ตอนที่ 3
เด็กในปกครอง
ถ้อยคำนั้นของหญิงสาว ทำให้หน้าหล่อเข้มของ สิปปกร อึมครึมลง นิ้วเรียวแข็งเคาะกับโต๊ะเบาๆ หลุบมองคนตรงหน้าให้ทานข้าวให้อิ่ม และเอ่ยอย่างใจเย็น
“การทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ก็คือเรื่องเงินนั่นแหละ แล้วจะไม่เกี่ยวยังไง?”
แพรไหม วางช้อนลง หยิบแก้วน้ำขึ้นจิบ
รู้สึกอิ่มขึ้นมาดื้อๆ แม้จะกินไปแค่ครึ่งถ้วย
“ก็หนูยังมีเงินเก็บอยู่ แต่แค่อยากจะทำงานที่ร้านกาแฟไปด้วย ให้แพรทำงานนะคะ ต้นหอมกับจิวเองก็ทำอยู่ที่นั่น แพรอยากจะทำงานพิเศษกับเพื่อนๆ”
หัวคิ้วของ สิปปกร กระตุกเล็กน้อย
“มีโรงแรมและร้านอาหารกึ่งผับในเครือของอัครเวทย์อีกหลายที่มีตำแหน่งว่าง ถ้าอยากเป็นแค่เด็กเสิร์ฟมาทำที่ร้านอาหารในเครือ Hit pub ก็ได้”
คนตัวเล็กหน้ามุ่ยลงทันที
“แต่ในเครืออัครเวทย์ไม่ได้มีคาเฟ่กาแฟซะหน่อย อีกอย่างทีน่าคาเฟ่ มีพี่โจ้ จิราวัฒน์ บาริสต้าชื่อดัง คนที่แพรแอบปลื้มและชื่นชมพี่เขามานานแล้วทำอยู่ และ..”
เอ่ยไม่ทันจะประโยค แพรไหม ก็ชะงักถ้อยคำไว้เพียงแค่นั้น เมื่อสบตากับใบหน้าหล่อเหลาที่อึมครึมอย่างเห็นได้ชัด
“แอบปลื้ม?”
ถ้อยคำของ สิปปกร เข้มขึ้น แฝงด้วยดาเมจบางอย่างที่น่าเกรงขาม ทั้งดวงตาคู่สีนิลที่ดำมืดขึ้นเมื่อจ้องมองเธอ ขณะที่ร่างหนาเหยียดกายลุกขึ้น จากอีกฝั่งโต๊ะและเดินมาใกล้
“เอ่อ ..คือ แพรกับต้นหอมชอบไปดูรายการวาไรตี้ต่างๆของพี่เขา คือพี่โจ้เป็นศิษย์เก่าที่มอ เป็นรุ่นพี่ที่เก่งหลายอย่าง และเคยมาบรรยายในคลาสด้วย และ...”
คือเธอก็แค่ชื่นชม ในฐานะที่เขาเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งเท่านั้น
“เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้แพรของฉัน รู้จักปลื้มคนนั้นคนนี้ด้วย”
นิ้วเรียวแข็งเชยคางมนให้หน้าสวยขึ้นสบตา หน้าหล่อเหลาโน้มลงใกล้จนเกือบชิด จนลมหายใจอุ่นร้อนจากสันจมูกโด่งของเขาเป่ารดรินแก้มเนียนของเธอ แพรไหม คล้ายตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ เมื่อจ้องกับดวงตาคมที่ลุ่มลึก
สิปปกร อัครเวทย์ เป็นผู้ชายที่มีกรอบหน้าคมเข้มหล่อเหลา อาจเพราะบิดาเขามีเชื้อสายแขกขาวลูกเสี้ยว เขาจึงมีรูปร่างหน้าตาที่สมส่วนราวพระเจ้าสร้าง ทั้งดวงตาคู่สีนิลเข้มดั่งนิลกาฬพาดทับด้วยคิ้วหนาเข้มได้รูป เข้ากับจมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีระเรื่อ
ไม่ว่าจะเนิ่นนานเพียงใด เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว
ที่ทำให้เธอสั่นไหวอยู่เสมอ
ทว่าเธอได้แต่พยายามข่มความรู้สึกมากมายนั้นไว้ในใจ
เธอรู้ว่าเขามองเธอ เป็นแค่เด็กในปกครอง ที่จำต้องดูแลอย่างดีที่สุด ในฐานะผู้มีบุญคุณของครอบครัวเขา
และเขามักจะใช้ถ้อยคำแบบนี้กับเธอเสมอ
“แพร ไม่ใช่สิ่งของ ...ของใคร”
หน้าสวยเชิดขึ้น จนจมูกโด่งเป็นสันดอกงานั้นแดงระเรื่อ ดวงตาของ สิปปกร หลุบต่ำลงมองริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มที่สั่นระริก ขณะที่เขาไล้นิ้วเรียวแข็งยังความนุ่มหยุ่นนั้นช้าๆ
“เดี๋ยวนี้ ..ดื้อกับฉัน”
กรามของชายหนุ่มบดเบียดเข้าหากันแน่นจนเป็นสันนูนเด่น เธอคงไม่วันรู้ว่าเขาต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเท่าใด ในการข่มใจและความรู้สึกมากมายไม่ให้ตบะแตกเสียก่อน
“แพรโตแล้ว แพรไม่ใช่เด็กแล้ว”
แพรไหม เบี่ยงสายตาหลบเขา เมื่อวงแขนแข็งแรงฟาดกับขอบโต๊ะกักขังตัวเธอไม่ให้ขยับไปไหน
“ฉันรู้ว่าเธอไม่เด็กแล้ว”
ทำไมเขาจะไม่รู้ แค่หลุบตามองเนินอกอวบอิ่มที่ล้นทะลุกับขอบเดรสซาตินนี้ ทั้งเรือนร่างงดงามเกินวัย อกเป็นอกเอวเป็นเอว ที่เขาได้โอบกอดและลูบไล้อยู่เสมอ
แพรไหมไม่ใช่เด็ก ทว่าเธอก็ยังเป็นคนในปกครองของเขา
“แพรแค่เห็นว่ารุ่นพี่เขาเก่งด้านบาริสต้า และแพรอยากจะทำงานกับต้นหอมอยู่ใกล้มหาลัยด้วย จะได้ไม่รบกวนค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณสิป อีกอย่างเลิกเรียนเร็วบางวันกลับมาบ้านแพรก็ไม่มีอะไรจะทำ ให้แพรไปทำเถอะนะคะ แค่สัปดาห์ละสามวัน ช่วงเย็นวันละสี่ชั่วโมงเท่านั้น”
เมื่อเห็นว่าใช้ไม้แข็งด้วยการทำเสียงดื้อร้นไม่เป็นผล คนน้องก็เปลี่ยนโทนน้ำเสียงเป็นหวานออดอ้อน ขณะเอียงแก้มเนียนถูกับต้นแขนของเขาอย่างออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อย
และทุกครั้งที่เธอทำมักจะได้ผลเสมอ
“อยากทำขนาดนั้น?”
นิ้วเรียวเคาะยังหน้าผากมนเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง ทว่าก็ดวงตาคมเข้มนั้นก็ยังคงมองอย่างลุ่มลึก
“ค่ะ แล้วแพรสัญญาว่าจะเด็กดีของคุณสิป อยากให้แพรทำอะไรแพรก็พร้อมจะทำทุกอย่างค่ะ”
ขอเพียงให้เธอได้ทำงานพิเศษนี้
เธออยากใช้ชีวิตปกติ เหมือนเพื่อนๆคนอื่น ไม่ใช่นั่งรถหรูไปเรียนทุกวัน และมีบอดี้การ์ดของเขาคอยห้อมล้อมตลอดเวลา
“แน่ใจเหรอ? ว่าพร้อมจะทำทุกอย่าง”
น้ำเสียงของ สิปปกร เข้มขึ้น มือหนารวบเอวคอดให้ร่างของเธอขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ร่างหนาแทรกกลางระหว่างเรียวขางาม หัวใจของ แพรไหม เหมือนจะเต้นระส่ำขึ้น เมื่อได้กลิ่นน้ำหอมสะอาดผสานกับกลิ่นบุหรี่จากตัวเขา
กลิ่นที่เธอคุ้นเคยมาเนิ่นนาน
“แน่ใจค่ะ ว่าแต่คุณสิปไม่กลัวที่จะอยู่ใกล้ๆแพรแล้วเหรอคะ?”
เธอถามเขาเบาๆ ขณะที่มือนิ่มขยุ้มอกเสื้อเขาไว้แน่น ดึงร่างของชายหนุ่มให้เข้ามาใกล้
ความวูบไหวบังเกิดในดวงตาคู่สีนิลนั้น
“ฉันไม่ได้กลัว”
สิปปกร เอ่ยเสียงแหบพร่าต่ำ ขณะที่อุ้งมือหนาไล้ยังแผ่นหลังตามแนวส่วนเว้าส่วนโค้งของหญิงสาว หลายวันมาแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาบ้านใหญ่อัครเวทย์
นับตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น...
...คืนที่เขาเกือบจะเผลอทำสิ่งที่เกินจะหักห้ามใจลงไป
***************