ท่ามกลางแสงสีทองที่อาบคลุมไปทั่วบริเวณ และสายลมหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ ดวงตาร้อนแรงของชายหนุ่มดั่งดวงตะวันที่กำลังลาลับ ยามทอดสายตามองใบหน้างดงามของหญิงสาวที่เขาเกลียดชัง หญิงสาวในอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของเขา หญิงสาวคนแรกที่เขายอมจูบด้วย ซึ่งทำให้เขาค้นพบตัวเองว่าตัวเขานั้นยอมทำทุกอย่างได้เพื่อชัยชนะและเป้าหมายสำคัญ แม้แต่การสัมผัสกับสิ่งที่รังเกียจอย่างสุดหัวจิตหัวใจ
“ในที่สุด...วันนี้ก็มาถึง” ปลายนิ้วโป้งของเขาไล้แผ่วเบาตามร่องแก้มและริมฝีปากอิ่มสวยสีแดงเข้มราวกับดอกกุหลาบสีเลือด ก่อนจะก้มลงมาประทับรอยจูบอีกครั้งอย่างอบอุ่นอ่อนหวานราวกับรักเธอหมดใจ
“อือ...เมฆ...” เธอหลับตาพริ้ม แต่ไม่ได้อิ่มสุขเหมือนทุกครั้งที่จูบกับเขา หากแต่อิ่มความทุกข์ตรมขมขืนจนแทบจะสำลักออกมาแล้ว
“บัว...อือ...” เขาจูบหวานพร้อมสวมกอดเธอไว้แน่นมือไม่ยอมปล่อยสักวินาที ราวกับกลัวเธอจะหายไปจากชีวิตอันแสนหรูหราของเขา
เมื่อเขาผละออก ดวงตาร้อนแรงจ้องมองเธออย่างเต็มปรารถนา รอยยิ้มตรงมุมปากของเขาบ่งบอกถึงความสาสมใจอย่างเปิดเผย หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงตีความว่าเขาคลั่งไคล้เธอหนักหนา แต่พอวินาทีนี้ เธอรู้แล้วว่ามันคือการยิ้มเยาะให้กับความโง่เขลาของเธอต่างหาก
“เรากำลังจะแต่งงานกันใช่มั้ยบัว”
“เมฆอยากแต่งงานกับบัวจริงเหรอ”
“มาถามอะไรตอนนี้ วันนี้ต่อให้บัวปฏิเสธ เมฆก็ไม่มีทางยอมปล่อยบัวไปหรอก บัวฝืนชะตาฟ้าลิขิตไม่ได้แล้วนะ บัวเกิดมาเพื่อเมฆ เราสองคนเกิดมาเพื่อคู่กัน” นี่คืออีกหนึ่งบทเพลงซาตานที่เขาใช้กล่อมเกลาเธอจนเคลิบเคลิ้มมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่ตอนที่เขาต้อนเธอขึ้นเตียงแล้วละเลงบทรักแสนหวานบนเรือนกายของเธออย่างนุ่มนวล แต่ร้อนแรงด้วยไฟปรารถนา “เราสองคนจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย”
“แล้วถ้าเกิดบัวตายขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ”
เขาขมวดคิ้วมุ่น “พูดอะไรน่ากลัวชะมัด ไม่เอาละ เราไปเตรียมตัวรับแขกกันเถอะ ตอนนี้เพื่อน ๆ มากันเยอะแล้ว แต่ก่อนอื่นคุณต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน”
เขาคว้าข้อมือเธอ แต่เธอรั้งไว้ เขามองเธอกลับมาด้วยความแปลกใจ และฉงนสนเท่ห์
“บัวจะใส่ชุดนี้ค่ะ”
เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ ตอนเขาซื้อชุดนั้นให้ เธอดีใจจนแทบกระโดด แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธท่าเดียว หากไม่ชอบก็ควรจะบอกเขาแต่เนิ่น ๆสิ
“มันไม่เหมาะนะบัว อย่าลืมว่านี่คืองานปาร์ตี้สละโสดของเรา คืนสำคัญของเรา ไม่ใช่...ไปเดินตลาดสด”
“แต่บัวว่ามันเหมาะกับบัวที่สุดแล้ว คุณก็อย่าลืมสิคะเมฆ ว่าบัวเป็นใครมาจากไหน” ดวงตาเยือกเย็นของเธอที่จ้องมองเขาอย่างท้าทายเล็ก ๆ ทำให้เขาสะดุดใจไม่น้อย “บัวมันก็แค่แม่ค้าขายขนม เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่โชคดีได้เจอกับเจ้าชายอย่างเมฆ”
เขาฟังเหตุผลของเธอแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง แน่นอนเขาคิดเหมือนเธอ เธอควรระลึกว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน แต่การที่เธอขัดคำสั่งของเขาเป็นครั้งแรก มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“แต่คืนนี้บัวควรจะสวยที่สุด”
“แล้วตอนนี้บัวไม่สวยเหรอ”
“สวยสิ” เขายอมรับว่าเธอสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต่อให้เธอไม่แต่งหน้าทำผมและสวมใส่ชุดราคาแพง แต่เธอก็ยังสวยพอจะเป็นเจ้าสาวของเขาอยู่ดี หากเธอไม่ใช่บัวบูชา วรรณกุล ผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนรักของเขากระโดดตึกโรงเรียนตายในวันวาเลนไทน์ก่อนจบมัธยมปีที่ 6 ล่ะก็
“บัวสวยที่สุดอยู่แล้ว ในสายตาของเมฆ ไม่มีใครน่ารักเท่าบัวอีกแล้ว รู้มั้ย...”
เธอยิ้มด้วยสายตาซ่อนเศร้า เอื้อมมือขึ้นจับแก้มสากของชายหนุ่มที่เธอรักด้วยหัวใจแหลกสลาย หากไม่ใช่เพราะต้องการให้เกมของเขาจบอย่างสมบูรณ์แบบและสิ้นเวรสิ้นกรรมกันไป เธอก็คงจะตบเขาไปแล้ว ตบให้เขาเจ็บไปถึงขั้วหัวใจ เหมือนอย่างที่เธอเจ็บ
‘คนโกหก!!’
เธออยากตะโกนใส่หน้าเขาอย่างนั้น แต่มันคงไม่ใช่เวลานี้ เวลาที่เขากำลังอิ่มเอมกับชัยชนะ และเห็นเธอเป็นแค่เหยื่อแสนโง่
“สัญญากับบัวสิคะ ว่าคุณจะรักและซื่อสัตย์กับบัวแค่คนเดียวเท่านั้น” เธอพูดพร้อมกับแตะฝ่ามือขวาประทับแนบลงบนหน้าอกข้างซ้ายของเขา ตรงที่หัวใจร้ายๆกำลังเต้นหนักจนได้ยินชัดหู “หัวใจก้อนนี้ของเมฆจะเป็นของบัวบูชาคนเดียว นายอิศรา ไวย์ราวัลย์จะไม่สามารถรักใครได้อีก ตลอดทั้งชาตินี้ และชาติหน้า !”
ดวงตาดุดันกระตุกเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเคืองขุ่นที่โดนเธอบังคับให้สัญญางี่เง่าอะไรแบบนี้ แต่เพราะเพราะเขากเล็กน้อย ไมมของเขาจบแบบสมบูรณ์แบบ เธอคงจะตบเขาไปแล้วกด้วยหัวใจแหลกสลาย
อนรักของเขากระโดดตึกโรงเรียนตายในวันวาเลน้ำเสียงคาดคั้นและสายตาเยือกเย็นของเธอต่างหาก ที่กำลังสะกดเขาอยู่อย่างลึกล้ำ ราวกับกำลังร่ายมนต์ดำสาปเขาอย่างนั้น
“สัญญาสิเมฆ”
เขานิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า เพราะไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรนัก “สัญญา”
“ด้วยวิญญาณของคุณ !”
“บัว! เป็นอะไร?”
“บัวแค่อยากให้คำสัญญาของเราสมบูรณ์เท่านั้นเองค่ะเมฆ บัวขอใช้วิญญาณของคุณเป็นหลักค้ำประกันได้มั้ยคะ หากในอนาคต คุณเปลี่ยนไป หรือผิดคำสัญญา วิญญาณของคุณจะได้รับผิดชอบการกระทำของร่างกายนี้ไงคะ”
“ไร้สาระ วันนี้มาแปลกนะ นอกจากจะไม่ยอมแต่งตัวสวยๆแล้ว ก็ยังพูดจาประหลาดอีกด้วย เป็นอะไรไป หรือว่าเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน เกิดกลัวการแต่งงานขึ้นมาซะอย่างนั้น”
แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์วิ่งหนีกลางงานแต่งหรอกนะ เพราะเขากำหนดให้เธอวิ่งหนีความอับอายออกจากงานปาร์ตี้สละโสดในคืนนี้ต่างหาก
“บัวไม่ได้เป็นอะไรหรอก บัวก็ยังเป็นผู้หญิงที่รักเมฆเหมือนเดิม บัวแค่อยากมั่นใจ”
“การกระทำต่างหากที่จะทำให้เรามั่นใจ ไม่ใช่คำสัญญางี่เง่า”
“สำหรับบัวมันไม่งี่เง่านะคะ” เพราะอย่างน้อยมันจะติดอยู่ในใจของคนพูดไปจนวันตาย “ตกลงว่าไงคะ ว่าที่เจ้าสาวของคุณขอแค่นี้เอง คิดว่าไม่ได้หนักหนาอะไร”
เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย หากไม่ยินยอมทำตามที่เจ้าหล่อนต้องการ เจ้าหล่อนก็อาจจะงอนจนทำให้แผนการของเขาพังไม่เป็นท่าก็ได้
“ก็ได้ ผมขอสัญญาด้วยวิญญาณ ว่าจะรักบัวบูชาคนเดียวตลอดทั้งชาตินี้และชาติหน้า หัวใจดวงนี้จะไม่รักใครอีกแล้ว พอใจรึยัง?”
เขาไม่คิดว่ามันเป็นการสาปตัวเองหรอกนะ เขาแค่อยากให้เธอพอใจและมั่นใจเท่านั้น
“แสงจันทร์จะเป็นพยานให้เรา ขอบคุณค่ะที่รัก”
“ผมทำให้คุณแล้ว งั้นคุณทำอะไรให้ผมบ้างสิ”
เขาคงขอให้เธอไปเปลี่ยนชุดสินะ...ก็ได้...เธอจะยอมให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้เกมของเขาสมบูรณ์แบบที่สุด