บทที่เจ็ด

3623 คำ
“มึงใจเย็น นั่นลูกค้า” เสียงทุ้มอันคุ้นเคยของเพื่อนสนิทดังมาจากข้างหลัง ณฟ้าวิ่งตามพสิกาออกมาตั้งแต่เธอถูกมิสเตอร์ลีเชื้อเชิญไปวาดลวดลายที่กลางฟลอร์กว้าง ซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยเหล่าคู่รักมากมาย ชายหนุ่มกำแก้วคริสทัลในมือแน่น บ่งบอกถึงอารมณ์อันร้อนระอุ ซึ่งบัดนี้ใกล้กู่ไม่กลับเพราะมันคุกรุ่นอยู่ภายใน ไม่ทันสังเกตว่าเทวามาจากไหน รู้ตัวอีกทีเพื่อนสนิทก็เดินมาพร้อมกับแก้วไวน์แดงอย่างรู้งาน ราวกับต้องการช่วยให้เขาผ่อนคลายจากสถานการณ์บีบคั้นตรงหน้า “ก็เพราะเป็นลูกค้าไงกูถึงได้ยืนอยู่แค่ตรงนี้” ณฟ้ากัดฟันกรอดพลางตอบกลับเจ้าพ่อหนุ่ม ถ้าเป็นคนอื่นน่ะเหรอ อย่าหวังว่ามันจะได้มือปลาหมึกจับนู่นนี่เป็นบนตัวผู้หญิงของเขา โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อพสิกา! “รอดูไปก่อน ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลกูว่าคุณผึ้งน่าจะพอเอาตัวรอดได้” “หึ ซื่ออย่างนั้นจะทำอะไรได้ ไม่รู้โง่หรือบ้าที่ยอมออกไปกับไอ้แก่นั่น” พูดถึงเรื่องนี้ก็เริ่มหงุดหงิดใจขึ้นมาอีกครั้ง พสิกาคิดอะไรอยู่ อยากเอาใจลูกค้าขนาดนั้นเชียวหรือ แค่ผลประโยชน์บริษัทผลักดันให้เธอกล้าทำอะไรซึ่งเขาเกลียดที่สุด ไม่เข้าใจว่าพนักงานตัวเล็กๆ จะเดือดร้อนไปทำไม เจ้าของบริษัทอยู่ตรงนี้ยังไม่แยแสเลยสักนิด ถ้ามันสร้างความยุ่งยากก็แค่ยกเลิกดีลไปสิ “เธอคงห่วงงานแหละ” เทวาช่วยหญิงสาวแก้ตัว ลึกๆ แล้วค่อนข้างมั่นใจว่าพสิกามีความรับผิดชอบ ที่เธอทำทุกอย่างเพียงเพื่ออยากช่วยณฟ้าก็เท่านั้น “แต่ไม่ห่วงความรู้สึกกู” ทว่ามันกลับไปกระตุกต่อมบางอย่างของใครอีกคน ณฟ้าแทบอยากจะเดินไปคว้าแขนคนตัวเล็กให้ออกห่างจากไอ้ชีกอนั่นสักที “เขาไม่รู้ไงว่ามึงจะเสือกคิดมาก” “เหอะ ไม่รู้กับไม่สนใจ บางทีก็แค่เส้นบางๆ กั้นอยู่นะ” “น้อยใจเป็นเด็กไปได้” เทวาหัวเราะในลำคอ เวลาผ่านไปไม่ถึงห้าวินาที มือปลาหมึกของลูกค้าคนสำคัญเริ่มเลื่อนลงไปยังเอวคอดกิ่วแล้วกระชากร่างพสิกาเข้าหาตัว ณฟ้านั่งไม่ติดที่ในจังหวะที่หนุ่มใหญ่ลูบไล้ไปยังแผ่นหลังบางเรื่อยๆ พสิกาใบหน้าซีดเซียวขึ้น ในขณะที่มิสเตอร์ลีเหมือนก้มลงมาพลางกระซิบอะไรบางอย่าง จนเลขาสาวต้องผละตัวออกมาราวกับผู้ชายคนนั้นเป็นของร้อน ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ยอมมามากพอแล้ว… “ไอ้ฟ้า!” เจ้าพ่อหนุ่มคว้ามือเพื่อนสนิทไว้แต่ไม่ทันเสียแล้ว คนตัวโตเดินคล้ายวิ่งเพื่อให้ถึงตัวร่างบางโดยเร็วที่สุด เทวาได้แต่ส่งสัญญาณเรียกการ์ดในร้านให้เข้ามาล้อมอยู่ข้างหลัง เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ช่วยณฟ้าได้ทัน พลั่ก! ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เจ้านายหนุ่มซึ่งปกติแล้วสุขุมเยือกเย็นซ้ำยังใจดีราวกับเทพบุตร ปล่อยหมัดหนักๆ ใส่ใบหน้าลูกค้าต่างชาติ “อย่าค่ะคุณฟ้า” พสิกาคว้าท่อนแขนล่ำเอาไว้ หญิงสาวหน้าเปลี่ยนสีเมื่อมิสเตอร์ลีไม่อาจทรงตัวได้ จนต้องจับโต๊ะข้างกายไว้เป็นที่พึ่งพิง “กลับ!” “ไม่นะคะ มิสเตอร์ลี” เหมือนไม่มีบทเรียน เพราะหญิงสาวยังคนดื้อด้านต่อไป เธอเข้าไปเตรียมจะช่วยพยุงคนที่ได้รับบาดเจ็บ ทว่าหนุ่มใหญ่กลับโบกไม้โบกมือราวกับเข็ดหลาบเสียแล้ว “พสิกา อย่าทำให้ฉันโมโห!” ณฟ้าตวาดลั่นเสียงลอดไรฟันด้วยความหัวร้อน ร่างเล็กของคนที่โดนออกคำสั่งถึงกับน้ำตาปริ่ม “แต่…” “มึงกล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับกู ลืมไปหรือไงว่ากูเป็นลูกค้ามึง!” หนุ่มใหญ่ชาวฮ่องกงตัดสินใช้ไม้ตายที่คิดว่าอย่างไรเสียเจ้าของบริษัทอย่างณฟ้าจะต้องกลัว เสียศักดิ์ศรีทั้งยังเสียหน้าเพราะหนุ่มรุ่นลูกกล้าดีก้าวร้าวกับเขาถึงเพียงนี้ ก่อนจะตะโกนลั่นเรียกหาเลขาหนุ่ม “นที!” “กูไม่สนว่ามึงเป็นใคร แต่มึงไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องคนของกู!” ทว่าณฟ้ากลับไม่แยแส ซ้ำชายหนุ่มยังส่งยิ้มร้ายเพิ่มพูนความเกลียดชังให้คู่ค้าเป็นเท่าทวี พสิกาสั่นไปหมดทั้งตัว พยายามดึงสติตนเองให้กลับมา เพราะรู้ตัวว่าเสียงทะเลาะของทั้งคู่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนแขกในร้านรวมถึงคู่เต้นบนฟลอร์จ้องมองมาด้วยความสนใจ “ไปเถอะค่ะคุณฟ้า” พยายามดึงณฟ้ากลับมาข้างกายอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องคนปากดีอีกรอบหนึ่ง นัยน์ตาหวานสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สภาพ พสิกาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกนกตกน้ำ เธอทั้งหวาดระแวง ทั้งหวาดกลัว ถ้าใครมาเห็นจะพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่เช่นไร… ณฟ้าคงถูกมองว่าเป็นสมภารกินไก่วัด! เขาหันไปสบตาร่างบางแวบหนึ่งก็ใจอ่อนยวบยาบ จนเตรียมจะก้าวเดินไปตามแรงดึงรั้งของเธอ “เหอะ คิดว่าจะแน่ มึงก็แค่ไอ้กระจอกที่แอบแดกเลขาตัวเองละวะ!” “อะ…ไอ้!” ชายหนุ่มเตรียมเข้าไปซัดคนปากมอมอีกหนึ่งรอบ ทว่านทีกลับเข้ามาขวาง ขณะที่พสิกานั้นก็ใช้แรงทั้งหมดเพื่อลากเขาออกไป “พอเถอะค่ะคุณฟ้า ผึ้งขอนะ” ดวงตากลมโตมองประสานกับนัยน์ตาดุดันเพื่อยืนยันในคำพูด จนสุดท้ายแล้วณฟ้าก็ใจอ่อน คว้าหมับที่เอวบางแล้วลากกึ่งประคองแม่เลขาตัวดีให้กลับไปที่รถอย่างเร่งรีบ หากดูเหมือนไม่ทันเสียแล้ว… เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของพัตนิตา เจ้าหล่อนแสยะยิ้มร้ายด้วยความริษยาเพราะเกลียดชังหญิงสาวนุ่มนิ่มเจ้ามารยาคนนั้น มือบางกำโทรศัพท์แน่นพลางกดอัดคลิปวิดีโอไปด้วย เหอะ… อย่าหวังว่าจะรอด พรุ่งนี้คลิปฉาวนี่จะต้องถูกส่งไปให้คุณนายอรนภาเพื่อใช้กำจัดนังมารหัวใจ ยิ่งณฟ้ามองพสิกาด้วยสายตาหวงแหนมากแค่ไหน พัตนิตาแทบอยู่ไม่ติด ทุกส่วนของร่างกายสั่นไหวไปหมดรวมทั้งหัวใจ หล่อนรู้สึกคล้ายมันถูกกระชากออกไปต่อหน้าต่อตา! ปัง! เสียงปิดประตูรถยนต์คันหรูดังสนั่นตามแรงอารมณ์ของผู้ใช้งาน บัดนี้ความโกรธไต่ระดับขึ้นอย่างไม่ลดละ ณฟ้ากระชากรถออกแล้วเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูง เขาเบียดซ้ายปาดขวาจนพสิกาแถบใจวาย คุณฟ้าคนนี้ ไม่ใช่ผู้ชายที่เธอเคยรู้จัก! …ใช่ เขาถึงจะใจดีแค่ไหน ทว่าหากไม่พอใจก็สามารถแปรเปลี่ยนได้เช่นกัน “ช้าๆ ได้มั้ยคะ” เธอโพล่งขึ้นมาตักเตือนเพื่อหวังให้เขานิ่งขึ้น แต่คนตัวโตกลับไม่แยแส นอกจากเขาจะไม่ทำตามคำขอร้องแล้วยังเพิ่มความเร็วขึ้นอีก ประชดประชันไม่มีใครเกิน! “คุณฟ้าคะ” “เงียบ” เสียงราบเรียบสั่งขึ้นมาราวกับไม่ต้องการฟังคำแก้ตัว “แต่ผึ้ง…” “ฉันสั่งให้หุบปาก!” สิ้นสุดคำขู่ซึ่งดังกึกก้องจนคนตัวเล็กสะดุ้ง หญิงสาวต้องหุบปากลงฉับพลัน ในใจรู้สึกร้อนรนไปหมด ตัวลีบลงถนัดตา อยากหลุดพ้นออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้เหลือเกิน …มันเป็นความผิดเธอเหรอ เธอแค่อยากช่วยบริษัทก็เท่านั้น ‘มาเป็นเด็กของฉันสิ ฉันจ่ายค่าตัวเธอสูงกว่าไอ้หมอนั่นสองเท่า’ เสียงกระซิบพร้อมประโยคน่ารังเกียจยังตราตรึงอยู่ในโสตประสาท แม้ขยะแขยงนักธุรกิจหนุ่มใหญ่มากแค่ไหน แต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปเพียงเพราะอยากให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี เครื่องปรับอากาศในรถซึ่งบัดนี้ถูกปรับอุณหภูมิให้ต่ำลงจนเย็นเฉียบ ไม่อาจดับความร้อนรุ่มในใจของเลขาสาวกับเจ้านายหนุ่มได้เลย ฝ่ายหนึ่งอยากพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจ ทว่าอีกคนกลับไม่ต้องการฟัง ณฟ้าทำเหมือนตัดสินทุกอย่างเรียบร้อยเสียแล้ว แม้นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นของพสิกาจะทำให้เธอดูน่าสงสารแค่ไหน แต่มันก็เท่านั้น… ความรู้สึกของเธอไร้ความหมายสำหรับคนหัวร้อนอยู่ดี! ชายหนุ่มเลือกเก็บซ่อนทุกความรู้สึกสงสารเอาไว้ อย่างไรวันนี้ต้องชำระความกับเด็กดื้อที่ริอ่านขัดคำสั่ง พสิกาทำให้คนที่ปกติแล้วมั่นคงดุจดั่งภูผาแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงอันร้อนรุ่มได้อย่างง่ายดาย ลูกชายรัฐมนตรีชื่อดังเลี้ยวรถเข้ามาจอดยังที่ประจำ ยามมองมือใหญ่เลื่อนเข้าไปเพื่อดับเครื่องยนต์ พสิกายิ่งอยากแทรกแผ่นดินหนี อย่างไรวันนี้เธอไม่รอดแน่ๆ …บทลงทัณฑ์ผู้หญิงคนนี้จะหนักหน่วงแค่ไหน …แล้วมันจะจบลงเมื่อไหร่ ไม่อยากจินตนาการเลย “ลงมา!” กระชากเสียงบอก จนเลขาสาวต้องทำตามคำสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าพยศใส่ตอนนี้เท่ากับเพิ่มเชื้อเพลิงให้แก่กองไฟ พสิกาไม่เสี่ยงเด็ดขาด เธอไม่ได้โง่จนซื่อฆ่าตัวตายทางอ้อม! หญิงสาวคอตก ก้าวเดินตามแรงบังคับของชายหนุ่ม มือหนาราวกับโซ่ตรวนบีบรัดแน่นจนเธอเจ็บแปลบ ณฟ้าไม่ปรานีพสิกาเลย… เขาสาวเท้ามุ่งตรงเพื่อไปถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็วจนคนตัวเล็กแทบตามไม่ทัน กระต่ายสาวได้แต่ก้าวยาวๆ ตามไป ได้แต่ภาวนาว่าความโกรธเคืองในใจราชสีห์หนุ่มจะดับลงโดยเร็ว ขอให้มันจางหายไปเลยได้ไหม… ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว… ทันทีที่ทั้งคู่ถึงห้องชุดสุดหรู ณฟ้าแตะคีย์การ์ดอย่างเร่งรีบ พลันไฟทุกดวงก็สว่างขึ้นพร้อมกัน “มานี่” พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระชากเพราะโมโห เขาใช้มือหนาจองจำเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “จะไปไหนคะ” ถามขึ้นมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่าเวลานี้ณฟ้าต้องการอะไรกันแน่ “…” “ผึ้งเจ็บ คุณฟ้าปล่อยก่อนได้มั้ย” พยายามร้องขอความเห็นใจ หากความหวังทั้งหมดคล้ายกับเลือนรางเต็มที นอกจากไม่ปรานีแล้วชายหนุ่มยังเพิ่มแรงบีบมากขึ้นเรื่อยๆ “เงียบ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้” “คุณฟ้าใจเย็นๆ ก่อนได้มั้ยคะ” นัยน์ตาแสนเศร้าพร่ำบอก เพราะต้องการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่คนใจร้อนกลับไม่ฟังอยู่ดี ชายหนุ่มลากหญิงสาวตรงเข้าไปยังห้องน้ำ เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ทำให้เธอตกใจจนต้องเบิกตากว้าง ณฟ้าพาตัวเธอเข้าไปใต้ฝักบัว เขาใช้ร่างกายอันใหญ่โตของตัวเองเบียดชิดจนพสิกาแนบติดกับผนังกระเบื้อง ซ่า! ซ่า! ราชสีห์มือไวเอื้อมไปกดปุ่มเพื่อให้สายน้ำไหลลงมาตามความต้องการ “ล้างตัวซะจะได้สะอาด” “คะ…คุณฟ้า” หญิงสาวผู้ไร้ทางสู้สะอื้นอย่างสุดเสียง ไม่คิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะทำให้เขาเดือดดาลได้ถึงเพียงนี้ …หรือณฟ้ากำลังรังเกียจ เขาจะตัดสินว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ดีหรือเปล่า! แค่เพียงจินตนาการ ความเจ็บก็ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายรวมทั้งหัวใจในเวลาเดียวกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลสั่นไหว ขอบตาบวมเป่ง เธอขัดขืนเขาไม่ได้เลย… “มันจับมันโดนเธอตรงไหนบ้าง ฉันจะล้างรอยของไอ้เลวนั่นให้หมด” เขาใช้แรงซึ่งมีเหนือกว่าลงน้ำหนักมือถูไถจนทุกตารางนิ้วบนร่างบางเจ็บช้ำ ความรุนแรงของสัมผัสเพิ่มมากขึ้นตามอารมณ์กรุ่นโกรธของผู้นำพา “ฮะ…ฮึก…พอได้มั้ย” “…” “ผึ้งเจ็บ…เจ็บไปหมดแล้ว” เว้าวอนร้องขอให้เขาเห็นใจ วูบหนึ่งณฟ้าเริ่มได้สติเมื่อเสียงร้องไห้ของพสิกาเริ่มดังกระทบความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวปลดปล่อยน้ำตาให้รินไหลลงมาราวกับฝนซึ่งเทกระหน่ำร่วงหล่นจากฟากฟ้า “…” “พอได้มั้ย” เงยหน้าประสานสายตากับคนใจร้ายอีกครั้ง เธอต้องการให้เขาเข้าใจ ทุกความรู้สึกซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้… ยิ่งนัยน์ตาคมเข้มเรียบเฉยมองมาแตกต่างจากการกระทำมากเท่าไร พสิกายิ่งรู้สึกปวดร้าวจนแทบแหลกสลายมากเท่านั้น เธอกัดปากแน่นจนรู้สึกถึงรสเลือดที่ไหลออกมา ซ้ำมือบางยังจิกเกร็งขูดขีดผนังจนเล็บยาวปวดไปหมด “อย่ากัดปาก” ณฟ้ากล่าวพลางเอื้อมมือไปสัมผัสยังริมฝีปากอ่อนนุ่มซึ่งเคยครอบครองนับครั้งไม่ถ้วน นิ้วโป้งไล่เช็ดคราบเลือดจากบาดแผลเพียงเล็กน้อย “ฮะ…ฮึก” ทว่าคนตัวเล็กยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น ขอบตาแดงช้ำจนน่าสงสาร “ฉันไม่ชอบ…” ชายหนุ่มเบียดกายเข้าไปใกล้ชิดเธออีกครั้ง ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้าไปสัมผัสยังแก้มใส ก่อนเลื่อนมาจดยังจมูกโด่งรั้น “ไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้…” “…” “โดยเฉพาะผู้หญิงของตัวเอง” กระซิบเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่คนหยาบกระด้างคนนี้จะพอบรรเทาความเจ็บปวดให้เธอได้ “อย่าร้องไห้นะ” “ฮะ…ฮึก” “ฉันขอโทษ” ณฟ้ารู้สึกผิดจนต้องปลอบประโลม ชายหนุ่มแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กทันที มือใหญ่ไล่สัมผัสร่างกายที่เปียกชื้นจนเสื้อผ้าแนบลู่ มืออีกข้างหนึ่งเคลื่อนไปปิดฝักบัว เพราะตอนนี้… เขาไม่ต้องการมันอีกแล้ว ไม่อยากใจร้ายจนพสิกาตื่นกลัว ลิ้นสากตวัดเกี่ยวพันดื่มด่ำความหวานในริมฝีปากนุ่มนิ่มแทบทั่วทุกตารางนิ้ว พสิกาพยายามควานหาลมหายใจเพื่อตอบสนองคนตัวโตทันทีที่ความวาบหวามเคลื่อนเข้าสู่หัวใจ มือใหญ่แสนซุกซนเริ่มบีบเคล้นยังสองเต้างาม ในจังหวะที่ใบหน้าหล่อเหลาย้ายไปขบเม้มฝากฝังรอยรักตรงบริเวณซอกคอระหง “อะ…อื้อ คุณฟ้า” พสิกาครางเสียงหวานฉ่ำยามนิ้วเรียวยาวหยอกล้อกับปลายถันวนเวียนไปมา “ฉันไม่ไหวแล้วผึ้ง” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบบอก พลันขบเม้มใบหูเล็กพร้อมพลิกกายหญิงสาวให้หันหลังอย่างรวดเร็ว พสิกาทำตามคำสั่งคล้ายรู้หน้าที่ ช่วยณฟ้าปลดเปลื้องชุดสวยจนร่วงหล่นลงกองบนพื้นกระเบื้อง “อะ…อ๊ะ” มือใหญ่เคลื่อนผ่านร่างเล็กวนขึ้นไปบีบเคล้นลงน้ำหนักมือยังหน้าอกเต่งตึง ซ้ำริมฝีปากร้อนรุ่มยังไล่สัมผัสพรมจูบทั่วแผ่นหลังขาวนวล เพื่อฝากฝังรอยรักจนแดงขึ้นทันตา “คะ…คุณฟ้า” พสิกาเงยหน้าขึ้นมองเพดานสีขาวในจังหวะที่เขาไล้เลียลิ้นลงต่ำ สัมผัสเปียกชื้นตวัดเกี่ยวพันไปจนทั่วทุกตารางนิ้ว จนคนตัวเล็กรู้สึกเสียวซ่านไปหมด “อ้าขานะเด็กดี” เธอทำตามอย่างว่าง่ายคล้ายอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน เพียงแค่ณฟ้าจับนิดจับหน่อยร่างกายของผู้หญิงคนนี้ก็อ่อนปวกเปียก ชายหนุ่มพลิกร่างไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาวให้หันมาเผชิญกัน ก่อนใช้มือหนายกขาเรียวสวยขึ้นตั้งบ่า เพื่อชิมความหอมหวานของคนตัวเล็ก “อะ…อ๊ะ…เบาๆ” พสิกากัดริมฝีปากด้วยความวาบหวิว ยามลิ้นร้อนแตะลงบนกลีบกุหลาบชุ่มฉ่ำ ณฟ้าตวัดลิ้นและขบเม้มไปมายังติ่งเกสรจนน้ำหวานเริ่มไหลเยิ้ม ชายหนุ่มดื่มด่ำดอกไม้งามราวกับเป็นของหวาน เขาละเลงลิ้นร้อนเร่งจังหวะรวดเร็วจนกระต่ายน้อยทรมานแทบขาดใจ มือบางได้แต่จิกลงบนบ่ากว้างระบายความรู้สึกเสียวซ่านทั้งหมด ยิ่งใบหน้าคมคายรุกเร้าเน้นย้ำมากเท่าไร เหงื่อก็เริ่มรินไหลจนสุดท้ายเปรอะเปื้อนวงหน้างาม “อะ…อื้อ…เสียว” พสิกาครางต่ำในลำคอ พยายามหายใจเข้าออกระงับความรู้สึกทรมานปานจะขาดใจตาย ณฟ้าดุดันเสมอไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง ทุกจังหวะรักทุกการสัมผัสซึ่งเขาเป็นคนฝากฝังแน่นอนมันไม่เคยเบา… …ชายหนุ่มไม่เคยพอ แม้คนใต้ร่างจะแดดิ้นมากแค่ไหนก็ตาม “ฮึก!” สะอื้นจนต้องเอื้อมมือไปปิดปากสกัดกั้นเสียงน่าละอายของตนเอง เมื่อณฟ้าจู่โจมด้วยริมฝีปากเน้นย้ำสัมผัสรุนแรงและดิบเถื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นสากดื่มด่ำความหอมหวานราวกับต้องการทรมานเธอด้วยความวาบหวามอย่างถึงที่สุด “ต้องการอะไรฮึเด็กดี” เพียงชั่ววินาทีเท่านั้นคนเจ้าเล่ห์กลับเงยหน้าขึ้นมาถาม จนเธอรู้สึกว่านัยน์ตาคมเข้มมีความร้อนแรงอยู่ในนั้น “ผะ…ผึ้ง” “ชัดๆ ช้าๆ” คล้ายกับต้องการแกล้งยามเสียงหวานสะดุดเป็นห้วงๆ ณฟ้าได้ที เขาแทรกนิ้วร้ายกาจเข้ามาในจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะโพล่งบอก “อะ…อ๊ะ” มันหมุนเข้าออกจนน้ำหวานแฉะเยิ้มเปรอะเปื้อนไปหมด “ตะ…ต้องการคุณฟ้า” พสิกาไม่ทันได้หายใจหลังจากเสร็จสิ้นประโยคคำตอบ ชายหนุ่มกลับลุกขึ้นยืนแล้วแทรกริมฝีปากฉกฉวยรุกเร้าเธออีกครั้ง หากครั้งนี้กลับแตกต่างยามลิ้นร้อนกวาดชิมทุกหยาดหยดในเรียวปากหวาน ณฟ้ายกขาเรียวให้อ้าออกและแทรกตัวตนซึ่งใหญ่โตเข้ามาอย่างอุกอาจ ความรวดเร็วของกายแกร่งที่แทรกเข้ามาส่งผลให้หญิงสาวทั้งเจ็บและจุก “อะ…อ๊ะ…ผะ…ผึ้งทรมาน” “ฉะ…ฉันก็เหมือนกัน” ชายหนุ่มขยับกายเข้าออกอย่างรวดเร็วราวกับคนเถื่อน ไม่แม้แต่จะหลงเหลือความเมตตาแก่หญิงสาวซึ่งบัดนี้สั่นสะท้านเพราะความเร่าร้อน เขาจะสงสารเธอได้อย่างไรในเมื่อตนเองก็รู้สึกทรมานไม่ต่างกันเท่าไร “อะ…อ่า” พสิกาตอดรัดกายแกร่งจนณฟ้าครางต่ำในลำคอ ชายหนุ่มระบายความเสียวซ่านด้วยการย้ายไปฝากฝังเขี้ยวคมลงบนสองเต้างาม เขาดื่มด่ำเม็ดทับทิมสีแดงจนมันแข็งชูชันล่อตาล่อใจ “คุณฟ้า…” สองร่างแนบชิดกันจนไม่มีพื้นที่ให้อากาศแทรกผ่าน ณฟ้าเร่งเร้าจังหวะรุกแรงแปรเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นสลับกันไปมาจนเสียงครางดังประสานกึกก้องทั่วห้องน้ำกว้าง พสิกาแทบหมดแรงในจังหวะที่เขาฝากฝังน้ำรักขาวขุ่นจะเปรอะเปื้อนกายสาว ทว่าคนตัวสูงเหมือนยังคงไม่อิ่มหนำ เขาอุ้มร่างเล็กของกระต่ายน้อยเข้าไปสานต่อบนเตียงนุ่ม ชายหนุ่มเริ่มบรรเลงจังหวะรักหนักหน่วงคล้ายต้องการลงโทษเธออีกครั้ง จวบจนใกล้รุ่งสาง พสิกานอนลืมตาโพลง แตกต่างจากร่างสูงที่นอนเคียงข้างบัดนี้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเสียแล้ว พระอาทิตย์ใกล้โผล่พ้นขอบฟ้าอันเป็นเวลาของเช้าวันใหม่ จังหวะรักแสนเนิบนาบทว่ากลับแฝงไปด้วยไออุ่นส่งความรู้สึกซาบซ่านเข้ามาในหัวใจดวงน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า ณฟ้าทำให้พสิกาหวนนึกถึงวันนั้น… ครั้งแรกระหว่างเขาและเธอเกิดขึ้นที่นั่น… ในงานแต่งงานของพิมพ์พลอย หลังจากพิธีการเสร็จสิ้น ชายผู้เมามายเพราะผิดหวังในความรักทำเอาคนเป็นเลขารู้สึกเป็นห่วง หญิงสาวใช้รถเช่าจากสนามบินขับตามชายหนุ่มช้าๆ ตามเจ้านายหนุ่มไปยังไนต์คลับของโรงแรม เฝ้ารอคอยเขาดื่มด่ำแอลกอฮอล์จนเมามาย หญิงสาวผู้หวังดีนั่งไม่ไกลจากชายหนุ่ม ไม่ละสายตาจากเขาไปไหนเพราะหวาดกลัวกับเรื่องไม่คาดฝัน หญิงสาวรอแล้วรอเล่า จนกระทั่งณฟ้าประคองร่างที่สติเหลือน้อยนิดเพื่อขึ้นไปยังห้องพัก ‘คุณฟ้าคะ!’ เรียกเขาสุดเสียงเมื่อชายหนุ่มล้มพับลงไปกองกับพื้น ไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินเธอไหม ทำได้เพียงแค่คว้าเอวสอบดึงร่างหนาเข้าชิดกาย ‘พะ…พิมพ์’ พสิกาโงนเงนพาเขาเข้ามายังห้องพัก เพราะเป็นเลขาจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีคีย์การ์ดของเจ้านายหนุ่ม คนตัวเล็กพาร่างไม่มั่นคงนักเข้ามาแล้วผลักให้นอนลงบนเตียงกว้าง หมับ! ทว่าจังหวะนั้นกลับมีภัยบางอย่างที่คาดไม่ถึงเคลื่อนเข้ามาสู่เธอเสียแล้ว ‘ฉันรักเธอ’ คำบอกรักที่ไม่ได้กล่าวถึงเธอบาดใจคนตัวเล็กจนเป็นแผลเหวอะหวะ ‘นี่ผึ้งค่ะไม่ใช่พี่พิมพ์’ พยายามผลักเขาออกห่างกาย แต่พละกำลังที่มีมากกว่าของบุรุษเพศ ทำให้แรงอันน้อยนิดของพสิกาไม่อาจต่อกรกับเขาได้ ความเป็นคนของเธอเปรียบดังเศษฝุ่นด้วยซ้ำ เพราะร้องห้ามเท่าไหร่ก็ไร้ความหมาย ‘ทำไมเป็นฉันไม่ได้วะพิมพ์ ฉันรักเธอมาตลอด’ ‘ยะ…อย่านะคะ!’ บัดนี้เธอกลายเป็นตัวแทนของใครอีกคนเสียแล้ว เมื่อชายหนุ่มตรึงข้อมือเรียวเล็กไว้กับที่นอน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ยังซอกคอหอมกรุ่น ‘ฮะ…ฮึก!’ ก่อนเลื่อนขึ้นมาฝากฝังจุมพิตเร่าร้อนยังเรียวปากเล็กอย่างเชื่องช้า ค่ำคืนแห่งความผิดพลาดของหนุ่มสาวทำเอาคนตัวเล็กน้ำตาคลอ เธอยอมเป็นตัวแทนของใครอีกคน ทนฟังเขาพร่ำบอกรักพิมพ์พลอยซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น เศษซากความผิดหวังจากพิษรัก หลังจากจบสัมพันธ์สวาทพสิกาก็ตัดสินใจหนีห่างจากณฟ้าไปทันที เธอกลัว… กลัวว่าเขาจะเกลียด กลัวเขาจะมองว่าเธอฉวยโอกาสเข้ามาแทนคนที่เขารัก ความหวั่นเกรงทำให้พสิกาเลือกทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ยอมกลายเป็นเพียง ‘ผู้หญิงในเงา’ ซึ่งมีความสุขกับเขาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม