EP6เผชิญหน้ากับความจริง

1255 คำ
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยความเงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของจีน่าเท่านั้นที่ดังอยู่ จีน่าโดนผู้เป็นแม่ลากลงมาสารภาพบาปกับผู้เป็นพ่อหลังพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์เพื่อหารือและช่วยกันแก้ไขปัญหา จีน่านั่งคุกเข่าสะอื้นไห้อยู่กับพื้น บนโต๊ะด้านหน้ามีแทงก์ตรวจครรภ์หนึ่งอันวางอยู่เป็นหลักฐานมัดตัวเธออย่างแน่นหนา บรรยากาศรอบตัวเงียบจนน่าใจหาย หลังจากที่แม่บอกกับพ่อและพี่ชายว่าเธอท้อง ภายในห้องนั่งเล่นก็ตกอยู่ในความเงียบงันไม่มีใครเอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา เช่นเดียวกันจีน่าก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ไม่กล้าแม้กระทั่งเงยหน้าขึ้นมาสบตากับใคร ไม่อยากเห็นว่าแววตาที่พ่อแม่และพี่ชายมองเธออยู่เปลี่ยนไปไหม เปลี่ยนไปมากรึเปล่า ไม่อยากเห็นว่าตอนนี้ทุกคนกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนออกมา ผิดหวังหรือเสียใจ จีน่าไม่อยากเห็นมัน แม้ไม่ได้เงยหน้ามามองแต่จีน่าก็รับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวของแต่ละคน ตอนนี้พี่ชายของเธอยืนเท้าสะเอวหันหลังให้เธอราวกับคนคิดไม่ตก ขณะที่ผู้เป็นพ่อนั่งกุมขมับด้วยสีหน้าตึงเครียด ส่วนผู้เป็นแม่เพียงทอดสายตามองลูกสาวนิ่งงันทว่าในแววตาคู่นั้นไม่สามารถปกปิดความวิตกกังวลระคนเป็นห่วงลูกไว้ได้เลย ยิ่งบรรยากาศเงียบลงเท่าไร ก็ยิ่งบีบหัวใจของจีน่ามากขึ้นเท่านั้น ภายในอกสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ จีน่ากำลังหวังให้พ่อกับแม่หรือพี่ชายพูดประโยคอะไรกับเธอก็ได้สักหนึ่งประโยค จะด่า จะว่า หรือจะตีเธอก็ตามแต่ มันคงดีกว่าการที่ทุกคนนิ่งเงียบใส่เธอแบบนี้ จีน่าไม่รู้เลยว่าทุกคนคิดอะไรอยู่ ยิ่งความเงียบเข้ามาปกคลุมมากเท่าไร จีน่าก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเท่านั้น ความเงียบของทุกคนเปรียบเหมือนมีดกรีดลงกลางใจของเด็กสาวช้า ๆ สถานการณ์ตรงหน้ามันบีบรัดจีน่าจนเธอรู้สึกหายใจไม่ออก ราวครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ที่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา สุดท้ายก็เป็นจีน่าที่ทนต่อสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ไม่ไหว จีน่ารู้ว่าตัวเองผิดอยู่เต็มหัวใจ รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากที่ใด หากไม่ใช่เธอที่ใจง่ายเรื่องราวคงไม่บานปลายขนาดนี้ สองมือบางยกขึ้นประกบกันอยู่กลางอกก่อนที่จีน่าจะกราบลงแทบเท้าของพ่อกับแม่ เอื้อนเอ่ยประโยคแรกออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าแทบฟังไม่เป็นศัพท์ เสียงสะอื้นไห้ปานจะขาดใจของลูกสะท้านไปทั้งหัวใจของพ่อกับแม่ “ฮึก หนูขอโทษนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ หนูขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง หนู….” ประโยคหลังขาดห้วงเมื่อตอนนี้จีน่าร้องไห้จนตัวโยนไม่มีเรี่ยวแรงจะเปล่งคำพูดออกมาเป็นประโยคด้วยซ้ำ “หนูผิดเองค่ะ หนูไม่รักดีเอง” “พ่อคะ พ่อแม่คะ ช่วยยกโทษให้หนูไหม พ่อกับแม่อย่าเกลียด อย่าโกรธหนูเลยนะคะ หนูขอโทษที่ทำตัวแย่จนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา พ่อกับแม่จะด่าจะว่าหนูยังไงก็ได้ จะตีหนูก็ได้ แต่อย่าเกลียดหนูเลยนะคะ” “แม่ง” จัสตินที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ ก็สบถคำหยาบออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ยิ่งเห็นสภาพของน้องสาวตัวเองตอนนี้ จัสตินก็ยิ่งเดือดดาลอยากตามไปกระทืบคารอสถึงอังกฤษตอนนี้เลย เสียงร้องไห้ปานจะขาดของจีน่าทำให้พี่ชายอย่างเขาแทบร้องไห้ตามอยู่รอมร่อ เธอก็แค่เด็กสิบแปดปีจะแบกรับเรื่องหนักขนาดนี้ได้ยังไงกัน จันตินทนยืนมองน้องสาวอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เดินเข้ามารวบร่างแบบบางของน้องสาวเข้าสู่อ้อมอกอย่างหวงแหน ต้องการบอกเธอว่าเธอไม่ได้เผชิญเรื่องพวกนี้เพียงลำพัง ซึ่งการกระทำของจัสตินทำให้คนที่ต้องการการปลอบประโลมอย่างหนักรู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ “เงยหน้าขึ้นมามองพ่อ แล้วตอบคำถามพ่อจีน่า” จีน่ายอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนเป็นพ่ออย่างช้าๆ หลังจากที่พ่อเอ่ยสั่งเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คารอสรู้รึเปล่าว่าลูกท้อง” จีน่าส่ายหน้าแทนคำตอบ ไม่อยากพูดถึงหรือได้ยินชื่อของผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว พ่อกับแม่รู้แค่ว่าเธอกับคารอสเลิกกันแต่ไม่ได้รู้เหตุผลจริง ๆ ของการเลิกรา “เอาล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องรับมือและเผชิญหน้ากับมัน พ่อกับแม่จะไม่กล่าวโทษอะไรลูกทั้งนั้นเพราะพ่อกับแม่เชื่อว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเรื่องนี้คงให้บทเรียนกับลูกได้พอสมควร” เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักแทบแหลกสลายอยู่ตรงหน้าคนเป็นพ่อแม่จะกล่าวโทษลงได้อย่างไรกัน อีกทั้งกล่าวโทษไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา สู้มาช่วยหาทางแก้ไขปัญหานี้กันดีกว่า “การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาได้ไม่ใช่แค่เราให้กำเนิดเขาออกมา แต่เราต้องพร้อมทุกด้านไม่ว่าการเงิน ความเป็นอยู่ เวลา การดูแลเอาใจใส่หรือแม้กระทั่งวุฒิภาวะ แต่ลูกรู้ใช่ไหมว่าตัวลูกเองยังพึ่งพาพ่อกับแม่อยู่ ลูกยังเรียนไม่จบ ลูกไม่มีเงิน ลูกไม่มีความพร้อมและลูกก็ไม่มีวุฒิภาวะ พ่อกับแม่ไม่สามารถเลือกทางเดินชีวิตให้ลูกได้มีแค่ลูกเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจชีวิตของลูก มันอยู่ที่ว่าลูกจะเลือกทางไหน” มือหนาของคนเป็นพ่อวางบนกลุ่มผมของลูกพลางออกแรงลูบอย่างแผ่วเบา “กลับไปคิดให้ดี กลับไปคิดให้ถี่ถ้วน ค่อย ๆ ตัดสินใจ ไม่ว่าลูกจะเลือกทางไหนพ่อกับแม่ยอมรับการตัดสินใจของลูกและพร้อมยืนอยู่เคียงข้างลูกนะจีน่า” เพราะรู้ว่ามันยากที่จะตัดสินใจจึงอยากให้เวลาลูกได้ค่อย ๆ คิด แต่ถ้าถามความเห็นของคนเป็นพ่อเป็นแม่ คงไม่มีใครอยากให้อนาคตของหนูพังลงหรอก “หนูยังไม่พร้อมค่ะ” จีน่าบอกความคิดเธอออกไป แม้มันอาจจะฟังดูใจร้ายหรือดูเลวทรามในสายตาใครก็ตาม แต่เธอไม่สามารถให้กำเนิดเด็กคนนี้ได้จริง ๆ “หนูยังไม่พร้อม” เด็กอายุสิบแปดปีอย่างจีน่าจะเอาปัญหาที่ไหนมาเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาได้ ในเมื่อทุกวันนี้ตัวเธอเองยังต้องพึ่งพาพ่อแม่และพี่ชายอยู่ สิ่งที่แม่พูดมันพูดต้องทุกอย่าง มันถูกต้องทั้งหมด เธอยังไม่พร้อมให้เด็กคนนี้เกิดมา เธอในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นแม่ใครทั้งนั้น เธอไม่สามารถเป็นแม่ใครได้จริง ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม