หลายปีต่อมา……
ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ท้องฟ้ากำลังคำรามเสียงดังสนั่นพาให้หัวใจของจีน่าสั่นผวา สายฟ้าที่พาดผ่านลงมาตกกระทบกับอะไรบางอย่างจนเกิดประกายไฟทำให้หญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย
“เฮือก” ดวงตากลมสวยเบิกโพลงกว้างมองเพดานห้องสีขาวตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ร่างกายของจีน่าแข็งทื่อราวกับโดนน็อกไว้ด้วยน้ำแข็ง แม้ว่าอุณหภูมิในห้องจะเย็นมากเพียงใดหากแต่ใบหน้าสวยกลับเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและหยาดน้ำใส “ฮึก” น้ำตาเม็ดเล็กไหลซึมออกมาจากหางตา ความหนาวเหน็บจู่โจมจีน่าอย่างหนักจนเธอรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว เมื่อฝันร้ายเหล่านั้นกลับมาเยือนเธอทุกครั้งในคืนที่ฝนตก
จีน่าหยัดตัวเองลุกขึ้นนั่งกอดเข่าตัวเองไว้ เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องที่เงียบสงัดด้วยหัวใจที่วูบโหวง อารมณ์และความรู้สึกของจีน่าดำดิ่งลงสู่เหวลึกอีกครั้ง ยิ่งความมืดเข้ามาปกคลุมมากเท่าไร เนื้อตัวของจีน่าก็ยิ่งสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่นมากขึ้นเท่านั้น จีน่ามองไม่เห็นแสงสว่างราวกับว่าเธอโดนขังไว้ในห้องที่มืดสนิทไร้ซึ่งทางออกยังไงอย่างนั้น มันทั้งอึดอัด ทั้งหายใจไม่ออกจวนจะอาเจียนออกมา
ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนจีน่ามานานหลายปีนับตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น
“จีน่า แกเป็นอะไรรึเปล่า ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ” จีน่ารีบใช้มือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทอย่าง ‘อาลี่’ ทักขึ้นมาพลางหยัดตัวลุกขึ้นมานั่งข้างกันส่งสายตาห่วงใยมาให้เธอ
“เปล่าน่ะ ฉันก็แค่คิดถึงบ้าน” จีน่าตอบบ่ายเบี่ยงเพราะไม่อยากให้เพื่อนสาวคนสนิทสงสัยในเรื่องราวของเธอ
“แกตื่นเต้นเหรอ ก็อย่างว่าตั้งแต่แกมาเรียนที่นี่ แกไม่ได้กลับไปประเทศไทยอีกเลย กี่ปีมาแล้วนะที่เราเรียนอยู่ที่นี่ด้วยกัน พอจะจากที่นี่ไปจริง ๆ ก็ใจหายเหมือนกันนะ”
“อืม” ใจหายมาก ๆ เลย จีน่าคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป เธอทอดสายตามองฟ้าแลบด้านนอกด้วยแววตาวูบไหว จีน่าไม่อยากให้ใครเห็นความรู้สึกแท้จริงของเธอผ่านแววตา ไม่อยากให้ใครล่วงรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกหวาดกลัวมากแค่ไหนกับการที่ต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดในรอบสี่ปี
กลับไปเผชิญหน้ากับอดีตที่เธอพยายามหนีมันมาตลอดหลายปีทั้งที่ความเป็นจริงแล้วจีน่าไม่เคยหนีจากอดีตเหล่านั้นได้เลย
ลืมตาตื่นหรือแม้แต่หลับตานอน เธอก็ยังเห็นแต่ภาพความเจ็บปวดเหล่านั้นที่มันกดทับเธอไว้
“ไหน ๆ ก็นอนไม่หลับแล้ว เราไปจิบเบียร์แก้หนาวกันไหม ฉันซื้อมาเก็บไว้ จิบเบียร์ไปด้วย ดูหนังเป็นด้วยฟิน ๆ”
“อือ เอาสิ” จีน่าตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนก้าวลงจากเตียงเดินมานั่งรออาลี่ที่หายเข้าห้องครัวไปหยิบของมึนเมาอยู่ห้องนั่งเล่น
จีน่ามองมือของเธอที่สั่นระริกพลางหวนคิดถึงอดีตก่อนเสียงเรียกของอาลี่จะดึงให้จีน่าหลุดจากภวังค์ฝันร้ายอีกครั้ง
จีน่าเปิดกระป๋องเบียร์ที่อาลี่ยื่นมาให้กระดกดื่มโดยไม่พูดอะไรออกมาหวังให้รสชาติร้อนผ่าวของแอลกอฮอล์บรรเทาความรู้สึกเศร้าข้างในใจของเธอ
หลังจากเรียนจบมัธยมปลายปีที่หก ครอบครัวของจีน่าก็ส่งเธอมาเรียนต่อที่ประเทศจีน นับเป็นเวลากว่าสี่ปีที่จีน่าอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพียงลำพังและนับเป็นเวลากว่าสี่ปีที่จีน่าไม่เคยเดินทางกลับประเทศไทยอีกเลย มีเพียงพ่อแม่และพี่ชายเท่านั้นที่บินมาเยี่ยมเธอเดือนละหนึ่งครั้ง
ในเวลาสี่ปีมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเธอเอง จากเด็กสาววัยมัธยมปลายไร้เดียงสาในวันนั้น จีน่าในตอนนี้กลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง สลัดคราบเด็กสาวไร้เดียงสาในวันนั้นจนหมดสิ้น
“แกคิดไว้รึยังกลับบ้านไปจะทำอะไรต่อ”
จีน่านิ่งคิดไปสักพักก่อนระบายยิ้มบาง ๆ ออกมา
“ช่วยพ่อกับแม่ทำงานไง” หลายปีมานี้ธุรกิจของครอบครัวขยับขยายใหญ่โตขึ้นจากเมื่อหลายปีก่อนหลายเท่าตัว ทำให้พ่อแม่และจัสตินต้องทำงานอย่างหนักเพิ่มขึ้นด้วย จีน่าอยากแบ่งเบาภาระของครอบครัวจึงเลือกเรียนเกี่ยวกับด้านธุรกิจแทนการเรียนหมอที่เธอใฝ่ฝัน
เรียกได้ว่าเรื่องราวในนั้นมันทำให้จีน่าสูญเสียทุกอย่างไปจริง ๆ สูญเสียแม้กระทั่งความเป็นตัวของเธอเอง….