เหยาเหยานางก็เป็นเด็กช่างรู้ความสำหรับเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นจะไม่ได้เห็นท่าทางของนางเช่นนี้อย่างแน่นอน แต่เมื่ออยู่ในจวนของตนเอง นางจะออดอ้อนคนในจวน จนอ่อนระทวยกันไปหมด
“เช่นนั้น พ่อจะไปถามหมอจางให้”
หมอจางเป็นหมอหลวงที่นับว่ามากฝีมือในตอนนี้ หากนางได้คารวะเขาเป็นอาจารย์ เรื่องที่นางรู้การแพทย์ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัย
“เจ้าเต้าหู้น้อย ข้าเอาขนมมาฝาก” เสียงเด็กหนุ่มดังมาแต่ไกล เหยาเหยานางไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าผู้ใดมา
เซี่ยฝูเหิงติดตามพี่ชายของเขาเซี่ยตงหยางมาที่จวนตระกูลหวังเพื่อร่ำเรียนตำรากับบิดาของนางเสมอ ที่เขาได้คำนับบิดาของนางเป็นลูกศิษย์เพราะตงหยางเป็นสหายร่วมเรียนกับฮ่องเต้น้อย
ตงหยางนอกจากจะเข้าเรียนร่วมกับฮ่องเต้น้อยแล้ว เขายังต้องฝึกวรยุทธ์ทุกวัน จนบางครั้งก็ตามเรื่องตำราไม่ทัน จึงต้องมารบกวนโยวลู่ที่จวนอยู่บ่อยครั้ง
“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหยาเหยาขอบคุณฝูเหิงเมื่อเขายื่นขนมมาให้นาง
“อย่ารังแกอาเหยาเล่า” ตงหยางเอ่ยเตือนน้องชาย ก่อนที่เขาจะเดินตามท่านอาจารย์ไปที่ห้องตำรา
“มาข้าเปิดให้” ฝูเหิงดึงกล่องขนมมาไว้ที่มือ ก่อนจะเปิดขนมออกมาส่งให้เหยาเหยา
“อร่อยหรือไม่” เขาถามอย่างคาดหวัง
เพราะครั้งที่แล้วที่ซื้อมาเห็นนางกินอย่างพอใจ จึงคิดว่านางน่าจะชอบ ครั้งนี้เขาจึงซื้อมาให้นางมากกว่าเดิม
“อร่อยเจ้าค่ะ”
“อร่อยแล้วเหตุใดถึงกินน้อยนัก” ฝูเหิงทำหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นเหยาเหยานางหยิบกินแค่เพียงชิ้นเดียว
“ของหวานกินมากไม่ดีเจ้าค่ะ” นางเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย เพราะฝูเหิงนำขนมมายื่นส่งให้ถึงปากของนางอีกชิ้น
นางไม่อ้าปากกิน เขาก็บีบแก้มนางให้นางอ้าปากกินเข้าไป เหยาเหยาถลึงตามองเขาอย่างโมโห ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีกลับเรือนของตนไป
“เจ้าเต้าหู้น้อย ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว” เขาเดินตามมาถึงเรือนของเหยาเหยา แต่ไม่กล้าที่จะเดินตามเข้าไปจึงได้แต่ยืนมองตาละห้อยอยู่ที่หน้าเรือน
ผ่านไปหลายวันบิดาของนางก็ทำตามอย่างที่พูด หมอจางยอมมาสอนการแพทย์ให้เหยาเหยาทุกวันที่จวนในยามเว่ย (13.00-14.59น.) วันละหนึ่งชั่วยาม
หมอจางสอนให้นางรู้จักสมุนไพร ทั้งยังนำตำรามาให้นางศึกษาอย่างไม่หวงแหน เขาอดจะภูมิใจกับลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้
แม้รับรู้เรื่องของนางจากคำลือแล้วว่านางฉลาดเกินผู้ใด แต่เมื่อได้มาเป็นอาจารย์ของนางเขาก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้
หลังจากนั้นความรู้ทั้งหมดที่เขามี เขาก็พร่ำสอนเหยาเหยาอย่างสุดความสามารถ แม้แต่บุตรหลานของเขายังเก่งได้ไม่เท่านาง เรื่องนี้เขาอิจฉาราชครูหวังยิ่งนัก
เรื่องที่เหยาเหยาน้อยร่ำเรียนวิชาการแพทย์ก็ถูกพูดลือออกไป ยิ่งนางได้เป็นลูกศิษย์ของหมอจางที่เก่งที่สุดในเมืองหลวงก็ทำให้ชื่อเสียงของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
ฮ่องเต้น้อย เคยพูดเปรยเรื่องจะรับนางเข้าวังกับราชครูหวัง เรื่องนี้ทำให้คนในจวนหวังหนักใจจนพูดไม่ออก แม้ผู้ใดจะคิดว่าเขาช่างวาสนาดีที่มีบุตรสาวเก่งกาจและงดงามเกินกว่าผู้ใดในเมืองหลวง แต่สิ่งนี้กลับทำให้โยวลู่และมู่เยี่ยนหนักใจยิ่งนัก
ขุนนางผู้อื่นอาจจะยินดีที่บุตรีจะได้ถวายตัวเข้าวัง ต่างจากพวกเขาที่ไม่อยากให้บุตรีต้องถูกขังอยู่ในกรงทอง
ฮ่องเต้น้อยก็ไม่ได้บังคับฝืนใจ เพียงแต่เขาพูดลองเชิงเท่านั้น ผู้ใดไม่อยากจะได้สตรีข้างกายที่งดงามเป็นหนึ่งทั้งยังฉลาดเกินกว่าผู้ใด
เหยาเหยานางปรากฏตัวที่นอกจวนน้อยครั้งนัก แต่เมื่อใดที่ปรากฏตัว เรื่องความงามของนางก็ต้องถูกพูดถึง เด็กน้อยวัยเพียงไม่กี่หนาวกลับมีใบหน้าที่งดงามชวนให้คนลุ่มหลงช่างเป็นภัยร้ายเสียจริง
แต่เหยาเหยานางก็ยังไม่เคยได้รักษาผู้ใดจริงจังสักครั้ง นอกจากจัดยาให้คนในจวนเท่านั้น นางก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่นางเก่งถูกลือออกไปได้อย่างไร
ก็เป็นบ่าวในจวนของนางที่พูดเรื่องนี้ออกไป เพราะอยากจะโอ้อวดเรื่องคุณหนูของตน
“เต้าหู้น้อยข้าป่วย เจ้าตรวจให้ข้าหน่อย” ฝูเหิงมักจะมาหานางที่จวนด้วยเรื่องนี้ทุกครั้งเมื่อเขาต้องการจะหาข้ออ้างเพื่อพบนาง
“ท่านไม่เป็นอันใดเสียหน่อย ท่านกลั่นแกล้งข้าอีกแล้วรึ” นางเอ่ยถาม เมื่อตรวจเขาครั้งที่สามในรอบหนึ่งสัปดาห์
“ข้าป่วยจริงๆ ไม่เชื่อเจ้าถาม เสี่ยวซวนก็ได้” เขาคร่ำครวญอย่างน่าสงสาร
“จริงขอรับ เมื่อเช้าคุณชายปวดหัวจนลุกอย่างที่นอนไม่ได้เลยขอรับ” นายบ่าวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
เหยาเหยาเลยจัดยาให้ฝูเหิงอย่างดี เมื่อเห็นรอยยิ้มของนางเขาก็อดสะท้านไม่ได้ แม้รอยยิ้มจะงดงามแต่ก็น่าหวาดกลัวเช่นกัน
เหยาเหยาไม่ได้ให้ยาฝูเหิงกลับไปกินที่จวน แต่นางให้บ่าวในจวนของนางต้มมาให้เขากินต่อหน้านางแทน
“ต้องกินเลยรึ” เขามองถ้วยยาอย่างพะอืดพะอม
“หรือท่านไม่อยากหาย” เหยาเหยาเลิกคิ้วมองเขาอย่างตั้งคำถาม
“ได้ ข้าจะกิน” ฝูเหิงกัดฟันมองถ้วยยาสีดำในมือ ก่อนจะกลั้นหายใจแล้วยกดื่มครั้งเดียวจนหมด
“เพ้ย ขมยิ่งนัก” เขาสบถออกมาพร้อมร้องหาน้ำกลั้วปากทันที
“ยาดี ก็ต้องขมจริงหรือไม่เจ้าค่ะ” นางยิ้มหวานอย่างได้ใจ
"เจ้าแกล้งข้าหรือเจ้าเต้าหู้น้อย" ฝูเหิงถลึงตามองนาง
"ใครว่าเล่า ข้ากำลังรักษาท่านต่างหาก" เหยาเหยาใช้มือน้อยๆ ของนางเท้าคางมองเขาอย่างได้ใจ
ฝูเหิงเห็นดวงตากลมโตของนางที่มองมาคำต่อว่าที่เขาคิดไว้ก็ถูกกลืนลงคอไปหมด
หลังจากนั้นฝูเหิงก็ไม่กล้าป่วยให้นางได้เห็นอีกเลย เหยาเหยานางให้เขากินเพียงหวงเหลียน (เหง้าของสมุนไพร มีรสขมที่สุด มีฤทธิ์เย็น ช่วยรักษา อาการท้องเสีย แน่นท้อง ไข้สูง ฯลฯ)