ผู้ปกครอง
ตอนที่ 1
ผู้ปกครอง
“คุณสิปคุยงานอยู่ด้านบนครับ”
คนของ Hit pub ที่เป็นผู้ช่วยของ สิปปกร อัครเวทย์ บอกกับ แพรไหม เมื่อเธอเดินเข้าไปถึง ความจริงหญิงสาวเคยมาที่นี่ไม่กี่ครั้ง ผับแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของ สิปปกร ที่เขาเปิดมาเพียงเพื่อไว้พบปะคู่ค้าและเพื่อนฝูงเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เป็นสถานที่คุยงานสำคัญของธุรกิจกลุ่มอัครเวทย์
หากไม่จำเป็นเธอก็ไม่อยากมาที่นี่
แต่วันนี้เธอมีเรื่องอยากจะคุยกับเขา
“ไม่เป็นไรค่ะ แพรนั่งรอตรงนี้ได้”
แพรไหม บอกคนของเขาที่ชื่อ พิชัย ทว่าอีกฝ่ายกลับแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย
“คุณสิปแจ้งว่าให้คุณแพรไปรอห้องรับรองด้านบนดีกว่าครับ เพราะวันนี้ต้องคุยกับพันธมิตรกลุ่มดอกแก้วทอง น่าจะใช้เวลานานพอสมควร”
กลุ่มดอกแก้วทอง เป็นกลุ่มธุรกิจสีเงินหนาข้ามชาติของใต้หวัน และเป็นพันธมิตรสำคัญของอัครเวทย์
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพิชัยไม่ต้องห่วงแพร ยิ่งถ้านานแบบนั้นแพรนั่งมุมนี้ ฟังเพลงชิลล์ๆก็ได้ค่ะ คุณพิชัยตามสบายเลยค่ะ”
ทำไมคนของเขา ชอบมองว่าเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ต้องคอยประคบประหงมนะ ทั้งที่อีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว และอีกเพียงหนึ่งปีกว่าๆเธอก็จะเป็นอิสระต่อทุกสิ่ง
แต่ตอนนี้เธอยังอยู่ใต้อาณัติของเขา
สิปปกร อัครเวทย์
“งั้นก็ได้ครับ คุณแพรอยากดื่มอะไรเพิ่มมั้ยครับ แต่คุณสิป แจ้งไว้ ถ้าเป็นเครื่องดื่มให้เป็นไวน์แดงไม่เกินสองแก้วครับ”
แล้วจะถามเธอเพื่ออะไรกัน?
ไวน์แดงถูกรินใส่แก้วทรงสูง
ก่อนที่คนของเขาจะถอยห่างไปอย่างสุภาพ แพรไหมถอดคาร์ดิแกนตัวเก่งออกฟาดไว้กับพนักเก้าอี้ วันนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาเพราะไม่มีเรียน จึงใส่เป็นเดรสซาตินสายเดี่ยวสีขาว เพราะตั้งใจมาหาเขาที่นี่
เสียงเพลงในผับหรูบรรเลงอย่างต่อเนื่อง Hit pub ถือเป็นสถานบันเทิงที่คัดกรองลูกค้าระดับวีไอพี แพรไหม สังเกตเห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาล้วนเป็นนักธุรกิจ และพูดคุยกันอย่างผ่อนคลายเป็นส่วนตัว ต่างจากผับที่เธอกับเพื่อนไปบ่อยๆแถวเอกมัย
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง สิปปกร ก็ยังไม่เดินลงมา
ไวน์แดงหมดไปแล้วสองแก้ว
และเธอไม่สามารถขอเพิ่มได้อีก
แพรไหม จึงหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา เปิดดูโซเซียลและไลน์คุยกับ ต้นหอม และ จิว เพื่อนสนิท ด้วยเรื่องสัพเพเหระ เป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอ คาดว่าอีกสักพักเขาก็น่าจะคุยงานเสร็จ
“มาคนเดียวเหรอครับคนสวย”
เสียงทักจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างหนึ่งจะย่อกายลงนั่งข้างๆ อย่างถือวิสาสะ ใบหน้าขาวตี๋เหมือนเป็นลูกครึ่งไทยจีนนั้นทำให้ คิ้วเรียวสวยของ แพรไหม ย่นเข้าหากันเล็กน้อย
น่าจะเป็นลูกค้าของที่นี่
“อ่าค่ะ มาคนเดียว แต่...”
“งั้นผมขอนั่งด้วยคนนะครับ ผมชื่อลี เห็นคุณนั่งคนเดียวมานานแล้ว ผมอยากรู้จักคุณ”
ลี แนะนำตัว ขณะไล้สายตามองร่างบางของสาวสวยตรงหน้า อ้อยอิ่งอยู่บริเวณไหปลาร้างดงามและเนินอกที่โผล่พ้นของเดรสสายเดี่ยวด้วยสายตาแทะโลม
ไม่นึกว่าจะได้เจอของดีในคืนนี้
“แพรค่ะ ..แพรไหม”
หญิงสาวโค้งตัวอย่างสุภาพ ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือผับของ สิปปกร และชายคนจีนที่ชื่อ ลี นี้ก็เป็นลูกค้าของ Hit pub เธอคงจะต้องวางตัวปกติ แม้อยากจะลุกหนีออกจากตรงนี้ ด้วยไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ที่ติดมากับตัวอีกฝ่ายยามขยับเข้ามาใกล้
ความจริง สิปปกร ก็สูบบุหรี่บ้างเหมือนกัน
แต่ทำไมเธอไม่รู้สึกว่ากลิ่นที่ออกมาจากตัวเขาจะฉุนและชวนเวียนหัวแบบของผู้ชายคนนี้
“ชอบดื่มไวน์แดงเหรอครับ ผมสั่งให้เพิ่มนะ”
“มะ ..ไม่ต้องค่ะ แพรดื่มได้ไม่เกินสองแก้ว”
แพรไหมรีบเอ่ยปราม หันมองซ้ายขวา ด้วยเกรงว่าคนของ สิปปกร จะเห็นว่าเธอขัดคำสั่งของเจ้านาย ทว่าแปลกมาก เหมือนห้องประชุมด้านบนจะเคร่งเครียด คนสนิทของเขาที่คอยยืนเฝ้าเธอเสมอกลับไม่มีสักคน
กระนั้นหญิงสาวก็ไม่อยากจะดื่มมากกว่านี้อยู่ดี
“ไม่ต้องเกรงใจครับคนสวย ดื่มได้เต็มที่เลย”
ลี โบกมือสั่งไวน์แดงมาเพิ่มและรินใส่แก้วให้เธอ ก่อนจะขยับร่างมาใกล้ยิ่งกว่าเดิม “อยากจะดื่มทั้งคืนก็ได้ ถ้าไม่สะดวกที่นี่เป็นที่ห้องผมก็ได้นะครับ”
อุ้งมือหยาบกร้านของ ลี วางลงบนโคนขาอ่อนของเธอ ก่อนจะโน้มหน้าตี๋มาใกล้จนเกือบชิด นั่นทำให้แพรไหม ขยับถอยออกห่าง แต่อีกฝ่ายกลับยกแก้วไวน์จรดยังริมฝีปากอิ่มวาวของเธอ ทว่าหญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบ
“ไม่ค่ะ แพรไม่ดื่ม กลัวคุณสิปว่า”
“คุณสิป?”
“ค่ะ เขาเป็นผู้ปกครองของแพร”
ลี ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะในลำคอ ขยับร่างมาใกล้เธอมากขึ้น และคว้าเอวคอดให้ร่างบางมาแนบชิด แพรไหม ตระหนกเล็กน้อยกับการถูกจู่โจม จนต้องพยายามเบี่ยงหนี แต่อีกฝ่ายกลับโน้มหน้ามาใกล้จนชิดกับอกอิ่มของเธอ
“เป็นเด็กเลี้ยงนี่เอง บอกผมซิเขาให้คุณเท่าไหร่? ผมจะให้มากกว่านั้นอีกห้าเท่าเลย”
ทำเป็นใช้คำสุภาพว่า ผู้ปกครอง
จริงๆ ก็เด็กเสี่ยดีๆนี่เองซินะ แต่ของดีแบบนี้ ลี อยากจะเกทับ ไปกกเล่นให้หายอยาก ต่อให้แพงเท่าไหร่ก็ยอม
“มะ..ไม่ค่ะ”
แพรไหม พยายามดันกายอีกฝ่ายออกห่างแต่เหมือนไม่เป็นผล แก้วไวน์ถูกจรดยังริมฝีปากของเธอ แม้หญิงสาวจะปฏิเสธ ทว่าของเหลวสีแดงนั้นก็ไหลทะลักจนเปรอะเปื้อนคอและเนินอกของเธอ
“อย่าเล่นตัวเลยน่า ฉันมีเงินฉันจ่ายเธอได้”
หน้าตี๋โน้มมาใกล้ เพื่อก้มลงเลียหยดไวน์ที่เกาะยังเนินอกบนผิวขาวเนียนละเอียดนั้นด้วยแววตาหื่นกระหาย
หมับ!!
มือหนาของใครคนหนึ่ง กระชากบ่าของ ลี ออกอย่างแรง ก่อนที่มีดพับ Stiletto จะปักยังต้นแขนลีจนมิดด้าม
ฉึก!!
“โอ้ย!!”
เสียงร้องอันเจ็บปวดของ ลี ดังลั่น เมื่อโลหิตสีแดงไหลออกมาเป็นทาง ทว่าเมื่อมองหน้าหล่อเข้มของผู้กระทำ และชายชุดดำที่ยืนอยู่รอบด้าน ลี ก็จำต้องหุบปากไว้เพียงแค่นั้น
“คุณสิป!”
แพรไหม ตระหนกเล็กน้อย กับภาพที่เห็นตรงหน้า ทว่าหน้าหล่อเข้มนั้นกลับเยือกเย็นดั่งฉาบด้วยน้ำแข็ง และจ้องมองเธอคล้ายจะคาดโทษ เมื่อเหลือบเห็นแก้วไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
ดวงตาคู่สีนิลเข้มขุ่นมัวอย่างเห็นได้ชัด
“กล้าขัดคำสั่งฉัน?”
หัวใจของ แพรไหม เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาสาวเท้าเข้ามาใกล้ และคว้าร่างบางของเธอให้ลุกขึ้น โดยไม่สนใจร่างโอดโอยที่นั่งทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด จน พิชัย คนของเขาต้องเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“เอาอย่างไงต่อครับคุณสิป?”
สายตาของสิปปกร ดำมืดขึ้นเมื่อเหลือบเห็นหยดไวน์แดงบนเนินอกขาวสล้างของ แพรไหม และรอยช้ำแดงเล็กๆบริเวณบ่าลาด อาจเพราะเกิดจากการเสียดสีใกล้ชิดเมื่อสักครู่ ด้วยเธอมีผิวที่บอบบางอยู่แล้ว
นิ้วเรียวแข็งไล้ยังผิวขาวเนียนนั้นช้าๆ ราวกับสิ่งของมีค่า
ก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนด้านหลังเสียงเข้ม
“จัดการมันซะ!!”
***************