ตอนที่ 7
ฟองน้ำ
“กาแฟค่ะ”
แก้วกาแฟดำหอมกรุ่นถูกวางบนโต๊ะ วิณณ์ หลุบตามองมือขวาผ่านควันพวยพุ่งตรงหน้า แล้วหันมาใส่ใจงานบนจอโน๊ตบุ๊คของตน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกาแฟมาจิบช้าๆ รับรู้รสชาติละมุนตรงปลายลิ้นที่เขาคุ้นชินมันทุกวันอย่างละเมียดละไม การดื่มกาแฟคือศิลปะที่แสนสุนทรีย์อย่างนึง
แต่ไม่ใช่ในวันนี้!!
“เดี๋ยว!”
“คะ”
“รสชาติไม่ได้เรื่องเลย! จืดชืดมาก”
มือหนาวางแก้วกาแฟที่จิบไปเพียงนิดลงบนโต๊ะ พร้อมสายตาดุเข้มมองมายังเลขาคนใหม่ นั่นทำให้คิ้วเรียวสวยของเขมมิกาขมวดย่นเข้าหากัน
“หือ”
“ไปชงมาใหม่ ไม่รู้รึไงว่าฉันไม่ชอบกาแฟที่จืดชืด รสชาติไม่กลมกล่อมแบบนี้ ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้จะเป็นเลขาทำเรื่องที่ยากและละเอียดกว่านี้ได้ไง”
เสียงของเขาเข้มขึ้น มุมปากหยักได้รูปนั้นยกยิ้มเล็กน้อย เมื่อหรี่มองหน้าเนียนใส ที่เริ่มบึ้งตึงขึ้นมาเล็กน้อย
“แต่กาแฟนี่คุณแก้วเป็นชงเองกับมือเลยนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงราบเรียบ
“ใช่ค่ะคุณวิณณ์”
แก้วกัลยารีบเอ่ยสมทบ เมื่อยกแฟ้มงานเอกสารรอเซ็นเข้ามาในห้อง “เมื่อกี้แก้วตั้งใจสอนน้องขนมค่ะ ว่ากาแฟสำหรับคุณวิณณ์ต้องเป็นกาแฟสดเท่านั้น โดยต้องต้มในน้ำร้อนจัดให้ไอน้ำดันกาแฟจนได้ที่จึงจะรินเสริฟได้ค่ะ”
คำบอกของเลขาคู่ใจทำให้เขาชะงักเล็กน้อย
“วันหลังให้เขาทำเอง มัวแต่ทำให้แบบนี้เมื่อไหร่จะเป็นสักที” กาแฟถูกยกขึ้นจิบต่อ
ความจริงกลิ่นของมันก็แสนยั่วยวนจนเขาทนไม่ไหว ไม่นานนักมันก็หมดแล้วภายในเวลาไม่นาน หลังจากเด็กขนมจืดนั่นเดินออกจากห้องไปแล้ว
“คุณวิณณ์ค่อนข้างเป็นคนละเอียดพิถีพิถัน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงานและการดื่มกาแฟอย่างเดียว”
แก้วกัลยา กระซิบบอก พร้อมแอบยกยิ้มเล็กน้อย ด้วยไม่แน่ใจว่าทำไมท่าทีที่แสดงออกกับ เขมมิกา ว่าทีเลขาคนใหม่คนนี้ของเจ้านายตนเอง กับท่าทีของคุณโอภาสเจ้านายใหญ่ถึงตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
แต่อย่างไรเธอเองก็ต้องทำทุกอย่างให้สมูท เพื่อให้ทุกคนและทุกคำสั่งลื่นไหลไปได้ ทั้งงานของเจ้านายและงานของตัวเองในช่วงที่ไม่อยู่ไม่ให้สะดุด
“ค่ะ ขอบคุณพี่แก้วกัลยามากค่ะ ขนมจะตั้งใจเรียนรู้อย่างเต็มที่”
เขมมิกา กล่าวขอบคุณจากใจจริง แม้อะไรหลายอย่างจะทำให้เธอรู้สักอึดอัด แต่ท่าทีของเลขารุ่นพี่ก็ทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา อย่างน้อยนี่ก็ทำให้เธออุ่นใจว่าจะสามารถเรียนรู้งานและทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายในระหว่างที่แก้วกัลยาไม่อยู่ และหากเมื่อเลขาคู่ใจของนายจบภารกิจแล้ว เธอเองก็จะได้ไปทำตำแหน่งอื่นตามที่ทางคุณโอภาสได้บอกไว้
รับผิดชอบหน้าที่นี้ไปเพียงไม่กี่เดือนละกัน ถือว่าเป็นการทดแทนผู้มีพระคุณทั้งสองในเวลาที่ผ่านมาด้วย แถมเงินเดือนเกือบหกหลักที่ได้ถือว่าค่อนข้างเยอะสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเธอพอสมควร
“ผมจะมีนัดคุยกับพาร์ทเนอร์ช่วงค่ำ ฝากจองร้านอาหารจีนมุมสงบๆสำหรับห้าที่ไว้ให้ด้วย”
ประธานเอสเอ็ม กดแจ้งที่โต๊ะกับแก้วกัลยา และเขมมิกาซึ่งกำลังนั่งดูรายละเอียดงานข้างๆก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“ได้ค่ะคุณวิณณ์”
“อ้อ ช่วงเย็นนี้บอกขนมว่าไปกับผมด้วยนะ”
“ได้ค่ะ”
ติ๊ด!! สายถูกวางไปหลังจากนั้น
แก้วกัลยาหันมามองหน้าเขมมิกาที่นั่งมองเธออยู่ก่อนแล้ว “คุณวิณณ์จะให้เราไปทานข้าวกับลูกค้าด้วยเย็นนี้ ได้ยินแล้วใช่มั้ย?”
“ค่ะ”
เขมมิกา กระพริบตาถี่ติดกัน ด้วยกำลังประมวลผลว่าเธอควรจะทำต้องทำอย่างไรต่อ เหมือนตัวเองกำลังถูกจับขึ้นเชือกขึงร่มและถูกโยนร่างลงไปในอากาศ โดยมีครูฝึกยืนหัวเราะร่าอยู่ด้านบน
อยากรอด ก็ต้องหาทางกระตุกร่มให้ได้เอง
ว่าแต่ว่า!! คงไม่มีใครแอบตัดสายร่มเธอขาดหรอกนะ
“ส่วนใหญ่การกินข้าวกับแวนเดอร์จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยทั่วไปและไม่เป็นทางการมาก ของเจ้านี้ดูท่าทางเขาอยากต่อสัญญากับเรา จึงอยากจะคุยในบรรยากาศสบายๆ”
แก้วกัลยาแนะนำ “ แค่ตั้งใจฟัง เอาไอแพคไปด้วย จดจำรายละเอียดให้มากที่สุด ถ้าเขาความคิดเห็นให้เรายิ้มไว้ก่อน แล้วบอกว่าจะเสนอผู้ใหญ่ให้พิจาณาอีกที”
ฟังแล้วก็ไม่เห็นจะน่ามีอะไรเลย
สบายมากเรื่องแค่นี้เอง!!
“ไปกันได้แล้ว”
ร่างหนาของเจ้านายเดินนำมาหน้าห้อง นั่นทำให้เขมมิกาฉงนนัก ด้วยตอนแรกคิดว่าเขาจะให้เธอนั่งแท็กซี่ตามไปเอง นั่นทำให้เธอรีบเก็บของอย่างร้อนรน และรีบเดินตามเขามาด้านหน้ายังมินิแวนคันหรูที่มีคนของเขาจอดรออยู่แล้ว
“เชิญครับนาย”
เขมมิกา ลังเลเล็กน้อยว่าตัวเองควรจะขึ้นไปนั่งตรงไหน จึงได้แต่ยืนนิ่งเพื่อให้ ประธานเอสเอ็มขึ้นไปก่อน ทว่าหน้าหล่อเหลากลับหันมองเธอด้วยสายตาดุเข้ม
“ขึ้นไปซิ!”
“ค่ะ”
หญิงสาวรีบขึ้นไปนั่งด้านในจนชิดกับประตูรถอีกฝั่ง ก่อนที่ร่างหนาของวิณณ์จะขึ้นมานั่งข้างๆ นั่นทำให้เธอนั่งตัวแข็งทื่อและจับไอแพคในมือตัวเองไว้แน่น
แต่ชายหนุ่มดูไม่ใส่ใจเธอเท่าใดนัก เมื่อขึ้นมาบนรถเขาก็หยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดู และเช็คข้อความมากมายของตน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดั่งว่ากำลังนั่งอยู่คนเดียวในรถหรูที่กว้างขวางนี้เพียงลำพัง
ดีเหมือนกัน! เงียบแบบนี้ก็ดีแล้ว
“หัวใจสำคัญของแพลตฟอร์มออนไลน์คืออะไร?”
จู่ๆเขาก็เอ่ยถามขึ้นมา นั่นทำให้เขมมิกาหันมามองหน้าเขาและย่นหัวคิ้วเรียวเข้าเล็กน้อย
“.....”
“ถามเธอนั่นแหละในรถนี้จะมีคนอื่นอีกเหรอ”
ก็ในเมื่อที่นั่งส่วนตัวมีแค่เขากับเธอเท่านั้น
“เป็นสิ่งที่เข้าถึงง่ายและเข้าใจไม่ยาก ไม่สลับซับซ้อนที่แม้แต่เด็กประถมต้นก็สามารถใช้ได้ด้วยตัวเองค่ะ”
เธอตอบอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้หน้าหล่อเหลาโน้มมาใกล้เล็กน้อย มือหนาเอื้อมมาจับไอแพคที่อยู่หน้าตักของเธอ เป็นครั้งแรกที่เขมมิกาได้กลิ่นน้ำหอมสะอาดจากตัวเขา
“เป็นคำตอบที่ดี”
วิณณ์ ตอบเบาๆ หลุบตามองมือขาวที่วางอยู่บนไอแพค “ว่าแต่ว่า เธอได้เข้าไปศึกษาแพลตฟอร์มของเราบ้างรึยัง?” เสียงเขาคล้ายจะกระซิบอยู่ข้างหู จนหญิงสาวต้องขยับกายออกห่างเล็กน้อย ด้วยรู้สึกเหมือนขนอ่อนในกายเริ่มจะลุกชูชัน
ทำไมตัวเขาเหมือนมีไฟฟ้าสถิตย์อยูรอบตัวแปลกๆ
“ค่ะ ขนมดูแล้วตั้งแต่เมื่อคืน”
เสียงเธอสั่นระริก เมื่อมือหนาปัดป่ายโดนมือของเธอที่กุมไอแพคไว้ ก่อนที่เขาจะชักมือออก มุมปากหยักได้รูปของชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นกริยาของเธอ
“แค่นี้ก็สั่นแล้วเหรอ? ยังเรียนรู้ไม่ถึงไหนเลยเด็กน้อย”