หลายวันต่อมา
เขาที่เพิ่งเลิกเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวกำลังที่จะเดินไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ลานจอดรถข้างคณะก็ชะงักทันที เพราะเห็นคนที่ไม่อยากเจอกำลังยืนมองเขาอยู่ เขาพยายามไม่สนใจเดินหนีไปทางอื่นแต่เธอก็ยังเดินมาดักเขาเอาไว้
“อย่าเดินหนีเราได้ไหมสิงห์”
“มีอะไร...แพรไหม”
“ทำไมพูดไร้เยื่อใยแบบนั้นล่ะ ยังไงเราก็เคยรักกันมาตั้งนานหลายปีนะ”
“ก็แค่เคย เพราะตอนนี้เราเลิกกันแล้วแถมเธอยังมีแฟนใหม่แล้วด้วย”
“ตอนนี้เรากับแฟนเลิกกันแล้วนะ”
“เลิกกันแล้ว แล้วมาบอกฉันทำไม”
“เราก็แค่อยากกลับมาขอโอกาสจากสิงห์ใหม่ได้ไหม”
“ขอโอกาส? เธอกล้ามาขอฉันได้ยังไงแพรไหม ตอนเธอทิ้งฉันไป เธอยังไม่เอ่ยลาแม้แต่คำเดียว จะมาขอโอกาสฉันมันไม่น่าตลกไปหน่อยเหรอ”
“ขอโทษ ตอนนั้นเรามันโง่เอง ที่หลงคารมผู้ชายคนนั้น”
“ตอนนี้ฉันให้โอกาสเธอไม่ได้หรอก ฉันมีแฟนใหม่เรียบร้อยแล้ว”
“ไม่จริง”
“ฉันจะโกหกเธอทำไม”
“เราไม่เชื่อหรอก เพราะยังไงสิงห์ก็ไม่มีวันลืมเราได้อยู่แล้ว แล้วจะมีแฟนใหม่ได้ยังไง”
“ฉันมีแล้วจริง ๆ แล้วก็รักแฟนคนนี้มากด้วย”
“มันเป็นใคร อีผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร”
“กรุณาอย่าเรียกแฟนของฉันแบบนั้น ฉันไม่ชอบ”
“แต่เรารักสิงห์มากเลยนะ เรารักมาตลอด”
เธอพูดออกมาแบบนั้นพร้อมกับเดินเข้ามากอดเขา ซึ่งเขาก็พยายามที่จะดันเธอออกเพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เธอกับเขาที่อยู่ตรงนี้สองคน ยังมีนักศึกษาหลายคนที่กำลังนั่งอยู่แถวนี้
“อย่ามาทำแบบนี้ ไม่เห็นหรือไงคนเขามองอยู่”
“อย่าผลักเราเลยนะสิงห์ เราคิดถึงนาย”
พอได้ยินมาแบบนั้นจากที่ผลักเธออยู่เขาก็ลดมือลง พร้อมกับใจที่กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารู้สึกสับสนไปหมดจนนึกคิดอะไรไม่ได้ แต่พอตั้งสติได้ก็ดันเธอออกทันที “อย่ามาหาฉันอีก ถ้าแฟนฉันมาเห็นเข้าเธอจะเข้าใจผิด” เขารีบเดินมาที่รถของตัวเองพร้อมกับสตาร์ตรถขับออกมาโดยทันที
ครืดดด ครืดดด
แต่ในระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้านนั้นโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ดังสั่นขึ้นมา เขาจึงดึงขึ้นมาพร้อมกับมองดูพบว่าเป็นแจ๊สรุ่นน้องที่ดูแลสนามแข่งรถให้กับเขา เขาจึงกดรับสายทันที
“มีอะไร”
(รถที่ส่งซ่อมมีปัญหาว่ะเฮีย รีบมาดูหน่อย)
“แต่กูมีธุระต้องไปจัดการ” เพราะเมื่อเช้าเขาสัญญากับเด็กสาวเอาไว้ว่าจะรีบกลับไปทานเค้กที่เธอทำ
(แต่ช่างบอกว่าอยากคุยกับเฮียน่ะสิ)
“โอเค เดี๋ยวกูรีบไป” เขาตอบกลับปลายสายไปพร้อมกับตัดสาย แล้วเลี้ยวรถกลับไปอีกฝั่งมุ่งตรงสู่ร้านซ่อมรถที่เขาฝากซ่อมรถหรูอีกคันของตัวเอง
“แบบนี้ใช่ไหมคะคุณแม่”
“ใช่แล้วลูก แบบนั้นแหละถูกแล้ว”
ตอนนี้เธอกำลังนั่งเป็นลูกมือให้กับแม่ของแฟนหนุ่มในการทำเค้ก ซึ่งเธอรู้สึกชอบมาก ๆ
“คุณแม่ว่าสิงห์จะชอบไหมคะ”
“ปกติแล้วลูกชายแม่ไม่ชอบกินเค้ก แต่ถ้าเป็นหนูยาหยีทำให้เขาจะต้องกินแน่นอนลูก”
“ให้มันเป็นแบบนั้นเถอะค่ะ ถ้าเขาไม่ยอมกิน หนูคงเสียใจมาก” เพราะวันนี้เค้กที่เธอเลือกจะทำคือบานอฟฟี่ ซึ่งมันเป็นเค้กรสชาติไม่ค่อยหวาน เธอคิดว่าเขาน่าจะชอบ
“นี่ก็ใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว แม่ว่าลูกลองโทรตามพี่เขาหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ” เธอจึงถอดถุงมือออกพร้อมกับไปล้างมือให้เรียบร้อยพอล้างเสร็จก็ไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่มของตัวเอง แต่โทรหายังไงปลายสายก็ไม่ยอมรับ
“พี่เขาไม่รับเหรอลูก”
“ใช่ค่ะ”
“นี่ก็สี่โมงกว่าแล้วนะ เดี๋ยวพี่เขาก็คงกลับมาแหละลูก เมื่อเช้าได้บอกกันไว้แล้วใช่ไหม”
“ค่ะ” เธอทำได้เพียงแค่ตอบกลับแม่ของแฟนหนุ่มไปพร้อมกับมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
“หนูยาหยีก็กินก่อนพี่เขาก็ได้นะลูก”
“ไปเป็นไรค่ะ รอกินพร้อมสิงห์ดีกว่า”
“แต่แม่กลัวว่าลูกชายแม่จะกลับดึกน่ะสิ”
“ถ้างั้นไว้กินพรุ่งนี้เช้าพร้อมกันก็ได้ค่ะ” เธอตอบคุณแม่ไปพร้อมกับยิ้มให้ท่าน ทั้งที่ความเป็นจริงในใจของเธอตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยดีนัก “งั้นเดี๋ยวหนูกลับบ้านก่อนดีกว่าค่ะ ไว้พรุ่งนี้หนูมาหาใหม่นะคะ”
“ได้ลูก ส่วนเค้กนี่แม่จะให้แม่บ้านเอาไปแช่ไว้ให้นะ พรุ่งนี้อย่าลืมมากินล่ะ”
“ได้ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ” เธอเอ่ยลาแม่ของแฟนหนุ่มพร้อมกับเดินกลับบ้านของตัวเอง พอเปิดรั้วเข้ามาเห็นย่าของเธอกำลังนั่งถักไหมพรมอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอคะย่า”
“ยังเลย แล้วไปทำเค้กมาสนุกไหม”
“สนุกค่ะ”
“สนุกแล้วทำไมหน้าถึงเป็นแบบนั้น”
“เมื่อกี้หนูโทรหาสิงห์เขาไม่รับสายหนูค่ะ”
“เขาอาจจะยุ่งก็ได้”
“แต่สิงห์สัญญากับหนูว่าจะกลับมากินเค้กที่หนูทำ”
“พี่เขาอาจจะยุ่งจริง ๆ ไม่อย่างนั้นจะผิดนัดเอ็งทำไมล่ะลูก”
“อาจจะใช่อย่างที่ย่าพูดก็ได้”
“งั้นเราเข้าบ้านกันเถอะ”
พอย่าของเธอพูดมาแบบนั้น เธอจึงพยุงท่านเข้ามาในบ้านด้วยกันโดยที่มืออีกข้างถือตะกร้าไหมพรมเอาเข้ามาด้วย
“วันนี้อยากกินอะไร ย่าจะทำให้”
“อะไรก็ได้ หนูกินได้หมดนั่นแหละ”
“งั้นเป็นน้ำพริกกะปิปลาทอด และก็ต้มจืดหมูสับนะ”
“ได้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวย่าไปเตรียมของไว้ทำก่อน”
“เดี๋ยวหนูไปเป็นลูกมือ” เธอเดินตามย่าของตัวเองมาที่ครัวพร้อมกับหยิบผักขึ้นมาล้างเตรียมไว้ให้ท่าน
…..
สามชั่วโมงต่อมา...
“ป่านนี้แล้วทำไมไม่โทรกลับมาหาหนูบ้างนะ รู้ไหมว่าคนเขาคิดถึง” เธอบ่นให้กับแฟนหนุ่มของตัวเอง เพราะเธอโทรหาเขาตั้งหลายสายแต่เขาก็ไม่ยอมรับสายเธอเลยสักครั้ง “งั้นหนูนอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะรีบไปหาแต่เช้า” เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วยื่นมือไปกดปิดไฟหัวเตียง พร้อมกับขยับมานอนลงบนเตียงนอนไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมอกของตัวเองเอาไว้
ครืดดด ครืดดด
แต่นอนไปได้สักพักก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ เธอก็รู้สึกดีใจเพราะคิดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มของตัวเองโทรมา แต่พอหยิบโทรศัพท์มาดูพบว่าคนที่โทรมาคือลูกหว้าเพื่อนสาวของเธอ เธอก็แสดงอารมณ์ขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมกดรับสายของเพื่อน
“โทรมาอะไรซะดึกดื่นเลยจ๊ะเพื่อนรัก”
(อารมณ์ดีแบบนี้คือยังไม่เห็นที่เพจมหา’ลัยแชร์กันมาใช่ไหม)
“เพจมหา’ลัยอะไร”
(ก็เพจมหา’ลัยของแฟนเธอไง)
“เขาแชร์อะไรกันเหรอ ฉันไม่ได้ติดตามเขาด้วยสิก็เลยไม่รู้เรื่อง”
(ว่าแล้วเชียว งั้นก็ไม่ต้องดูหรอก ถ้าได้เห็นเดี๋ยวก็คิดมากนอนไม่หลับอีก)
“อ้าว มาบอกให้อยากรู้แล้วก็จากไป บอกมาเลยนะ”
(ฉันว่าไม่ต้องดูหรอก)
“ยัยลูกหว้า”
(ก็ได้ เดี๋ยวฉันส่งเข้าไปในแชตให้นะเข้าไปอ่านเอง แล้วก็ใจเย็นด้วย)
“ได้ ๆ”
พอเพื่อนสาวตัดสายไปไม่นานก็ส่งข้อความมาให้เธอ ซึ่งเธอก็เปิดเข้าไปดูพร้อมกับคลิกไปที่ลิงก์ที่เพื่อนเธอส่งมาให้ดู พอเข้ามาดูแล้วก็ต้องตกใจมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก เพราะมันเป็นคลิปวิดีโอที่แฟนหนุ่มของเธอกับแฟนเก่าของเขากำลังยืนกอดกันอยู่ ซึ่งเธอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกไม่พอใจ จึงกดโทรหาแฟนหนุ่มเธออีกครั้งแต่เขาก็ยังไม่รับสายเธออยู่ดี เธอจึงตัดสินใจว่าจะไปหาเขาที่สนามแข่งรถ โดยตัดสินใจได้ก็ลุกขึ้นแต่งตัวพร้อมกับลงไปชั้นล่างของบ้านเห็นย่าของตัวเองที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่
“แล้วนั่นจะแต่งตัวไปไหนลูก มันดึกแล้วนะ”
“หนูว่าจะไปหาสิงห์ที่สนามค่ะ”
“แต่มันดึกแล้วนะลูก ย่าว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยไปหากันก็ได้”
“พอดีหนูมีธุระสำคัญที่จะต้องคุยกับเขาให้ได้ค่ะ”
“งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ ถ้ามีอะไรก็รีบโทรหาย่า”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูรีบกลับมานะ” เธอบอกย่าเธอเสร็จก็รีบเดินออกมานอกบ้าน ก็เห็นคุณลุงขับแท็กซี่ที่เธอนั่งประจำมาตั้งแต่เด็กกำลังจอดรอรับเธออยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้โทรเรียกท่านมา แล้วมันบังเอิญที่ว่าท่านกำลังอยู่แถวนี้พอดี
“จะไปไหนเหรอหนูยาหยี”
“สนามแข่งรถของสิงห์ค่ะ” เธอเอ่ยบอกท่านไปแบบนั้นเพราะว่าท่านเคยไปส่งเธอที่นั่นถึงสองครั้ง
“โอเค”
โดยตลอดเวลาในการนั่งรถมาเธอก็รู้สึกใจสั่นพยายามพูดกับตัวเองว่าไม่เชื่อเรื่องที่ตัวเองเห็น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเธอกลัวว่าแฟนของตัวเองจะกลับไปคบกับแฟนเก่าของเขา