ตอนที่ 13
มืออาชีพ
“กาแฟค่ะคุณวิณณ์”
กาแฟดำหอมกรุ่นถูก แก้วกัลยา ยกมาวางตรงหน้า ขณะที่หน้าหล่อเข้มของประธานเอสเอ็มยังคงจดจ่ออยู่กับเอกสารตรงหน้า แต่ก็เหลือบตามองเลขาคู่ใจอย่างฉงนว่าเหตุใดเลขาหน้าจืดของตนจึงไม่ยกเข้ามาให้เหมือนวันก่อน
และเหมือนแก้วกัลยาจะรู้ใจนายเป็นอย่างดี
“พอดีแก้วให้น้องขนมดูไฟล์ข้อมูลแวนเดอร์และระบบภายในของเราค่ะ จะได้เข้าใจเวลาต้องประสานงานต่างๆ”
“อืม ..ยังไงบอกให้เข้ามาหาผมหน่อยละกัน”
วิณณ์ เอ่ยเสียงราบเรียบไม่อยากจะเงยหน้าสบตาเลขาคู่ใจด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้ความคิดของตนมากไปกว่านี้
“ได้ค่ะ”
ไม่นานนักร่างบางของยายขนมจืดในชุดทำงานเรียบร้อยก็เดินเข้ามาพร้อมไอแพดคู่ใจ ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่าวันนี้เธอดูสดใสกว่าปกติ อาจเพราะเสื้อสีขาวสะอาดในประโปรงทรงสอบ และโทนการแต่งหน้าอมชมพูที่ทำให้กรอบหน้างามนั้นหวานละมุนน่ามองขึ้น
หวานงั้นเหรอ?....
“คุณวิณณ์มีอะไรให้ขนมรับใช้เหรอคะ?”
เขมมิกาเอ่ยถามเสียงราบเรียบ มือที่จับไอแพคประกบกันไว้อย่างเรียบร้อยดูน่าเอ็นดู จนวิณณ์ต้องผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย
“อีกไม่กี่วัน แก้วกัลยาก็ต้องลาคลอดแล้ว ตอนนี้เธอเรียนรู้งานไปถึงไหนแล้ว?”
คำถามของประธานเอสเอ็ม ทำให้นัยน์ตาคู่สวยของเขมมิกาครุ่นคิดเล็กน้อยว่าควรตอบว่าอย่างไรดี ด้วยวันนี้เป็นวันทำงานวันที่สองของเธอ และเขาเองก็ทราบดี
“ก็ประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ”
“เอาให้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในวันศุกร์หน้า”
ภายในศุกร์หน้าอีกแค่หกเจ็ดวันเนี่ยนะ!
“....”
“ทำไมเหรอ? มีปัญหาอะไรรึไง”
ประธานเอสเอ็มเลิกคิ้วสูง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ตระหนกของเธอ ทำไงได้เมื่อเธอฉายแววความสามารถออกมาขนาดนี้ ทำไมเขาต้องกั๊กศักยภาพมากมายของเธอไว้ด้วย
“ไม่มีค่ะท่านประธาน”
ตอนนี้เธอคงต้องทำตัวเป็นฟองน้ำอันใหญ่ที่พร้อมจะรับได้ทุกอย่าง พอถึงบ้านก็แค่บีบมันทิ้งอย่างที่แก้วกัลยาเคยบอกไว้ พอนึกแล้วเธอก็รู้สึกชื่นชมเลขาคนเก่งของเขาอยู่ในใจ
ไปทำงานต่อดีกว่า..
“เดี๋ยว”
หญิงสาวชะงักเล็กน้อย แต่จำต้องหันมามองเจ้านายและเอียงคอมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“คะ”
“เธอเป็นมืออาชีพใช่ไหมขนม?”
วิณณ์เอ่ยถามและสบตากับเธอนิ่ง ด้วยความจริงตั้งแต่กลับไปเขาก็คิดถึงสิ่งที่ทำในเพนท์เฮ้าส์นั้น และคาดว่าอาจไม่เป็นผลดีแน่หากอีกฝ่ายคิดมากมายในจุดนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาระวังตัวเสมอ และไม่เคยทำตัวรุ่มร่ามกับพนักงานในองค์กรตัวเองเลยสักครั้ง
หากอยากปลดปล่อยเขาขอไปกินด้านนอกดีกว่า
แถมเธอยังเป็นอดีตเด็กทุนอุปถัมถ์มูลนิธิศรีพิพัฒน์ และเป็นคนที่พ่อแม่เขาฝากฝังไว้อีก ..แค่คิดก็ปวดหัวจนวิณณ์อยากจะเอามือกุมขมับ
“ดิฉันเป็นได้ค่ะ”
เขมมิกาเหมือนจะเข้าใจความหมายที่เขาสื่อเป็นอย่างดี และเขาก็คิดว่าเธอฉลาดพอในการวางตัวโดยที่ไม่ต้องสื่ออะไรมากมาย นั่นทำให้เขาผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย
“ก็ดี เราเองมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำร่วมกันต่อจากนี้ ฉันอยากให้เธอแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานด้วย ทั้งเรื่องที่เธอเป็นเด็กทุนศรีพิพัฒน์และเป็นเด็กโปรดของคุณโอภาสพ่อของฉัน ในที่ทำงานเธอคือเลขาของประธานเอสเอ็ม นี่คือสิ่งสำคัญ”
สายตาของชายหนุ่มเรียบเฉย ทว่าฉายความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ทุกย่างก้าวของเขาคือ SS Online ลมหายใจเข้าออกของเขามีแต่ความสำเร็จและก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น
“รับทราบค่ะ”
หญิงสาวตอบและโค้งตัวเล็กน้อย นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลเข้มนั้นสว่างสดใส ไม่ได้มีวี่แววแห่งความน้อยอกน้อยใจแม้เพียงนิด จนเขานึกชื่นชมเธออยู่ในใจ
เธอเหมาะสมที่จะมาแทนแก้วกัลยาจริงๆ
“ดีแล้วอย่างไงก็ขอบคุณ ที่ทุ่มเทใส่ใจในการที่จะเดินหน้าพัฒนาต่อกับบริษัท ส่วนเรื่องที่พักนั่นคุณสามารถพักไปได้ตราบที่คุณต้องการได้เลย ผมจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายอีกแล้ว ถือว่าเป็นห้องส่วนตัวของคุณเลย”
เขาเอ่ยเสียงเข้มด้วยอยากให้เธอได้ใช้อิสระในห้องนั้นอย่างเต็มที่ เพราะทางผู้รับเหมาแจ้งมาว่าอาจต้องใช้เวลารีโนเวทบ้านหลังนั้นอีกเป็นเดือนด้วยวัสดุที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งคงต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลายอย่างพอควร
“ความจริงดิฉันย้ายไปอยู่หอพักก็ได้ค่ะ ท่านประธานจะได้สะดวกด้วย”
เขมมิการีบเอ่ยบอก ด้วยพอทราบข้อมูลจากผู้รับเหมามาบ้างแล้ว จากที่คิดว่าจะพักอยู่เพนท์เฮ้าท์เขาไม่กี่วัน เธออาจจะต้องหาห้องพักใหม่น่าจะเหมาะสมกว่า
“ผมไม่ได้ลำบากอะไร คุณพักอยู่นั่นแหละ”
“....”
“ตามนั้น ออกไปได้แล้วครับ”
“ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะตระหนักว่าถึงอย่างไรคุณโอภาสกับคุณปลาก็คงต้องคะยั้นคะยอให้เธออยู่ต่อแน่นอนหลังจากนี้ จนกว่าบ้านของเธอจะเสร็จเรียบร้อย
วิณณ์ เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อร่างบางเดินออกจากห้องไป ก่อนจะเอื้อมมือหนาไปหยิบแก้วกาแฟดำขึ้นมาจิบสัมผัสกับรสชาติที่แสนคุ้นชิน แต่จิบไปเพียงนิดเขาก็ต้องวางแก้วลงเช่นเดิม และแลบลิ้นออกมาเลียริมผีปากตัวเองช้าๆ
ทำไมวันนี้กาแฟขมเฝื่อนจนแทบจะกินไม่ลง
ไม่หวานละมุน...
...เหมือนรสชาติไวน์ที่ติดปลายลิ้นเมื่อคืนเลยสักนิด
***************