อู่ซ่อมรถวิทยา
“มึงสิไปไสบักเสือ (มึงจะไปไหนไอ้เสือ)”
วิทย์ถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อจู่ ๆ เพื่อนสนิทที่กำลังนั่งแต่งรถสุดที่รักก็ลุกพราดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่พอเห็นหญิงสาวที่กำลังปั่นจักรยานผ่านบ้านตัวเองก็พอจะเข้าใจแล้วเพราะ2-3 วันก่อนเสือมาเล่าให้เขาฟังว่าหลังรักน้องวันพุธ "มันเอาอีหลีเบาะ (มันเอาจริงเหรอ)"
"น้องพุธจะไปไหนครับ" เสียงของคนที่กำลังวิ่งตามจักรยานเพื่อคุยกับตัวเองทำให้วันพุธถึงกับถอนหายใจยาว
"พุธจะไปซื้อของที่ตลาดให้แม่ค่ะ พี่เสือไม่ต้องมาวิ่งตามได้ไหมคะ พุธอายคนอื่น”
วันพุธที่เห็นเสือวิ่งตามก็รีบเร่งปั่นจักรยานที่ตัวเองกำลังขี่อยู่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่เธอกำลังหนีก็ยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อตามเธอให้ทัน
‘โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง’
เสือมองตามต้นเสียงและเจอฝูงสุนัขสามตัวกำลังเพ่งเล็งตัวเองที่กำลังวิ่งตามหญิงสาวก็ถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ ตอนแรกเธอตั้งใจจะปั่นจักรยานเร็วขึ้นเพื่อหนีสุนัขที่วิ่งมาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องแล้วเพราะเธอไม่ใช่เป้าหมายของพวกมันเป็นคนตัวใหญ่ที่วิ่งตามเธอเมื่อกี้ต่างหาก
"โอ๊ยยยยย พวกมึงสิมาแล่นนำกูเฮดหยัง...เฮ้ย ๆ อย่ามาสวบดากกู (โอ๊ยยย พวกมึงจะวิ่งตามกูทำไมเนี่ย...เฮ้ย ๆ หยุดนะอย่ามางับตูดกู)"
ภาพของเสือที่วิ่งหนีกลุ่มสุนัขที่วิ่งไล่ทำเอาหญิงสาวกับเพื่อนสนิทที่ยืนมองอดขำออกมาไม่ได้ ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกชายกำนันจะโดนไล่งับตูดแบบนั้น
"บักวิทย์มาสอยกูก่อน มึงสิไปยืนหัวอีหยังอยู่ม่องหั่น (ไอ้วิทย์มาช่วยกูก่อน มึงจะไปยืนขำอะไรอยู่ตรงนั้น)" เสือที่ปีนขึ้นต้นไม้รีบตะโกนเรียกเพื่อน ตอนนี้นอกจากจะกลัวสุนัขแล้ว เขายังรู้สึกอายหญิงสาวที่กำลังปั่นจักรยานผ่านหน้าพร้อมกับขำเขาไปด้วย
"บาย ๆ นะคะพี่เสือ คราวนี้รู้หรือยังคะว่าเวลามีอะไรวิ่งตามรู้สึกยังไง"
"แต่พี่ไม่ใช่หมานะครับน้องพุธ"
[ไอ้เสือเอ้ย! รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น]
วันพุธไม่ได้ตอบโต้อะไรต่อ เธอเลือกที่จะรีบปั่นจักรยานออกไปเพราะกลัวว่าทั้งคนและสุนัขจะวิ่งตามตัวเองอีก
"บักเสือลงมาเร็ว เดี๋ยวหมามันกะหลุดออกจากกรงมาอีก (ไอ้เสือลงมาเร็ว เดี๋ยวหมามันก็หลุดออกจากกรงมาอีกหรอก)"
วิทย์ที่เพิ่งไปช่วยเจ้าของสุนัขจับเข้ากรงมาก็เดินมาหาเพื่อนอย่างเหนื่อยหอบ ไอ้เพื่อนสนิทคนนี้ของเขามันเก่งทุกอย่างแต่กับกลัวหมา
"เออกูสิลงเดี๋ยวนี้ล่ะ ห่ามึงเอ้ย!! เสียฟอร์มเลยกู ผู้สาวเห็นภาพบ่น่าเห็น...เมิดกันภาพพจน์กู (เออกูลงตอนนี้แหละ เวรเอ้ย!! เสียฟอร์มเลยกูผู้หญิงเห็นภาพไม่น่าเห็น...หมดกันภาพพจน์กู)" เสือกระโดดลงมากจากต้นไม้ที่ตัวเองปีนขึ้นไปแล้วพูดอย่างหงุดหงิด
"จั่งมึงมีบ่มีฟอร์มให้รักษาดอก ป่านนี้พ่อกับน้องเว้าเรื่องวีรกรรมมึงให้ฟังแล้ว โดยเฉพาะแม่น้องเผิลคงบ่ให้มึงใกล้ลูกสาวเผิลง่ายๆดอก (อย่างมึงไม่มีฟอร์มให้รักษาหรอก ป่านนี้พ่อกับแม่คงเล่าวีรกรรมมึงให้น้องเขาฟังแล้ว โดยเฉพาะแม่ของน้องวันพุธคงไม่ให้มึงใกล้ลูกสาวเขาง่ายๆหรอก)"
คำพูดของเพื่อนทำเอาเสือถึงกับคอตก มันก็จริงแบบที่มันพูด
[เฮ้อ~ อยากย้อนเวลาได้โว้ย!! ถ้ารู้ว่าโตมาจะสวยตรงสเปคแบบนี้แม่งจะจีบตั้งแต่เด็กเลย]
.........
บ้านเปี่ยมรัก
"ไปเจอเรื่องอะไรดีๆลูก ทำไมหนูดูอารมณ์ดีขนาดนั้น" ศักดิ์ที่เห็นลูกสาวกำลังปั่นจักรยานเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางอารมณ์ดีก็อดไม่ได้ที่จะสอบถาม
"ไปเจอเรื่องสนุกมานะคะพ่อ...ว่าแต่แม่ไปไหนเหรอคะ"
วันพุธที่ไม่เห็นวี่แววของแม่เช่นทุกวันก็อดถามอย่างสงสัยไม่ได้เพราะท่านสั่งตัวเองให้ไปซื้อผักทำอาหารเย็น แต่กับไม่อยู่บ้าน
"แม่ไปบ้านกำนันลูก เรื่องตลาดแหละ...หนูหิวข้าวเหรอ ให้พ่อทำให้กินไหม"
"ไม่เป็นไรค่ะพ่อ วันพุธซื้อกุยช่ายมาจากตลาดด้วยเดี๋ยวไปแกะใส่จานพ่อกินกับพุธนะคะ"
"ได้ลูก พอดีเลยกว่าแม่จะมาพ่อจะได้รองท้องไว้ก่อน"
เพราะที่บ้านส่วนใหญ่จะไม่กินอาหารสำเร็จรูปที่ตลาดคนเข้าครัวจะเป็นภรรยาอย่างริน หลายครั้งที่เขากลัวภรรยาเหนื่อยซื้ออาหารมาจากภัตตาคารบ้างหรือโรงแรมดังก็มักถูกงอน เขาเลยเลือกที่จะรอกินข้าวฝีมือภรรยาตลอด
"กุยช่ายร้านใครลูก"
"ร้านยายน่วมค่ะ ยายน่วมยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะคะอายุก็เยอะแล้ว"
"แต่แกก็แก่แล้วลูก ความจริงแม่ของลูกนะชวนยายน่วมมาอยู่ด้วยแกก็ไม่ยอมมา"
วันพุธยิ้มกับคำพูดของพ่ออย่างอ่อนโยนเพราะพ่อกับแม่เธอเป็นคนที่ใส่ใจทุกคนในหมู่บ้านเลยเป็นที่รักของใครหลายๆคน
"ยายคงจะไม่ชินมั้งคะพ่อ"
"ก็คงงั้นลูก"
เวลาผ่านล่วงเลยไปจนเกือบพลบค่ำ ในที่สุดหญิงวัยกลางคนที่ทุกคนในบ้านต่างรอก็ปรากฎตัวขึ้น แต่ที่น่าแปลกใจคือมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินมาตามหลังด้วย มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าคนที่ตามมาไม่ใช่ เสือ!
"อ้าวเสือมาส่งรินเหรอ"
"ครับอาศักดิ์ พอดีเห็นว่าอารินจะเดินกลับผมกลัวคุณอาเหนื่อยเลยอาสามาส่ง"
เสือพูดพร้อมกับมองลูกสาวคนที่ตัวเองมาส่งด้วยแววตาบางอย่าง ตอนแรกที่เขากลับบ้านก็หงุดหงิดที่เสียหน้าเรื่องหมาวิ่งไล่กัดอยู่หรอกนะ แต่พอเห็นแม่ของหญิงสาวกำลังคุยกับพ่อก็รีบเปลี่ยนอารมณ์แล้วเอาอกเอาใจเพื่อหวังไถ่โทษเรื่องที่ตัวเองขับรถเฉี่ยว
"งั้นเข้ามากินน้ำ กินท่าก่อนดีไหม"
"จะกินข้าวด้วยกันเลยไหมอาจะได้ทำเผื่อ" รินเองก็ไม่ได้โกรธจนเกลียดชายหนุ่มคนนี้มากมายขนาดนั้น อีกอย่างก็เป็นเพราะเธอเองที่โผล่ออกมาแล้วก็ตกใจล้มลงไปเองด้วย
"ครับ" เมื่อได้ยินคำชวน เสือก็ยิ้มตอบรับอย่างดีอกดีใจ ดีแล้วที่เขาคิดเข้าทางผู้ใหญ่
'สุภาษิตไทยเรียกอะไรว่ะ เข้าตามตรอก ออกตามซอยหรือเปล่า กูนี่ฉลาดจริงๆสมแล้วที่พ่อขายนาขายควายไปส่งเรียน'
........
"น้องวันพุธทำอะไรอยู่ครับ ให้พี่ช่วยหรือเปล่า"
วันพุธมองคนที่ถามตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาว หลังจากได้เป็นแขกที่รับเชิญเขาก็ทำตัวเป็นคนดีอย่างไม่น่าเชื่อทั้งช่วยพ่อของเธอยกกระถางดอกไม้ ทั้งช่วยแม่ของเธอจำอาหารและยังไม่พอยังจะมาวอแวเธอที่กำลังทำรายงานส่งอาจารย์อีก
"พุธกำลังทำรายงานส่งอาจารย์ตอนเปิดเทอมค่ะ"
"เดี๋ยวพี่ช่วยครับ ไหนดูหน่อย"
ไม่เพียงแค่พูดแต่มือของเขายังถือวิสาสะหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่านอย่างละเอียด วันพุธที่ตอนแรกจะแย่งคืนก็ต้องชะงัก เธอไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายใกล้ๆแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ อาจจะตั้งแต่ที่ทะเลาะกันรอบนั้นก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกันอีกเลย ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากเลยนะ ทั้งจมูก คิ้ว ดวงตา ริมฝีปาก มีไฝตรงใต้ตาด้วยแฮะและที่สังเกตได้ชัดคงจะเป็นสีผิวที่เข้มขึ้นกับร่างกายกำยำสูงใหญ่แล้วก็รอยสักตรงต้นคอที่ทำให้ดูแบดขึ้น แต่แม้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน สุดท้ายโดยรวมก็คือคำว่าหล่อ
"มองพอหรือยังครับคนสวย พี่หล่อใช่ไหม"
เสียงทุ้มที่ดังอยู่ไม่ไกลพูดอย่างล้อเลียน ทำเอาวันพุธที่แอบดูอยู่เมื่อกี้ถึงกับชะงัก
"เหอะ! ก็พอดูได้ค่ะ"
"ต้องทำรายงานเกี่ยวกับธรรมชาติเหรอ พี่ว่าถ้าแค่เสิร์จหาเอาผ่านอินเตอร์เน็ตมันจะบรรยายออกมาไม่ถูก เราไปสถานที่จริงกันดีกว่าไหม เดี๋ยวพี่พาไปเอง"
วันพุธมองคนที่ยื่นข้อเสนอให้ตัวเองอย่างไม่ค่อยเข้าใจ เขาจะมาทำดีกับเธอทำไม ไม่ใช่ว่าเกลียดเธอหรอกเหรอ
"เอาแบบที่พี่เขาว่าก็ดีนะลูก ถ้าหนูรอพ่อกลัวว่างานหนูจะไม่เสร็จ"
ศักดิ์เดินเข้ามาในบ้านได้ยินเสือพูดก็รีบเห็นด้วยเพราะลูกสาวเคยเกรินกับตัวเองอยู่ว่าให้พาไปดูแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จะต้องทำรายงานส่งอาจารย์แต่เขาก็ไม่ค่อยว่างยุ่งเรื่องงานต่างๆกับภรรยาช่วงนี้
"แต่..."
"เอาแบบที่พ่อกับพี่เขาบอกเถอะลูก แม่ก็กลัวงานหนูจะไม่เสร็จเหมือนกัน"
"เฮ้อ~ ค่ะ"
ในที่สุดวันพุธก็ต้องตกปากรับคำ จะให้เธอปฏิเสธได้ยังไงทางนั้นเขามีพ่อกับแม่เธอสนับสนุนอยู่ เสียงส่วนน้อยแบบเธอจะไปสู้อะไรเสียงข้างมากล่ะ
"เอาล่ะเด็กๆ มากินข้าวกันก่อนค่อยคุยกัน คุณก็ไปล้างไม้ล้างมือได้แล้วค่ะ"
รินที่จัดอาหารวางไว้บนโต๊ะเสร็จก็เรียกทั้งสามคนทันที ไม่นานครอบครัวพร้อมกับแขกหนึ่งคนก็นั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
"อารินนี่ทำอาหารอร่อยมากๆเลยนะครับ มิน่าอาศักดิ์ถึงไม่เคยไปกินข้าวนอกบ้านเลย"
"ตายแล้ว! ปากหวานจริงๆเลยเราเนี่ย ลองชิมปลาช่อนผัดเม็ดมะม่วงหินมะพานดู อันนี้อาแนะนำเป็นพิเศษเลย"
คนที่พอถูกชมก็แทบลอย ตักนู้น ตักนี้ให้ชายหนุ่มเต็มไปหมด จนลูกสาวอดหมั่นไส้ไม่ได้โดยเฉพาะคนที่หันมายิ้มกริ่มให้เธอเป็นระยะ
'ไอ้พี่เสือบ้า!!'