“นาปิดรับงานแล้วค่ะ คิวย้าวยาว ไปถึงสงกรานต์ปีหน้าเลย” “นารา อย่าเสียมารยาทสิลูก” เสียงคุณแม่ฉันดังขึ้นจากทางด้านหลัง “ขอโทษแทนเด็กดื้อด้วยนะคะ อย่าถือสาเลย นารา!!อย่าต่อปากต่อคำกับคุณเขาสิลูก” คุณแม่แอบยื่นมือมาหยิกลงสีข้างของฉัน เจ็บชะมัดฉันแทบจะหลุดเสียงร้องออกมาแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้นิ่ง “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเป็นเด็กที่บ้านผมจะไม่กล้าดื้อ เพราะรู้ว่าเด็กดื้อจะต้องเจอการลงโทษ”ว่าไม่ว่าเปล่าริมฝีปากหยักได้รูปของเขา แสยะยิ้มร้ายการมาทางฉันอย่างชัดเจน “เอ่อ ถ้าอย่างนั้นผู้ใหญ่คุยกันเถอะนะคะ นาขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบหมุนตัววิ่งขึ้นชั้นสอง ตรงไปห้องของตัวเองทันทีโดยไม่รอให้ใครอนุญาต และฉันคิดว่าคงไม่ลงมาเหยียบชั้นล่างอีกแล้วล่ะ ถ้าตราบใดคุณคาเทและคณะทูตสัมพันธไมตรียังไม่กลับไป ฮื่อๆๆๆ ทำไมต้องอยากมาเป็นหุ้นส่วนคุณพ่อ แล้วทำไมต้องอยากมาทานข้าวบ้านฉันด้วยเนี่ย ฉันทุบมือลงเตียงนอนหนักๆ ด้วยค