รักตกันท์ทำหน้าเมื่อย แต่ก็ยอมตอบคำถามของอีกฝ่าย “ก็แกไง จำตัวเองไม่ได้เหรอ แหม...พอสวยขึ้นทำเป็นจำตัวเองไม่ได้เชียวนะ” ท้ายประโยครักตกันท์แอบเหน็บเพื่อนเบาๆ “แหม...แกอะ” นิฏฐาแสร้งทำปากยื่นใส่เพื่อน ก่อนจะหันมามองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกอีกครั้ง รอยยิ้มหวานแต่งแต้มบนใบหน้าและความกว้างของรอยยิ้มก็ดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “หุบยิ้มได้แล้วมั้งแก เดี๋ยวปากก็ฉีกถึงใบหูกันพอดี” นิฏฐาหันมามองเพื่อนโดยใบหน้ายังมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่แบบนั้น มือเล็กวางกระจกในมือลง ก่อนจะโผเข้ากอดรักตกันท์โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว “ขอบคุณนะ” นิฏฐาร้องบอกพร้อมๆ กับเพิ่มแรงกอดรัดจนรักตกันท์แทบจะหายใจหายคอไม่ออก แต่อีกฝ่ายไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังเผยรอยยิ้มกว้างไม่ต่างกัน “เออๆ ก็แกเป็นเพื่อนฉันนี่ จัดการรวบหัวรวบหางพี่ดินทร์ให้ได้ซะ ฉันจะได้ไม่ต้องลำบากถูกแกเรียกใช้งานอีก” ท้ายประโยครักตกันท์แกล้งแซวเพื่อนอย่างติดต