บทที่ 1 "ไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ขยันเจอ"

1924 คำ
หลายสัปดาห์ต่อมา... @มหาวิทยาลัย อ่า...กว่าจะขับรถมาถึงมหาวิทยาลัยได้แสนลำบากและยากเย็นมาก ฉันไม่ชอบประเทศที่ตัวเองอาศัยอยู่ที่สุดก็เรื่องรถติดนี่แหละ ติดดีติดเด่นจนขึ้นชาร์จอันดับรถติดของโลกแล้วมั้ง แต่ยังดีที่ถึงแม้ว่าจะรถติดแต่ฉันก็มาเรียนทันไม่สายแถมยังมีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อย โอเค ฉันพร่ำเพ้อไร้สาระไปเยอะละ ทีนี้ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องแนะนำตัวกันบ้างแล้ว ฉันชื่อพราวฟ้า เป็นลูกของพ่อเธียรกับแม่สวย มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อแพรวา ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ชั้นปีที่สามคณะบริหารธุรกิจ สถานะปัจจุบันก็คือโสด ที่ผ่านมาก็โสดเหมือนกัน ยังไม่เคยมีแฟนกับเขาสักครั้งเดียว ที่โสดเนี่ยไม่ใช่ว่าฉันไม่สวยนะ ฉันสวย สวยมากเลยด้วย แต่มันดันไปติดที่.... ฉันมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายที่โตมาด้วยกันเป็นตัวขัดขวางผู้ชายที่จะเข้ามาจีบฉันนี่ละ โดยเฉพาะเพื่อนสนิทที่ชื่อว่า มาร์ติน หนุ่มวิศวะชั้นปีที่สาม ลูกชายคนเดียวของอาแปลนกับอามาร์ลิน ทายาทมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลบ้าบอคอแตก นายนั่นเป็นเพื่อนสนิทฉันที่ขี้เก๊กสุดแล้วมั้งแถมยังเป็นเพื่อนสนิทที่ชอบขัดขวางเรื่องความรักของฉันด้วย มีผู้ชายเข้ามาจีบสมัยตอนเรียนมัธยมกี่คนๆ ก็โดนหมอนั่นสกัดไปหมด จนสุดท้ายฉันก็ไม่มีแฟนกับเขาสักทีจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่หมอนั่นก็ไม่มีแฟนเหมือนกันแต่มีผู้หญิงเข้ามาวนเวียนในชีวิตไม่ขาดสายเลยละ แล้วแบบนี้มันยุติธรรมกับฉันเหรอ? ก็ไม่นะสิ เหอะ พูดถึงตาบ้านั่นแล้ว ฉันก็เซ็งขึ้นมาทันทีเลย เดินไปหาเพื่อนที่คณะกันดีกว่า... "ยัยพราวฟ้า ทางนี้!" หลังจากที่ฉันใช้เวลาเดินมาที่คณะไม่นาน ตอนนี้ฉันก็มาถึงแล้ว และทันทีที่ฉันมาถึงก็มีเสียงเรียกชื่อของฉันดังขึ้นมาจากมุมหนึ่งในตึกคณะที่ฉันเพิ่งเดินเข้ามายืนอยู่ตอนนี้ทันที และเสียงที่ว่าก็ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน มันคือเสียงเพื่อนสนิทของฉันเอง ชื่อลูกพีชเป็นลูกสาวของอาตฤณกับอาชฎาเพื่อนสนิทของพ่อ เราสองคนโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กจนโต กระทั่งตอนนี้ก็ยังมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แถมยังเรียนคณะเดียวกันอีก เรียกได้ว่าสนิทกันมากๆ เลยละ แต่เดี๋ยวก่อน...ว่าแต่ยัยนั่นนั่งอยู่ตรงไหนกันนะ ฉันชะเง้อคอมองหาจนแทบจะเป็นคอยีราฟอยู่แล้วแต่ทำไมฉันมองหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักทีล่ะ "ยัยฟ้า! ทางนี้โว้ย เพื่อนนั่งอยู่ตรงนี้ค่า~" ตรงนี้? แล้วมันคือตรงไหนล่ะ โอ้ยฉันชะเง้อคอมองหาจนเมื่อยหมดแล้วนะ แต่เสียงยัยนั่นก็ดังอยู่ใกล้มากเลยนะ ใกล้ชนิดที่ว่า... "คนนอกสายตาอะเนอะ นั่งอยู่ใกล้รูจมูกขนาดนี้ละ ยังมองหาทางอื่นอีก ฉันอยู่นี้ย่ะ มองมาทางนี้สิยัยบ้า!" ทันทีที่ได้ยินเสียงยัยลูกพีชมันด่ากราดอยู่ใกล้ๆ ชนิดที่ว่าใกล้มากๆ ฉันเลยลองหมุนตัวไป เท่านั้นแหละ... ตาเถร! หัวใจฉันแทบวาย ก็ใบหน้ายัยลูกพีชมันใกล้ฉันมากชนิดที่ว่าตอนที่หมุนตัวไปเมื่อกี้ฉันเกือบจะได้จูบกับมันแล้วเชียว "โอ้ย ยัยลูกพีชทำบ้าอะไรของแกเนี่ย เกือบจะผิดผีกันแล้วไง" "ให้มันผิดกันไปเถอะ ถ้าฉันเรียกขนาดนั้นแล้วแกยังชะเง้อคอมองหาแต่ข้างหน้าอะ ฉันเข้าใจมาร์ตินละว่าทำไมมันชอบงอนแกนักหนาเพราะแกมันชอบมองหาแต่สิ่งไกล ๆ ไง สิ่งใกล้ๆ เนี่ยมองข้ามตลอด" "พูดบ้าอะไรของแก" ฉันว่ายัยลูกพีชตาเขียวที่พูดถึงชื่อของมาร์ตินออกมา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะซึ่งมียัยใบเฟิร์นเพื่อนสนิทในกลุ่มที่รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เรื่องที่ฉันว่ายัยลูกพีชเมื่อกี้คือต้องอธิบายก่อนว่า มันมีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยถูกกับมาร์ตินนอกจากเรื่องที่หมอนั่นชอบขัดขวางความรักของฉันแล้ว นั่นก็คือ...ก็อย่างที่ทราบกันว่าพวกเราโตมาด้วยกัน เรียนด้วยกัน เล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาร์ตินเขาเปลี่ยนไปจากคนเดิมที่ฉันรู้จักไปตอนไหน แต่ที่แน่ๆ ก็คงจะเป็นตอนงานวันเกิดของฉันเมื่อตอนเก้าขวบละมั้ง ตอนนั้นฉันสนิทกับไคโรเพื่อนผู้ชายอีกคนพอดี ซึ่งก่อนหน้านั้นฉันจะสนิทกับมาร์ตินมากๆ คุยกับมาร์ตินตลอด แต่พองานวันเกิดฉันคุยกับไคโรมากกว่า มาร์ตินเลยออกอาการเหมือนจะไม่พอใจฉันที่ไม่ค่อยได้คุยกับเขา แล้วฉันถามหน่อยเถอะ ว่าฉันผิดตรงไหน นายนั่นมีสิทธิ์อะไรมาโกรธฉันแล้วทำเหมือนไม่พอใจฉันมาจนถึงตอนนี้ล่ะ ใช่แล้ว ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอก มาร์ตินไม่พอใจฉันนับตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้เลยละ ซึ่งพอนับระยะเวลาแล้วก็สิบกว่าปีเลยทีเดียว ซึ่งมันบ้าไหมล่ะที่เขาไม่พอใจฉันนานขนาดนี้ โคตรบ้าเลยเถอะ "พูดบ้าอะไรล่ะ ฉันก็พูดความจริง เอาจริงๆ เลยนะ แกกับมาร์ตินอะ มีอะไรกันอยู่ใช่ไหม แบบว่า...แอบชอบกันนะ" ฉันกลอกตาใส่ลูกพีชทันทีที่มันยังไม่ยอมหยุดพูดจาเพ้อเจ้อสักที ชอบเชิบอะไรกันล่ะ ใครอยากจะไปชอบคนหน้านิ่งไม่พูดไม่จาแบบนั้นกัน อีกอย่างน่ะนายนั่นโคตรขี้เก๊กเลย เก๊กตั้งแต่เด็กยันโตอะ รู้ค่ะว่าเป็นถึงลูกมาเฟียมีลูกน้อง มีคนคอยอารักขาให้ แต่ก็ช่วยยิ้มสักนิดเถอะ โลกจะได้สดใสขึ้นมาบ้าง นี่อะไรกันแค่เจอหน้ากันโลกก็หดหู่ละ "ไม่ได้ชอบ และฉันก็เกลียดหมอนั่นด้วย" "เกลียดแบบใดค่ะ ตอนจองห้องที่คอนโดของอามาร์ลินอะ แกจองชั้นบนสุด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของมาร์ตินเป็นคนแรก คนเกลียดกันเขาจะอยากอยู่ใกล้กันแบบนั้นเหรอฟ้า" เรื่องคอนโดที่ยัยลูกพีชพูดเมื่อกี้ฉันอธิบายได้นะ...ก็คือว่าคอนโดนั้นเป็นคอนโดของแม่มาร์ตินที่สร้างไว้แล้วอาเขาก็ให้พวกฉันทุกคนไปอยู่ที่นั่นกัน จะได้ไปมาหาสู่กันง่าย อีกอย่างพ่อแม่ของพวกฉันก็จะได้ไม่ต้องซื้อคอนโดใหม่ให้พวกฉันด้วย เพราะที่นั่นเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ สวยหรูมากๆ ขนาดห้องแต่ละห้องก็กว้างขวางมากๆ ด้วย แต่ชั้นบนสุดมันจะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดสองห้อง ฉันก็แค่อยากได้ห้องที่มันใหญ่อะ ก็เลยจองข้างบนก็แค่นั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องชอบหรือไม่ชอบมาร์ตินสักหน่อย ยัยลูกพีชมันก็พูดไปเรื่อย "ฉันว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันเถอะ" ใช่ ยิ่งคุยฉันก็ยิ่งปวดหัว ยิ่งคุยภาพใบหน้าและเสียงของมาร์ตินก็ยิ่งฉายชัดขึ้นมาในหัวของฉันดื้อๆ โดยเฉพาะสีหน้าของมาร์ตินในเหตุการณ์คืนนั้นที่เดินเข้ามาเห็นจังหวะที่ไคโรกำลังจะก้มลงทาบริมฝีปากบนปากของฉัน สำหรับเรื่องคืนนั้นก็คือ ตอนแรกฉันอยู่บนห้องคนเดียว แล้วจู่ๆ ไคโรก็ไลน์มาหาบอกว่าถ้าเบื่อก็ลงมาที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างได้ พวกเขานั่งดื่มกันอยู่ที่นั่น ตอนแรกฉันก็ทักไปชวนยัยลูกพีชให้ไปด้วยกันนั่นแหละ แต่ยัยนั่นบอกว่าไม่อยากเจอนักรบ ฉันที่เบื่อมากๆ เลยต้องจำยอมลงไปคนเดียว ตอนลงไปถึงที่นั่นฉันไม่เห็นใครเลยนอกจากไคโรคนเดียว ฉันที่เห็นว่าห้องมันว่างๆ ก็ไม่ได้ถามอะไรเลือกที่จะเดินไปนั่งตรงโซนบาร์ข้างๆ ไคโร ไคโรที่เห็นฉันทำหน้าเซ็งมันก็เลยยื่นแก้วเหล้าส่งมาให้ฉันดื่ม ตอนแรกฉันก็ไม่อยากดื่มหรอกเพราะดื่มไม่เป็น แต่ความเซ็งมันควบคุมระบบไปแล้ว ฉันก็เลยดื่ม แล้วประเด็นคือไม่ได้ดื่มแค่แก้วเดียวด้วยไง ฉันดื่มหลายแก้วมากจนสมองและสายตาเริ่มเบลอๆ อะ สุดท้ายก็เป็นเรื่องขึ้นมาอย่างที่มาร์ตินเดินเข้าไปเห็นนั่นแหละ "ก็ได้ งั้นก็ขึ้นไปเรียกกันค่ะ เพราะตอนนี้มันก็ใกล้ที่จะถึงเวลาที่อาจารย์จะเข้ามาสอนแล้วเหมือนกัน" พอยัยลูกพีชพูดจบ ฉันก็พยักหน้าเออออไปกับมัน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้สะพายกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ หลังจากที่พวกเราทั้งสามคนมาถึงห้องเรียนกันแล้ว พวกเราก็เลือกที่นั่งตามใจชอบและความสะดวกของตัวเอง ซึ่งโต๊ะที่พวกเราเลือกนั่งก็คือริมทางเดินนั่นเองเพราะจะได้หลบสายตาของอาจารย์ได้ ที่สำคัญจะได้ฟุบหน้ากับโต๊ะแล้วหลับอย่างปลอดภัย แต่... ไอ้โต๊ะริมสุดนะ มันดันมีคนนั่งพาดแขนกับโต๊ะแล้ววางศีรษะลงเหมือนกำลังหลับชิงก่อนฉันไปก่อนแล้วนี่สิ ซึ่งคนที่ว่าก็ดันเป็นผู้ชายซะด้วย เขาหลับแบบที่ว่าเอาเสื้อคลุมสีดำของตัวเองปิดหน้าปิดตาไว้อะ ฉันเลยไม่รู้ว่าเขาคือใคร เป็นเพื่อนจากคณะเดียวกันกับฉันหรือจากคณะอื่นหรือเปล่า เพราะว่าวิชานี้ก็เป็นวิชาเลือกเสรีด้วย จึงมีเพื่อนจากต่างคณะมาเรียนด้วยกันแบบปะปนกันไปเลย "หว่า~ ริมสุดมีคนนั่งแล้วอะ แกอดเลยยัยฟ้า" "อืม ไม่เป็นไรหรอก นั่งตรงนี้ฉันก็แอบหลับได้" "เหลือเชื่อกับแกเลยยัยฟ้า เข้าเรียนทุกคาบก็หลับทุกคาบแต่งงตรงที่สอบผ่านทุกวิชานี่แหละ" อันนี้เป็นเสียงของใบเฟิร์นที่ชะเง้อคอออกมาว่าฉัน ซึ่งยัยนั่นอยู่ข้างๆ ยัยลูกพีชที่นั่งอยู่ตรงกลาง ก็เลยต้องชะเง้อคอออกมาคุยกับฉัน แต่เรื่องที่ใบเฟิร์นบอกว่าฉันเข้าเรียนทุกคาบหลับทุกคาบแต่สอบผ่านทุกวิชานะ ยัยนั่นก็เว่อร์ไป ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นสักหน่อย ก็แค่พ่อจบวิศวะแม่จบแพทย์เฉยๆ "ขอโทษนะ ถ้าจะคุยกันก็ช่วยไปนั่งที่อื่นได้ปะ" ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มๆจากผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันพูดเสียงห้วนเหมือนจะไม่พอใจที่พวกฉันนั่งโม้กัน ฉันก็หันขวับไปมองหน้าเขาทันที เตรียมจะอ้าปากโต้ตอบกลับไปอย่างเอาเรื่อง ทว่า... O_o นี่มันนายมาร์ตินนี่!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม