ตอนที่ 12
รสชาติไวน์แดง
“ว่าไง!ตอบคำถามฉันมาก่อน ..ว่าหมายถึงเธอด้วยมั้ย”
เสียงนุ่มทุ้มต่ำนั้นทำเอา เขมมิกา ปั่นป่วนจนมือไม้แทบจะไร้เรี่ยวแรงยิ่งเมื่อตระหนักได้ว่าร่างของตัวเองนั่งเกยอยู่บนตักและเบียดชิดกับร่างหนาแน่นเครียดของเขา จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมละมุนของน้ำหอมสะอาดจากเรือนกายบุรุษ พร้อมลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารวยรดรินอยู่ใกล้ๆ
เขากำลังทำให้เธอเสียการควบคุมตัวเอง
“ค่ะ”
“ตอบไม่เต็มประโยค”
วิณณ์ ยียวนต่อ สัญชาตญานเพียงน้อยนิดที่มีอยู่ตอนนี้บอกเขาว่า ร่างนิ่มในอ้อมแขนนี่น่ารังแกยิ่งนัก แถมท่าทีของยายขนมจืดตอนนี้ดูยั่วยวนจนอยากให้เธอตอบคำถามที่เขาอยากจะฟังเสียให้ได้
“เดี๋ยวหนูจะโทรให้คนขับรถขึ้นมารับคุณวิณณ์กลับ”
“ใครบอกว่าฉันจะกลับ”
“หือ”
“ฉันจะค้างที่นี่”
“ไม่ได้ อื้อ....”
เสียงเธอหลุดหายไปในลำคอเมื่อริมผีปากเขาประกบปิดปากเธอ เขมมิกาเบิกตาโพลงอย่างตระหนกด้วยไม่คิดว่าเขาจะรุกเร้ารวดเร็วเพียงนี้ แต่กระนั้นเธอกลับไม่อยากจะทัดทานและผลักใสเขาออก นั่นทำให้ชายหนุ่มบดเคล้าเนิบนาบ จนอารมณ์เธอเริ่มจะปั่นป่วน
“อื้อ....”
เปลือกตาคู่สวยของเขมมิกาปิดลงช้าๆเมื่อชายหนุ่มบดคลึงจูบจนเธอต้องเผยอกลีบปากรับสัมผัสจากเขา ให้ปลายลิ้นสากร้อนแทรกซอนเข้ามาตวัดรัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก และเธอสัมผัสได้ถึงรสชาติไวน์แดงจากปลายลิ้นของเขา
“อืม”
วิณณ์คำรามต่ำในลำคอเมื่อสัมผัสกับรสชาติจูบที่แสนละมุนคล้ายจะกำลังดึงตัวเขาลงไปในห้วงปราถนาอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนดูดดึงเรียวลิ้นเล็กในโพรงปากนิ่มลิ้มรสไวน์ที่หวานล้ำ จนไม่คิดว่าไวน์ชั้นดีนี้จะรสชาติกลมกล่อมได้เพียงนี้
“เธอ..หวาน”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงสั่นเมื่อถอดถอนริมผีปากออก และมองเธอด้วยสายตาปรือเชื่อม นั่นทำให้เขมมิการู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังถูกเปลวไฟในดวงตาเขาแผดเผาจนแทบจะหลอมละลายเสียให้ได้ หัวใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
อุณหภูมิในห้องเหมือนจะสูงขึ้น
“คุณวิณณ์”
“ฉันขออีกหน่อย”
เขาเอ่ยเสียงเว้าวอนก่อนจะก้มลงจูบเธออีกครั้งอย่างหนักหน่วง และเขมมิกาก็มิอาจต้านทานได้คล้ายริมผีปากของเขามีแรงดึงดูดมหาศาล จนเธอต้องสนองตอบจูบเขาด้วยความเร่าร้อน และปล่อยให้มือหนาลูบไล้ยังโคนขาอ่อน
นั่นทำให้เธอได้สติ..
“คุณวิณณ์ พะ..พอได้แล้ว!”
เธอตะครุบมือเขาไว้ แล้วผละร่างออกห่างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบผุดกายลุกขึ้น และขยับตัวออกห่าง ส่วนวิณณ์เหมือนจะเริ่มสร่างเมา แต่ยังคงมองคนตรงหน้าด้วยสายตาละห้อย
“ฉันกลับละ!”
ร่างหนาผุดกายลุกขึ้นทันที และไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นคนของเขามารับ นั่นทำให้ชายหนุ่มรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมสะบัดหน้าไปมาคล้ายจะต้องการจะไล่สลัดความมึนเมาออกจากตัว
นี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ย!!!
.
.
“เมื่อวานเยี่ยมมากเลยขนม ทางคุณยิ้มพรีเมี่ยมกรุ๊ปโทรมาชมใหญ่เลยว่าคุณดนัยนายใหญ่เขาแฮปปี้มาก”
แก้วกัลยา เอ่ยในตอนเช้าด้วยสีหน้าแช่มชื่น ด้วยรู้สึกโล่งใจหลายอย่าง จากที่ตอนแรกค่อนข้างจะเป็นกังวลว่าช่วงที่ตัวเองลาคลอดจะมีอะไรสะดุดหรือไม่ แต่พอเห็นอะไรหลายอย่างในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทั้งการเรียนรู้งานได้ไวและท่าทีการเปิดรับของเขมมิกา ก็ทำให้เธอค่อนข้างจะเบาใจพอสมควร
ว่าแล้วเด็กคนนี้ต้องมีฝีมือ ไม่งั้นคุณโอมคงไม่ฝากด้วยตัวเองและมอบหมายตำแหน่งสำคัญใกล้ชิดกับประธานใหญ่ของเอสเอ็มให้แบบนี้
“ต้องขอบคุณพี่แก้วมากกว่าค่ะ ที่สอนงานให้แทบจะทุกขั้นตอนเลย ยังไงวันนี้ขนมจะเรียนรู้การประสานงานในแผนกและระบบของเราให้เข้าใจทั้งหมดในวันนี้”
“วันนี้เลยเหรอ? ฮ่าๆ ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้”
“ความจริงหนูเอากลับไปศึกษาบางส่วนแล้วค่ะ อยากเข้าใจให้เร็วที่สุดพี่แก้วจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก”
เขมมิกายิ้มหวาน นั่นทำให้สาวรุ่นพี่ฉีกยิ้มกว้างกว่า
พอเข้าใจแล้ว ทำไมเป็นเด็กทุนคนโปรดของนาย
เด็กนี่ฉลาด เรียนรู้งานไวและไม่จุกจิกวุ่นวาย พร้อมเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว ที่สำคัญนอบน้อมและอ่อนหวาน อยู่ใกล้ๆแล้วเหมือนสัมผัสน้ำใสเย็นๆ มันสบายสดชื่นเสียจนไม่อยากผละออกห่าง จนความเอ็นดูปรากฎชัดในใจผู้คนที่ได้ชิดใกล้
เขาว่าคนที่มีเสน่ห์ น่าสนใจกว่าคนที่มีพรสวรรค์เสียอีก
ทว่าเหมือนเด็กนี่ จะมีสองอย่างพร้อมกันในคนเดียว
“อ้าวคุณวิณณ์มาแล้ว”
แก้วกัลยาเอ่ยเบาๆ เมื่อร่างสูงโปร่งของเจ้านายรูปหล่อในชุดสูทสีครามเข้ม เดินออกมาจากลิฟท์และตรงมายังห้องทำงาน เขมมิกาหลุบตาลงต่ำก้มมองยังหน้าจอของตัวเอง พยายามทำเหมือนว่าทุกอย่างปกติ แม้ในใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
หลังจากเขากลับไปแล้วเธอก็ฟุ้งซ่านจนนอนแทบไม่หลับ
แต่คงไม่น่าจะมีอะไร เขาน่าจะเมามากจนจำไม่ได้ และคงเผลอทำไปแบบไม่มีสติมากกว่า
“ขอกาแฟ”
น้ำเสียงเขาราบเรียบอย่างที่คาดคิดไว้แต่แรกจริงๆ และเมื่อเขมมิกาเหล่มองหน้าหล่อเหลาด้านข้างนั้น ก็ยังคงเฉยชาเยือกเย็นราวกับฉาบไว้ด้วยเกล็ดน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ
อะไรจะเก๊กขนาดนั้น!
“ได้ค่ะคุณวิณณ์”
แก้วกัลยาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นว่าเขมมิกายังคงง่วนอยู่กับไฟล์งานของแวนเดอร์ จึงอาสาที่จะทำหน้าที่นี้ให้กับเจ้านายด้วยตัวเอง
“กาแฟดำนะ”
ประธานเอสเอ็มหันมาย้ำอีกรอบ ขณะมือหนาเตรียมจะผลักประตูเข้าไปในห้องพร้อมเอ่ยเสียงเข้มต่อว่า “ขอแบบเข้มๆ ห้ามหวาน ผมไม่ชอบกินหวาน”
“ค่ะคุณวิณณ์”
จะย้ำอะไรหนักหนา! กาแฟดำมันก็ต้องไม่หวานอยู่แล้วมั้ย รู้อยู่หรอกน่าว่าไม่ชอบกินของหวาน ...โดยเฉพาะขนมหวาน