-สนามแข่ง CGH -
"ผมจอดตรงนี้นะครับ"
"ค่ะ ขอบคุณมาก"
ฉันยื่นเงินจ่ายค่ารถไปหลังจากเขาพามาจนถึงหน้าสนามแข่งที่นาวีอยู่ ฉันรีบลงจากรถและเดินไปที่ทางเข้าสนามพร้อมกับกดโทรออกหาเบอร์นาวีทันที ไม่นานปลายสายก็กดรับ
"ฮัลโหล ฉันมาถึงหน้าสนามแล้ว"
(โห มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ เอาเป็นว่าเดินไปบอกการ์ดหน้าทางเข้าว่ามาหาเฮียตี๋)
"โอเค"
ฉันวางสายพร้อมกับเดินไปด้านหน้าที่เป็นจุดที่การ์ดอยู่ พวกเขามองฉันด้วยความสงสัยทันที เพราะคนอื่นๆที่เข้าสนามแข่งขับรถเข้าทั้งหมด ไม่มีใครเป็นบ้าเดินเหมือนฉันแล้ว
"มาหาใครครับ?"
"มาหาเฮียตี๋ค่ะ"
"อ่อ งั้นตามมา"
การ์ดคนนึงพยักหน้าให้ฉันก่อนเขาจะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับสตาร์ทรถ ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงให้ฉันรีบขึ้นฉันจึงกระชับกระเป๋าพร้อมกับเดินไปขึ้นนั่งซ้อนท้ายเขา ทันทีที่ฉันขึ้นเขาก็บิดคันเร่งพาขับเข้าไปตรงสแตนด์ด้านในทันที ฉันหันมองเข้าไปในสนามแข่งด้านในที่มีถนนคดเคี้ยวให้นักแข่งได้ขับห้ำหั่นกันโดยมีสแตนด์หลากหลายสแตนด์รายล้อมให้คนได้โห่ร้องส่งเสียงเชียร์ แต่พอดูดีๆแล้วกลับมีแต่คนที่ดูท่าทางมีเงินกันทั้งนั้น
ราวกับที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นของคนมีเงินยังไงยังงั้นเลย
เอี๊ยด
"ถึงแล้ว เดินเข้าไปในตึกนั้นได้เลย"
"ขะ ขอบคุณ"
ฉันลงจากรถการ์ดที่มาส่งก่อนจะเดินไปที่ตึกเล็กๆด้านหลังสแตนด์ มันเป็นที่ขายตั๋วหรืออะไรสักอย่าง เพราะตรงนี้วัยรุ่นมาเยอะมาก แต่พอเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นฉันถึงได้รู้ว่าจุดนี้เป็นจุดสำหรับวางเงินเล่นพนัน..
"มาแล้วเหรอ?"
เสียงคุ้นหูที่เหมือนฉันได้คุยด้วยในสายทำให้ฉันต้องละสายตาจากกลุ่มคนที่กำลังวางเงินพนันไปมองหน้าเขา เฮียตี๋ที่ว่าคือชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างดีหน้าตาดีแต่ดูแล้วนิสัยไม่น่าจะดีดูจากสายตาที่กำลังมองตรงมาที่ฉันอย่างแทะโลมนั้น เขายกยิ้มมุมปากพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออก
"ไม่คิดว่าไอ้เด็กนั้นจะมีพี่สาวสวยขนาดนี้เลยนะเนี่ย"
"น้องฉันอยู่ไหนเหรอคะ คุณว่าเขาอยู่กับคุณไม่ใช่เหรอ?"
"เฮ้ยใจเย็น ฉันเพิ่งเคลียร์ผลการแข่งเสร็จเมื่อกี้ให้เวลาได้สูบบุหรี่บ้างสิ"
ฉันกำมือมองหน้าเขาที่กำลังยิ้มให้อย่างยียวน ก่อนเขาจะเลิกคิ้วพร้อมกับยกโทรศัพท์ของนาวีขึ้นมาทำให้ฉันเบิกตากว้างพร้อมกับเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่ทันคิด
"เดี๋ยวๆ นี่มันของผมนะครับคุณพี่สาว"
"แต่นั้นมันของน้องฉัน"
"เขาวางเดิมพันแล้วแพ้ และนี่เป็นของขัดดอก ดีนะที่มันยังมีโทรศัพท์ติดตัวอยู่ไม่งั้นมันได้ตายคาตีนแล้ว"
"นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงได้พูดคำว่าตายออกมาได้"
"ก็น้องคุณพี่มันกวนตีนอ่ะ เป็นหนี้เยอะฉิบหายแต่เสือกหนี...นี่กลับมาใหม่คิดว่าเจ้าหนี้อย่างผมจะจำมันไม่ได้รึไง?"
"นาวีเป็นหนี้คุณเท่าไหร่กัน"
เฮียตี๋หัวเราะออกมาอย่างขำๆก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาฉันที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่ เขายิ้มออกมาบางๆพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าด้วยท่าทีหยาบคายจนฉันหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจ..
"สองแสนเจ็ด"
"ห๊ะ!" ดวงตาฉันเบิกกว้างพร้อมกับหันมองสบตาคนตรงหน้าทันที "สองแสนเจ็ดเนี่ยนะ!?"
"ครับ สองแสนเจ็ดรวมต้นดอกแล้วก็รวมที่มันเพิ่งสร้างสดๆร้อนๆวันนี้ด้วย"
ขาแทบอ่อนทันทีที่เฮียตี๋ตอบกลับมาแบบนั้น เขาเลิกคิ้วมองฉันก่อนจะเอียงใบหน้ามองด้วยแววตาขำๆ
"เอาไงครับคุณพี่ จะจ่ายทบต้นทบดอกวันนี้เลยไหม?"
"ฉันไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก อีกอย่างนาวีเองก็ไม่ใช่คนที่จะสร้างหนี้ได้ขนาดนั้น"
"อ่า...น้องฉันเป็นคนดีแล้วหนึ่ง"
ฉันมองสบตาเฮียตี๋ขณะที่เขากำลังหัวเราะขำ เขาพยักหน้าเรียกให้ฉันเดินตามเข้าไปที่ห้องด้านหลังตึกก่อนลูกน้องเขาที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้าจะเปิดประตูให้เผยให้เห็นนาวีที่กำลังนั่งอยู่ภายใน ตอนนี้เขาตื่นแล้วแต่สภาพสะบักสะบอมจนหัวใจฉันกระตุกวูบ ทันทีที่นาวีเห็นฉันเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจด้วยความขวัญเสีย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็วิ่งออกมากอดฉันไว้จนฉันเกือบจะล้ม
"พะ พี่ช่วยผมด้วย!"
"นาวี.." ฉันประคองใบหน้ามองหน้าน้องตัวเองด้วยหัวใจที่แทบจะสลายขณะที่นาวีก็มองฉันทั้งน้ำตา "ทำไมเป็นแบบนี้ พวกเขาทำเหรอ?"
"พี่ ฮึก..พี่ต้องช่วยผมนะไม่งั้นผมตายแน่"
ฉันกอดน้องเอาไว้พร้อมกับหันมองเฮียตี๋ด้วยแววตาแข็งกร้าว
"ทำไมต้องทำกับคนอื่นขนาดนี้ด้วย ถ้าเขาตายจะว่ายังไง!?"
"แล้วได้ทำประกันให้มันไหม ถ้าทำพี่สาวเอาค่าทำศพมันมาจ่ายหนี้ได้นะ"
เฮียตี๋ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะเรียกลูกน้องให้เอาเอกสารมาให้ ฉันมองเอกสารในมือเฮียตี๋ก่อนจะเบิกตามองหลักฐานต่างๆที่น้องตัวเองทำไว้กับเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
"หนี้เป็นแสนแบบนี้คุณพี่สาวคิดว่าผมจะไม่มีหลักฐานเหรอครับ เอาไงอ่ะรึอยากให้มันเสียอนาคตดีได้ยินว่าเรียนนิติไม่ใช่อ่อ มันก็น่าจะรู้นะว่าถ้าผมส่งฟ้องอะไรจะเกิดขึ้น"
ฉันมองหน้านาวีที่เอาแต่ยืนหลบอยู่ข้างหลังฉันอย่างไม่เชื่อสายตา นาวีที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลมองฉันทั้งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว และฉันเองก็พอรู้ว่าน้องไปเจออะไรมาบ้าง
"โอเค ฉันจะหาเงินมาใช้หนี้ให้แต่ว่า...ฉันขอผ่อน"
"ฮ่าๆ กูตลกว่ะ"
เฮียตี๋หัวเราะเสียงดังพร้อมๆกับหันมองลูกน้องเขาที่กำลังยืนขำไม่ต่างกันอยู่
"ผ่อนเนี่ยนะ คิดว่าพี่สาวเป็นหนี้ธนาคารอยู่เหรอครับ?"
"แต่ฉันก็ไม่ได้มีเงินก้อน ตอนนี้หมดตัวมีแค่ห้าหมื่นฉันขอวางห้าหมื่นก่อนได้ไหมที่เหลือฉันสัญญาว่าจะทยอยคืนให้แน่"
เฮียตี๋เงียบไปก่อนเขาจะมองหนังสือสัญญาและเงยหน้ามองฉันอีกครั้ง
"อีกอาทิตย์ผมจะให้คนไปเอาอีกหนึ่งแสน และอีกสองอาทิตย์จะให้คนไปเอาอีกแสนสองเราจะได้จบหนี้กันสักที"
ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอ แต่ก็ต้องระงับความกังวลและความกลัวของตัวเองไว้
"เอาไงครับคุณพี่สาว ผมว่าผมค่อนข้างใจดีแล้วนะเนี่ยให้เวลาเคลียร์ตั้งสองอาทิตย์"
"ได้" ฉันกำมือแน่นพร้อมมองสบตาเฮียตี๋อีกครั้ง "ฉันตกลงรับข้อเสนอ"
เฮียตี๋ยิ้มกว้างพร้อมกับตบมืออย่างชอบใจ
"แม่ง เกิดมาทั้งทีอยากมีพี่สาวดีแบบนี้จังวะพวกมึงว่าป่ะ!?"
"เออโคตรดี แถมยังสวยน่าล่ออีกต่างหาก"
"ฮ่าๆ"
พรึ่บ
ฉันเม้มปากกำมือแน่นในตอนที่พวกคนตรงหน้ากำลังหัวเราะลั่นพร้อมกับมองตรงมาที่ฉันด้วยสายตาหยาบโลนจนน่าสะอิดสะเอียน แม้ในใจจะโกรธแค้นขนาดไหนฉันก็ห้ามแสดงอาการเด็ดขาด
"งั้นก็โอเคตามนั้น ตอนนี้จ่ายที่ว่ามาแล้วเฮียจะปล่อยไปนะจ๊ะ"
ใช่...ตอนนี้ฉันต้องตามน้ำไปก่อนแม้จะยังไม่รู้ว่าจะไปหาเงินแสนมาจากไหนก็ตาม ขอแค่รอดจากตรงนี้ไปก่อนแล้วกัน
เวลาต่อมา
-โรงพยาบาล-
"พี่ครับ"
ฉันมองนาวีที่เดินเข้ามานั่งข้างๆหลังจากที่เขาทำแผลกับพยาบาลเสร็จและออกมานั่งรอรับยาข้างๆ ฉันมองหน้าน้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผลก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"พี่...จะด่าผมก็ได้นะพี่อย่าเงียบไปแบบนี้สิ"
คำพูดของนาวีทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนฉันจะมองสบตาน้องตัวเองด้วยความหนักใจ
"มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน หนี้เยอะขนาดนี้ไปก่อตั้งแต่ตอนไหนวี?"
นาวีหลบสายตาทันที และแม้แต่เขาเองก็ยังถอนหายใจด้วยความอึดอัด
"ก็เมื่อไม่นานมานี้...หลังๆผมเที่ยวบ่อยไปหน่อย"
"ถึงจะเที่ยวบ่อยแต่มันก็คงจะไม่เที่ยวจนมีหนี้เป็นแสนแบบนี้นะวี"
"ก็อย่างที่พี่เห็นนั่นแหละ ผมติดหนี้ที่สนามแข่ง"
"แล้วไปเข้าวงการแบบนี้ได้ยังไงวี พี่เข้าใจนะว่าวัยแกมันต้องกินต้องเที่ยวแต่นี่มันไม่มากไปเหรอ แกไปพนันจนเป็นหนี้เป็นแสนจนเขาเอาตัวแกไปรุมกระทืบอ่ะ ถ้าวันนึงเขาไม่ปล่อยแกแล้วทำอย่างอื่นที่มันแย่กว่านี้แกจะทำยังไง?"
นาวีมองแต่มือตัวเองและเอาแต่เงียบจนฉันเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงต่อได้แต่ถอนหายใจออกมาเสียงดัง ทั้งๆที่ในตอนนี้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ
"ผมขอโทษครับพี่..แต่เงินมันก็มากเกินกว่าผมจะหามาคืนเขาได้แล้วพี่จะมีคืนมันเหรอเงินตั้งสองแสนกว่านั้นน่ะ เราบอกพ่อกับแม่ดีไหม.."
"ไม่ได้!"
นาวีชะงักทันทีที่ฉันเผลอตวาดใส่ทั้งๆที่ฉันไม่เคยแสดงออกแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันเกินจะทนจริงๆ
"แกไม่รู้เหรอว่าตอนนี้พ่อแม่ก็ลำบาก ผลไม้ที่พ่อปลูกไม่ได้มีเยอะเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้เขาเองก็ยังตั้งหลักหลังจากผ่านช่วงโรคระบาดนั้นไม่ได้...แกรู้ตัวสักทีสิวะนาวีว่าพ่อแม่เองก็มีเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบอยู่"
"แล้วจะให้ผมทำไง จะให้เดินไปให้มันฆ่าเลยไหมล่ะพี่"
"ถ้าไม่ติดว่าพี่สงสารที่แกจะเจ็บตัวอีกพี่ตีแกไปแล้วนะวี" ฉันมองนาวีด้วยสายตาดุดันจนน้องหลบสายตาอีกครั้ง "พี่จะหาทางเอง แต่หลังจากนี้ห้ามแกไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีก"
"จริงนะพี่ พี่จะช่วยผมจริงๆนะ"
"ถ้าพี่ไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย?"
นาวีเม้มปากมองฉันทั้งน้ำตาในตอนที่ฉันเองกำลังมองเขาด้วยแววตาคิดหนัก ถึงจะยังหาทางไม่ได้แต่มันต้องมีสักทางที่เป็นทางออกกับเรื่องนี้ได้สิ...ฉันต้องช่วยนาวีให้ได้