่บ้าง อย่าลืมเธอเป็นสะใภ้พงพิพัฒน์”
“พิมพ์กับฟ้าเป็นแค่เพื่อนกัน เราไม่เคยทำอะไรเสียหายอย่าห่วงไปเลยค่ะ” เสียงราบเรียบตอบกลับแต่รู้สึกข่มปร่าในใจ เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว เลือกตัดสินก่อนฟังคำอธิบายเสมอ เชื่อทุกอย่างบนโลกใบนี้ยกเว้นเธอ
“ฉันไม่เคยเห็นคนที่เรียกกันว่าเพื่อนจะใกล้ชิดกันแบบที่เธอกับเขาทำนะ” สงครามไม่เคยหยุดลงเหมือนมันกำลังเริ่มต้นขึ้นต่างหาก พิมพ์พลอยเม้มปากแน่น พยายามนับหนึ่งถึงสิบอย่างใจเย็น หลีกเลี่ยงการปะทะคือทางออกที่ดีที่สุดไม่ใช่หรือ
“เธอไม่คิดแบบนั้นเหรอ” ทว่าสามีกลับขึงตาใส่จนร่างบางแค่นยิ้มในใจ แท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้เปรียบเหมือนน้ำมันส่วนเธอก็ไม่ต่างจากกองไฟ ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยว่าสุดท้ายจะจบลงแบบไหน!
“งั้นต้องใกล้กันเหมือนคู่คุณกับพี่สาวพิมพ์รึเปล่าน้า ถึงจะเรียกว่าเพื่อนสนิทได้เต็มปาก!” ในเมื่อเขาเสนอเธอก็จะสนองอยากมีปัญหานักใช่มั้ย ได้เดี๋ยวภรรยาที่รักคนนี้จัดให้ มือบางกำเข้าหากันจนเปียกชื้นเลือกเอ่ยสิ่งที่รับรู้มาเมื่อวาน
เพราะเขา…เขาทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ ในเมื่อขยันใส่ร้ายกันนัก อย่างน้อยขอปกป้องตัวเองสักครั้ง จะไม่ยอมให้เขาเหยียบย่ำกันให้จมดินเหมือนในอดีต
...เคยยอมเขามามากพอแล้ว
“นี่เธอ!” นาวินจ้องเขม็งทันทีที่ลากผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเกี่ยว ทำไมร้อนรนขึ้นมาเลยใช่ไหม หรือกลัวคนอื่นรู้ความจริงว่า เบื้องหลังคำว่าเพื่อนของทั้งคู่นั้นมันเน่าเฟะแค่ไหน
ชายหนุ่มหักเลี้ยวหลบยังข้างทางเพราะต้องการสั่งสอนคนปากเก่ง พิมพ์พลอยเมินเฉยไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว ใบหน้าสวยเชิดแล้วเชิดอีก ประกาศเจตนารมณ์ว่าทั้งหมดนั่นคือความจริง
“นิสัยชอบใส่ร้ายคนอื่นมันฝังรากลึกลงจนกลายเป็นสันดานสินะ” ดวงตาคมปราดมองพร้อมเขยิบเข้าไปใกล้ชิดคนข้างกาย
“…”
“เงียบทำไม!” เล่นเอาคนช่างหาเรื่องหงุดหงิดเมื่อเธอดันไม่เดินตามเกม ถ้อยคำโหดร้ายของเขาอย่าหวังว่ามันจะทำลายจิตใจกันได้อีกต่อไป
‘หัวใจเธอมันชินชามานานแล้ว’
“ที่พิมพ์เงียบเพราะไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเถียงกับคนอย่างคุณ” สายตามองผ่านคำพูดเขาเหมือนเป็นสิ่งไร้ค่า แล่นเอาความเดือดพล่านเข้าสู่ขั้วหัวใจแกร่ง จนต้องระบายลมหายใจอันร้อนผ่าว
“งั้นเหรอ เก่งขึ้นเยอะเลยนี่ มั่นใจขึ้น ยอกย้อนเก่งไม่สมกับเป็นเธอเลย” พิมพ์พลอยเกลียดน้ำเสียงรวมถึงท่าทางซึ่งแสดงออกราวกับว่าสามารถอ่านใจเธอได้แบบทะลุปรุโปร่ง
“เธอไม่เหมือนเด็กน้อยคนนั้นของฉันเลย” มือหนาของคนใจร้ายลูบไล้บริเวณกรอบหน้างาม สายตาคมเข้มไล่มองเธอหัวจรดเท้าอย่างดูถูก
เขาจงใจเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาเฉียดผิวแก้ม จมูกโด่งรั้นนั้นฉวยโอกาสสูดดมความหอมหวานอย่างจาบจ้วง
“กลัวฉันจะทำอะไรเธอเหรอสาวน้อย” ทั้งที่เอ่ยถามเหมือนกับเห็นใจแต่ร่างกายเขายังคงคุกคามเธอไม่หยุด ริมฝีปากร้อนไล่ลงต่ำมาใกล้ยังเรียวปากสีชมพูพลางขบเม้มเบาๆ
พิมพ์พลอยเบือนตัวหนี เม้มปากแน่นขึ้นฉับพลันบ่งบอกถึงความอดทนว่าใกล้สิ้นสุดลงเต็มที
พลั่ก!
“กลืนคำพูดตัวเองหรือไง ที่เคยว่าพิมพ์เป็นผู้หญิงน่ารังเกียจ” เสียงหวานซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง เธอจะไม่ล้อเล่นกับผู้ชายหยาบกระด้างคนนี้อีกต่อไป
และดูเหมือนว่าคนที่ถูกผลักออกนั่นจะแสยะยิ้มร้ายราวกับไม่ทุกข์ร้อน ยามเห็นใบหน้าหวานที่ปกติแล้วขยันวางท่านางพญาน่ารำคาญใจ ยิ่งเธอหลุดมาดเท่าไหร่ชายหนุ่มยิ่งชอบใจจนอยากต้อนให้จนมุม
“ฉันไม่เคยกลืนคำพูดตัวเอง แต่เธอก็รู้เวลาผู้ชายมัน ‘อยาก’ อะไรมันก็ได้หมดแหละ” คำตอบของนาวินเล่นเอาเจ้าหญิงน้ำแข็งชะงักค้าง ไม่คิดว่าคนที่เคยรักกันรู้สึกดีต่อกันจะกลายเป็นแบบนี้ได้
รู้ว่าใจร้าย รู้ว่าหยาบคายแต่นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่เครื่องบำบัดอารมณ์เท่านั้น
...น่ารังเกียจสิ้นดี
“เหรอ แต่พิมพ์ว่าคุณคงลืมสัญญาหกเดือนระหว่างเราหรือติดใจ อยากอยู่ใกล้พิมพ์มากกว่านี้เหรอคะ”
“ใช่ฉันอยากอยู่ใกล้เธอ” หญิงสาวยังคงยอกย้อนไม่เลิกลาเห็นทีต้องปราบพยศคนอวดดี เขาจึงเตรียมเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง
“ถ้าคุณไม่อยากตอบคำถามคุณป้าลดาว่าทำไมพิมพ์ถึงเบี้ยวนัดวันนี้ขอให้ถอยออกไป”
“หึ…” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินคำขู่ของแม่คุณตัวดี เอาเถอะสั่งสอนเธอเท่านี้ก่อนแล้วกัน พิมพ์พลอยยังมีเวลาทำความรู้จักกับผู้ชายที่ชื่อ ‘นาวิน พงศ์พิพัฒน์’ อีกเยอะ
หกเดือนหลังจากนี้เธอจะได้รู้ว่า ‘นรก’ ที่แท้จริงมันเป็นยังไง!
คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงพิพัฒน์ตกแต่งแนวโมนาโคไม่ได้ทำให้ร่างบางซึ่งนั่งอยู่บนรถนั่นแปลกใจอะไร เธอมาวิ่งเล่นที่นี่ตั้งแต่เด็ก มารดาของเธออย่าง ‘ไพริน’ กับคุณลดานั้นเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่วัยเยาว์
จึงไม่แปลกที่ป้าลดาจะเอ็นดูพิมพ์พลอยเป็นพิเศษ จนลูกชายคนเดียวหมั่นไส้หาว่าเธอมารยาใส่มารดาเขา
พิมพ์พลอยเดินตามร่างสูงที่ก้าวยาวๆ ราวกับไม่สงสารคนตัวเล็กข้างหลัง เขามุ่งตรงเข้าไปในตัวบ้านไม่มีโมเม้นท์หวานจูงมือเฉกเช่นคู่แต่งงานคู่อื่น
“มาแล้วเหรอลูก” เสียงหวานของคุณป้าร้องทักทันทีที่เห็นใบหน้างดงามของลูกสะใภ้
“สวัสดีค่ะคุณป้า” พิมพ์พลอยยกมือไหว้พลางโน้มตัวลงไปรับอ้อมกอดของท่านอย่างเต็มรัก ทั้งสบายใจและอบอุ่น
“ทานอะไรมารึยังลูก” ลดาถามไถ่เพราะห่วงใย แต่ไม่วายหันไปมองยังเจ้าลูกชายตัวดี
‘อย่าบอกนะว่าแอบขู่อะไรน้องอีก’ สายตาของท่านสื่อความหมายแบบนั้นทำให้นาวินส่ายหน้าปฏิเสธ
“ยังเลยค่ะรอทานอาหารอร่อยๆ ฝีมือคุณป้า” ได้ยินคำพูดที่เธอเปล่งออกมา นาวินซึ่งหมั่นไส้คนเจ้ามารยาอยู่เป็นทุนเดิม จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอ
‘ประจบเอาใจเก่งไม่มีใครเกิน’ ไม่รู้ว่าเธอเรียนการแสดงมาจากที่ไหน ต่อหน้าแม่เขาทำตัวใสซื่อไร้เดียงสา ทว่าลับหลังนั่นกลับร้ายกาจจนเขาไม่คาดคิด
“นี่แม่ไม่คิดจะทักทายผมบ้างเหรอครับ” เมื่อเห็นมารดาหลงใหลได้ปลื้มกับคนตัวเล็ก อันธพาลอย่างเขาจะทำอะไรได้นอกจากคอยจิกกัดเธอ
“แกน่ะฉันเจอหน้าทุกวันจนเบื่อ ส่วนหนูพิมพ์นานๆ ถึงเจอน้อง จะอิจฉาอะไรเมียนักหนา” ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำว่า ‘เมีย’ อยากปฏิเสธก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้อยู่ในสถานะนั้นจริงๆ
“ครับหลงกันเข้าไป”
“มาทานข้าวกันดีกว่าลูก” หน้าหล่อขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นมารดาเมินเฉย แต่รู้ดีว่าโวยวายไปก็เท่านั้น ท่านฟังเขาที่ไหนทุกวันนี้พูดอะไรไปเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาตลอด
“เจ้าวินไม่ได้ดื้ออะไรกับหนูใช่มั้ยลูก”
“ค่ะ พี่วินน่ารักกับพิมพ์มาก” ยังสวมหน้ากากแสนดีเหมือนเคย ลูกรักคุณนายลดาปั้นหน้ายิ้มราวกับมีความสุขที่ได้วิวาห์กับเขา เจ้าหล่อนไม่สะทกสะท้านบ้างหรือไงกันน่ะ ผู้ชายคนนี้ทั้งกวนประสาทแถมจิกกัดเช้าเย็น
“ถ้าลูกชายป้าดื้อกับหนูบอกป้านะ เดี๋ยวป้าจัดการไอ้ตัวแสบนี่เอง” ท่านว่าพลางเสนอตัว
“เอ๊ะ! แม่เห็นผมเป็นคนยังไงครับ”
“เป็นยังไงแกรู้ตัวเองดีที่สุด” สายตามารดามองเขาราวกับขู่เข็น เล่นเอาคนที่มีชนักติดหลังหันไปจ้องมองพิมพ์พลอยคล้ายกับต้องการจะถามว่า ใส่ร้ายอะไรเขาอีกล่ะ!
“แม่ครับ…”
“อย่ามองน้องแบบนั้น”
“คุณป้าสบายใจเถอะค่ะ พี่วินเป็นสามีที่ดีมาก ไม่ได้ดื้ออะไรเลย” กลายเป็นพิมพ์พลอยที่ต้องออกตัวห้ามทัพ ก่อนเรื่องทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“เหรอจ๊ะ งั้นป้าเชื่อหนูนะ” นาวินอยากกลอกตาเป็นวงกลมทีกับลูกในไส้นั้นคอยจับผิดแทบตาย แต่คนที่ครองตำแหน่งลูกรักพูดอะไรก็ดูง่ายดายไปหมด ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้สินะ เข้าหาผู้ใหญ่ใส่หน้ากากจอมปลอมเก่งจนอยากมอบตุ๊กตาทองให้
“รินย้ายออกจากคอนโดฯ หนูไปอยู่บ้านแล้วใช่มั้ยจ๊ะ”
“ค่ะ คุณแม่กลับไปอยู่กับคุณพ่อแล้ว” พิมพ์พลอยเลือกที่จะไม่อธิบายอะไรมากมาย เพราะรู้ว่าลดาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดของครอบครัวอยู่แล้ว ท่านมักเป็นที่ปรึกษาปัญหาต่างๆ ของไพรินเสมอในฐานะเพื่อนรัก
“รินคงเหงาแย่ยังไงหนูกับรินมาค้างที่นี่ได้บ่อยๆ นะ ป้าอนุญาต” คิ้วหนาขมวดขึ้นข้างหนึ่ง ไม่เข้าใจว่ามารดาจะเอาใจอะไรหญิงสาวนักหนา
พิมพ์พลอยสัมผัสถึงรังสีความไม่พอใจผ่านสายตา จะไม่ให้เธอรู้ตัวได้อย่างไรเมื่อเขาเล่นนั่งกดดันจ้องตาไม่กะพริบขนาดนั้น
“แต่พิมพ์ว่า…”
“หนูเป็นเมียตาวินก็เหมือนเป็นคนในครอบครัว ส่วนรินก็เพื่อนสนิทไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงใจ” เหมือนโดนต้อนให้รับคำจึงพยักหน้าตอบกลับไปอย่างจำใจ
“ค่ะ ไว้พิมพ์จะชวนคุณแม่มาค้างที่นี่นะคะ”
“หึ…ไม่ต้องพูดเอาใจแม่ขนาดนั้นก็ได้ แค่นี้ท่านก็รักเธอจะแย่อยู่แล้ว” น่าขันเหลือเกินที่คนซึ่งมีอคติบดบังยังคงคิดลบอยู่วันยังค่ำ ช่างเถอะเธอจะปล่อยให้มันผ่านไปไม่อยากไปให้ค่าอะไรกับนาวิน
“ไม่แซะเมียสักวันจะนอนไม่หลับรึไงฮะ!” ลดาทนท่าทีจองหองของลูกชายตัวดีไม่ไหว ท่านโต้กลับด้วยเสียงแข็งกร้าว ถ้าวันหนึ่งหลงรักน้องขึ้นมานะจะหัวเราะให้ฟันร่วง
“ผมพูดความจริง”
“ตามใจแก หนูพิมพ์อย่าไปสนใจคนพาลแถวนี้เลย ป้าจัดห้องไว้ให้หนูแล้วคืนนี้หนูกับไอ้ตัวดีนอนค้างที่นี่นะ”
“อะไรนะครับ!”
“คุณแม่คะ…” ทั้งคู่เอ่ยขึ้นมาพร้อมมองหน้ากันโดยฉับพลัน
“อย่าปฏิเสธป้าเลย” ดวงตาสีรัตติกาลเหลือบมองท่านอย่างระอา ใช่ว่าจะไม่รู้ทันแผนการ มารดาต้องการให้เขาใกล้ชิดกับพิมพ์พลอย เพราะกลัวว่าจะไปเถลไถลที่ไหนอีก
“แต่พิมพ์ว่าวันนี้คงไม่…”
“ป้าไม่อยากได้ยินคำว่าไม่จากปากหนูนะ” ถ้าเลือกรับปากชายหนุ่มก็จะไม่ชอบใจ ทว่าเห็นสายตาอ้อนวอนของลดามันทำให้เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
จะปฏิเสธได้อย่างไร…ในเมื่อท่านดีกับครอบครัวเธอขนาดนี้
“ค่ะ พิมพ์ตามใจคุณป้า” มือลูบศีรษะหญิงสาวเมื่อได้ยินคำตอบตกลง พิมพ์พลอยได้แต่ยิ้มรับความเอ็นดู แต่ในใจก็ไม่วายคิดถึงคนช่างหาเรื่อง คืนนี้ต้องคอยรับมือความร้ายกาจอะไรของเขาอีก แค่นี้ก็อึดอัดจะแย่แล้ว