บทที่2-2

1437 คำ
หลังจากนฤบดินทร์จัดการเรื่องการส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ตรงดิ่งกลับมาที่คฤหาสน์หลังงามทันที เขาค้างอยู่ที่โรงสีเป็นเวลาสองวันสองคืนร่วมกับคนงานคนอื่นๆ เนื่องจากต้องเร่งสีขาวตามออเดอร์เร่งด่วน ร่างสูงรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ไม่น้อยและตอนนี้เขาก็อยากพักเต็มที คนตัวสูงก้าวเข้ามาในตัวบ้าน แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ตรงดิ่งไปยังห้องนอนตามที่ตั้งใจเอาไว้ ตาคู่คมเหลือบไปเห็นอาม่ากันทราที่ห้องโถงใหญ่ ท่านกำลังสูดยาดมเข้าปอด สีหน้าก็ดูอิดโรยจนน่ากังวลโดยมีคนสนิทอย่างนุ่มคอยพัดวีอยู่ไม่ห่าง และโซฟาตัวถัดมามีซินแสกำธรที่เขาก็รู้จักเป็นอย่างดีนั่งอยู่ด้วย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบเป็นปม ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาอาม่ากันทราแบบตัวปลิว “เกิดอะไรขึ้นครับ แล้วอาม่าเป็นอะไร” ชายหนุ่มว่าพลางหย่อนสะโพกนั่งลงโซฟาตัวเดียวกับอาม่ากันทรา นุ่มจึงขยับตัวถอยออกมาอย่างรู้งาน ปล่อยให้ชายหนุ่มหยิบพัดจากมือตนไปพัดวีให้คนสูงวัยกว่าเสียเอง อาม่ากันทราค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่มีร่องรอยแห่งความเหี่ยวย่น เมื่อเห็นใบหน้าหลานชายหัวแก้วหัวแหวน คนสูงวัยกว่าถึงกับร้องไห้โฮ ทิ้งหลอดยาดมแล้วผวาเข้ากอดร่างของนฤบดินทร์ จนอีกฝ่ายตั้งตัวแทบไม่ทัน “อาดินทร์...” ชายหนุ่มกอดปลอบ เขายังจับต้นชนปลายไม่ถูก ตาคู่คมหันไปหานุ่มและซินแสกำธรเป็นเชิงถาม แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบแก่เขาได้ ชายหนุ่มจึงถามอาม่ากันทราที่ค่อยๆ คลายสะอื้นลง “เกิดอะไรขึ้นครับอาม่า” อาม่ากันทรายอมผละออกจากอ้อมแขนของหลานรัก มือของท่านรวบมือของนฤบดินทร์เอาไว้ แววตาดูเศร้าหมองจนนฤบดินทร์เริ่มใจคอไม่ดี “อาดินทร์ ลื้อจะจากอั๊วไปไม่ได้นะ อั๊วไม่ยอม” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่นทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น แววตาคู่คมฉายแววกังหา ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่อาม่ากันทราเอ่ยออกมา แค่เขาไม่อยู่บ้านแค่สองวัน อาม่าต้องงอแงขนาดนั้นเลยหรือ “ผมก็ไม่ได้ไปไหนนี่ครับอาม่า ผมแค่ไปนอนค้างที่โรงสีเท่านั้นเอง ผมบอกอาม่าไปแล้วนี่ครับ” “ไม่ใช่แบบนั้นๆ” อาม่ากันทราเน้นย้ำ ก่อนจะหันไปหาซินแสกำธร “อาซินแส ช่วยบอกอาดินทร์แทนอั๊วที อั๊วพูดไม่ไหวจริงๆ ใจของอั๊วจะขาดอยู่แล้ว” นฤบดินทร์หันไปมองที่ซินแสกำธร โดยที่มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มยังคงถูกอาม่ากันทรากอบกุมเอาไว้เช่นเดิม ซินแสกำธรยกมือขึ้นลูบเคราตัวเองสองสามครั้ง ก่อนจะบอกกออกมา “คืออย่างนี้นะอาดินทร์ หลังจากครบรอบวันเกิดของลื้อปีนี้ ลื้อจะมีเคราะห์หนัก ถึงขั้นเลือดตกยางออก และอาจถึงชีวิตได้” แม้จะมีสายเลือดของคนจีนอยู่ในตัว แต่ด้วยความที่เป็นคนสมัยใหม่ชายหนุ่มจึงไม่ค่อยกังวลใจกับเรื่องที่ซินแสกำธรบอกเท่าไรนัก แต่ก็ถือคติว่าจิ้งจกทักเรายังชะงัก นี่คนทักเราก็ควรจะฟัง “แล้วมันพอจะมีวิธีแก้ไหมครับ” “วิธีแก้มันก็พอจะมีอยู่” “ยังไงครับ” “อย่างที่อั๊วบอกเคราะห์กรรมของลื้อหนักเอาการ วิธีการแก้มีวิธีเดียวนั่นก็คือ ลื้อต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันฉันท์สามี-ภรรยาเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ลื้อถึงจะผ่านพ้นเคราะห์หนักในครั้งนี้ไปได้” คราวนี้ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มหันมามองอาม่ากันทราที่ยังคงกอบกุมมือของตนเอาไว้ สีหน้าของท่านฉายแววกังวลไม่ต่างจากเขาเลย “อาดินทร์ เชื่ออาซินแสเถอะนะ ยังไงลื้อก็ต้องแต่งงานเพื่อให้พ้นจากเคราะห์หนักในครั้งนี้ หรืออย่างน้อยมันจะได้เปลี่ยนจากหนักให้กลายเป็นเบาได้” นฤบดินทร์มีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบอกออกมา “แต่ช่อไม่ได้เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะนะครับอาม่า” นฤบดินทร์กล่าวถึงคนรักของตัวเองที่คบหาดูใจกันมาได้เกือบๆ ปี ซึ่งครอบครัวของเขาและครอบครัวของฝ่ายหญิงต่างก็รับรู้ แต่ทว่าเขายังไม่ได้วางแผนจะแต่งงานเร็วๆ นี้ และดูเหมือนว่าช่อทิพย์ก็ยังไม่พร้อมเช่นเดียวกัน “เรื่องอาช่อทิพย์เอาไว้ก่อน เรื่องที่ลื้อจะต้องทำในตอนนี้ก็คือแต่งกับผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ ตามที่อาซินแสบอก” ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ เรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่ซินแสบอก แต่ทว่าจะให้เขาไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ไหวหรอก แล้วอีกอย่างเขาก็มีคนรักอยู่แล้ว มันต้องมีทางแก้ทางอื่นนอกเหนือจากการแต่งงานสิ “มันพอจะมีทางแก้ทางอื่นไหมครับ ทางแก้ที่ผมไม่ต้องแต่งงาน” นฤบดินทร์หันมาถามผู้รอบรู้ในเรื่องดวงชะตาอย่างซินแสกำธร “ไม่มีทางอื่น ทางแก้มีอยู่หนทางเดียว คือลื้อต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่อั๊วว่าเอาไว้” “นะๆ อาดินทร์ลื้อต้องเชื่ออาซินแสนะ” อาม่ากันทราช่วยเสริม เพราะดูเหมือนหลานชายอยากจะปฏิเสธ ซึ่งก็แน่นอนว่านฤบดินทร์ไม่ยอมทำตามเด็ดขาด แหมว่าจะเชื่อในสิ่งที่ซินแสกล่าวมาทั้งหมด “อาม่าครับ ผมว่ามันคงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกครับ แล้วอีกอย่างเรื่องแต่งงานก็เป็นเรื่องใหญ่นะครับ ที่สำคัญผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ อยู่ไหนก็ไม่รู้ แล้วอีกอย่างถึงเราจะพบผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่ไหนจะยอมแต่งงานกับผมเพื่อช่วยสะเดาะเคราะห์กันล่ะครับ และที่สำคัญอาม่าก็รู้ว่าผมมีคนรักอยู่แล้ว ยังไงช่อเค้าคงไม่ยอมหรอกครับ” “แต่มันเกี่ยวกับเรื่องความเป็นความตาย ยังไงอีก็ต้องยอม อั๊วขอร้องล่ะอาดินทร์ แค่ปีเดียวก็ได้ จากนั้นลื้อจะตัดสินใจยังไงอั๊วจะไม่ห้ามลื้อเลย อาโซ่ไง อาโซ่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ อีต้องยอมช่วยเราแน่” จากที่คิดจะวางแผนให้หลานชายเลิกคบหากับคนรักที่ท่านทราบมาว่าเบื้องหลังว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนดีนัก แต่พอรู้ว่านฤบดินทร์ตกเคราะห์หนักเข้าจริงๆ อาม่ากันทราจึงยอมทุกอย่าง และหวังว่านิฏฐาจะสามารถช่วยให้หลานชายของท่านพ้นเคราะห์กรรมในครั้งนี้ได้ จะแลกด้วยอะไรท่านก็ยอมทุกอย่าง แต่นฤบดินทร์เห็นต่างออกไป “อาม่าครับ ผมไม่โอเคกับเรื่องนี้ เอาเป็นว่าผมจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทก็แล้วกันนะครับ ตอนนี้ผมเพลียมากเลยครับอาม่า ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ” ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อของคนที่อาม่ากันทราต้องการให้เขาแต่งงานด้วย ถึงแม้จะเพียงแค่ช่วยสะเดาะเคราะห์ก็ตาม และเขาก็รู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เด็กผู้หญิงข้างบ้านที่เขารู้จักมาตั้งแต่เด็ก ใบหน้ากลมๆ แต่งตัวแบบวัยป้า สวมแว่นตาหนาเตอะแบบนั้น ไม่ใช่ผู้หญิงในอุดมคติของเขาเลยสักนิด เขาไม่เอาด้วยเด็ดขาด “ผมขอตัวก่อนนะครับซินแส” นฤบดินทร์หันไปบอกซินแสกำธร ก่อนจะขยับตัวลุกจากโซฟาแล้วเดินขึ้นบันไดวนไปยังชั้นสองของตัวบ้าน โดยไม่ฟังเสียงเรียกของอาม่ากันทราเลยสักนิด “เดี๋ยวสิอาดินทร์ อาดินทร์!” อาม่ากันทราได้แต่มองตามหลังหลานชายไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมาหาซินแสกำธร ที่มีสีหน้าวิตกกังวลไม่ต่างกัน “อาซินแส อั๊วควรทำยังไงดี ดูท่าแล้วอาดินทร์อีไม่ยอมง่ายๆ แน่” “ลิขิตฟ้า อาญาสวรรค์ ยากจะฝืน” ซินแสกำธรบอกเพียงเท่านั้นแล้วยกมือขึ้นลูกเคราพลางส่ายหน้า ดวงตาของผู้เชี่ยวชาญด้านดวงชะตามองไปทางบันไดวนที่เพิ่งจะลับร่างของนฤบดินทร์ไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม