ตอนที่ 11
คอแข็ง
“เธอใช้ชีวิตมายังไงฉันละสงสัยจริง”
น้ำเสียงของ วิณณ์ เริ่มจะอ้อแอ้ หลังจากไวน์ขวดที่สามหมดลง ทว่าเขาก็ยังคงเดินไปหยิบอีกขวดมาเปิดและรินใส่แก้วให้ตัวเองและเลขา ก่อนจะยื่นให้อย่างยัดเยียด “ทำไมฉันจำไม่ได้ว่าเคยได้รับเรียงความขอทุนจากเธอ และจำไม่ได้ว่าเป็นคนมอบทุนให้เธอเองกับมือ ...เอ๊ารับซะ!”
แก้วไวน์ถูกยื่นให้ตรงหน้า และเขมมิกา ก็รับมาจิบอย่างใจเย็น มือหนาของเขาปัดป่ายโดนมือนิ่มของเธอ เพียงสัมผัสน้อยนิดก็ทำให้สองแก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา ยิ่งกว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ทื่ดื่มกับเขาไปหลายขวด
เพราะอะไรนะเหรอ? ..คงมีเพียงเธอรู้ดี
“คุณวิณณ์เคยเจอขนมตั้งหลายครั้ง”
เธอเอ่ยเบาๆ มองคนตรงหน้าที่ตาปรือเชื่อม และตระหนักได้ว่าเขาคออ่อนยิ่งนัก แม้ภาพลักษณ์จะดูเหมือนเก่งไปเสียทุกอย่าง แต่เขาก็เหมือนคุณหนูคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมพอควร และนั่นทำให้เขาน่าเอ็นดูนักเวลาเริ่มจะเมาจนหน้าแดงก่ำ
คนเราจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเวลาเราไม่ได้สติ
“หลายครั้งเหรอ ตอนไหนบ้าง? ทำไมฉันจำไม่ได้”
เสียงวิณณ์อ้อแอ้ในลำคอ กระนั้นก็พยายามที่พยุงตัวเองให้นั่งตรง มือหนายกขึ้นกุมขมับคล้ายต้องการจะพยายามคิดในสิ่งที่เด็กขนมจืดพูด
แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก! เขาไม่เคยเจอเด็กคนนี้
“ตั้งแต่ตอนเด็ก ตอนหนูเรียนประถม มัธยม ..ตั้งแต่ก่อนพ่อกับแม่หนูจะเสีย...” หญิงสาวชะงักคำพูดไว้แค่นั้น เมื่อเอ่ยถึงบุคคลผู้ให้กำเนิดอันเป็นที่รัก และคล้ายวิณณ์จะจับน้ำเสียงนั้นได้ ดวงตาปรือเชื่อมมองเธอนิ่งอยู่เพียงครู่
“มานั่งนี่ซิ!”
เขาตบมือลงยังโซฟาข้างๆตัว เมื่อมองร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้าม ตอนนี้แม้เขาจะเมามายไม่ได้สติเพียงใด ทว่าเขาก็จับความรู้สึกสะเทือนใจและอ้างว้างลึกๆของเด็กขนมจืดนี้ได้
“คะ”
“มานั่งข้างๆฉัน ..จะกลัวอะไร”
เปล่ากลัว! เพียงแค่แปลกใจเท่านั้น
“ค่ะ”
“ทำไมดูเธอเหมือนไม่เมาเลย”
วิณณ์หรี่ตาถาม เมื่อหญิงสาวมานั่งข้างๆ และดูท่าทางเธอยังคงสดชื่นตลอดทั้งที่ไวน์ห้าขวดนี้ เป็นเขาที่รินให้เธอเป็นส่วนใหญ่ ด้วยอยากรู้ว่าตอนยายขนมจืดนี่เมามายจะเป็นอย่างไร
กลับกลายเป็นเขาที่เริ่มจะนั่งไม่ตรงเสียเอง
“ก็ยังไม่เมา แต่คุณวิณณ์พอได้แล้วค่ะเดี๋ยวกลับบ้านไม่ไหว” เธอปรามอย่างเป็นห่วง แม้จะทราบว่าเขามีคนขับรถรออยู่ด้านล่างแล้วก็ตาม
แต่เธอก็ไม่อยากหิ้วปีกเขาลงไปหรอกนะ และไม่ได้อยากให้เขาฟุบในห้องนี้ด้วย อีกอย่างเริ่มดึกเธอเองก็เริ่มจะง่วงเต็มทน
“ฉันอยากกินอีกหน่อย ปกติไม่เคยดื่มเยอะขนาดนี้”
คนเมายังคงดื้อรื้น กระดกไวน์เข้าปากอีกรอบ
“.....”
“เล่าต่อซิ!”
“หือ”
“ก็เรื่องที่ว่าเราเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว และฉันเคยคุยกับเธอมั้ย” ชายหนุ่มถามต่อ และเอนหลังพิงกับโซฟา
“เคยค่ะ คุยหลายอย่างคุณวิณณ์บอกให้หนูเข้มแข็งและตั้งใจเรียน คุณเป็นคนบอกหนูเองว่าไม่ว่าชีวิตเราจะเจอะเจออะไรไม่ว่าเรื่องนั้นจะร้ายแรงแค่ไหน ....ความเข้มแข็งเท่านั้นจะพาเราไปพบสิ่งดีๆ”
ความเข้มแข็งเท่านั้น...เธอจำคำพูดเขาได้ดี!!
และสิ่งนี้มันคอยโอบอุ้มตัวตนและจิตใจให้คงอยู่
เพียงคำพูดไม่กี่คำของเขาคือแรงพลังที่ยิ่งใหญ่ของเธอ
“อืม ฮ่าๆฉันพูดแบบนั้นเหรอ”
มุมปากหยักยกยิ้ม เปลือกตาหนาหลับลงคล้ายต้องการจะรำลึกถึงภาพและเหตุการณ์ดังกล่าวที่ไม่ได้มีอยู่ในสารระบบความทรงจำของตัวเองแม้แต่น้อย
ทว่ามันตราตรึงอยู่กับอีกคนมาเนิ่นนาน
“ค่ะ”
“เมื่อกี้เธอบอกว่าเอสเอสด้อยกว่าวีว่า ..แล้วเธอคิดว่าฉันกับไอ้วัฒน์ใครดูดีดูเหนือกว่ากัน”
จู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่อง และถามคำถามนี้กับเธอ
...นี่คงเป็นคำถามที่งี่เง่าที่สุดที่เขาเคยถามคนรอบตัว และหากไม่เมามายแบบนี้ เขาคงไม่มีวันถามคำถามนี้เป็นแน่ โดยเฉพาะกับยายขนมจืดนี่
“คุณวิณณ์ค่ะ”
เขมมิกาตอบแทบจะทันที นั่นทำให้หน้าหล่อเหลาปรือตามองและหัวเราะเบาๆในลำคอ
“นี่ขนม! เธอไม่ต้องมาตอบเพื่อเอาใจฉันหรอกนะ ฉันไม่ใช่พ่อกับแม่ที่เธอจะต้องมาประจบ ตอบตามที่เธอคิดได้เลย”
เสียงเขาอ้อแอ้และตำหนิ แม้จะเมามายเพียงใด แต่สติส่วนลึกเขาก็รู้สึกว่าเธอตอบเพื่อเอาใจ อาจเพราะเห็นว่าเขาเป็นเจ้านายที่ต้องทำงานด้วย
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมาเอาใจเสียหน่อย
“หนูตอบตามความจริง คุณวิณณ์ดูดีกว่าตั้งเยอะ”
เธอตอบตามความรู้สึกลึกๆในใจ นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลหลุบต่ำและไหววูบเล็กน้อย เขาคงไม่รู้ตัวว่าเขาดูดีและเจิดจรัสเพียงใด ต่อให้วิวัฒน์ลูกเจ้าสัวโอวาทยืนใส่สูทราคาแพงอยู่ท่ามกลางกลางกองเงินกองทอง กับชายหนุ่มตรงหน้าที่ยืนตัวเปล่าอยู่บนพื้นดินธรรมดา
ความออร่าและสง่างามนั้นก็ยังคงเป็นวิณณ์อยู่ดี
และสายตาของเธอ ...ก็คงจะยังมองเห็นแต่เขาเท่านั้น
“......”
วิณณ์ อึ้งไปสักพักกระดกไวน์แก้วสุดท้ายลงจนหมดทุกหยาดหยด ก่อนที่แก้วเปล่าจะถูกมือขาวของยายขนมจืดคว้าไป
“ผู้หญิงคนนั้นเขาแค่พลาดไป”
คิ้วหนาของวิณณ์เลิกสูงเล็กน้อย
“หมายถึงภัสนะเหรอ?”
เขาไม่ได้เสียดายหล่อนสักหน่อย บอกแล้วไงว่าเขาเป็นคนชอบอะไรที่ชัดเจน เมื่อเห็นว่าคนที่เคยคบหาค่อยๆเปลี่ยนไปจะต้องรั้งไว้ให้เสียเวลาทำไมกัน
บางทีอาจเป็นเขาที่ต้องการให้ความสัมพันธ์จบลง
“หมายถึงทุกคนที่มองผ่านคุณวิณณ์ไป”
ทุกคนเลยเหรอ? ชีวิตเขาไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกและขาดแคลนผู้หญิงถึงเพียงนั้น ลำพังตอนนี้สาวๆมากมายก็พยายามเข้าหาจนเขาไม่รู้ว่าต้องสลัดออกยังไงบ้าง
ในหัวเขาตอนนี้มีแต่เรื่องของ SS Online เท่านั้น
“ทุกคนเลยเหรอ? ...หมายถึงเธอด้วยมั้ย?”
วิณณ์ กระซิบถามกลับเสียงแหบพร่า จู่ๆ ก็นึกสนุกขึ้นมาอยากจะหยอกล้อยายขนมจืดเล่นเสียหน่อย ด้วยวันนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเสียศูนย์หลายอย่างตั้งแต่คุยกับคู่ค้าที่ร้านอาหารจีน และยังเจอกับวิวัฒนและภัสสรที่นั่น
แถมมาที่นี่กะจะมอมเลขาคนใหม่ให้เมามาย กลับกลายเป็นตัวเองที่เริ่มจะไม่ได้สติเสียเอง
“คุณวิณณ์เมาแล้วค่ะ”
เขมมิกา ขยับตัวออกห่างเตรียมจะถือแก้วไปเก็บและโทรบอกคนของเขาให้ขึ้นมารับเจ้านายลงไปที่รถ ด้วยรู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มจะนั่งไม่ตรงและพูดจาอ้อแอ้ไม่รู้เรื่องแล้ว
“เดี๋ยว!”
ทว่ามือหนาของวิณณ์ กลับคว้าเอวคอดของเธอไว้แน่นนั่นทำให้ร่างบางเซถลาลงนั่นบนตักของเขาทันที ก่อนที่หน้าหล่อเหลาจะโน้มลงใกล้ และกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็ก
“ว่าไง!ตอบคำถามฉันมาก่อน ..ว่าหมายถึงเธอด้วยมั้ย”