หลังจากที่ทานข้าวพร้อมกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเสร็จ ทางด้านครอบครัวของมาร์ตินก็ขอตัวกลับก่อน พราวฟ้าที่เห็นว่าครอบครัวอีกฝ่ายเดินทางกลับไปแล้ว เธอก็รีบไหว้พ่อแม่ของตัวเองแล้วขอตัวกลับคอนโดทันที เพราะเรื่องนี้เธอจะเก็บไว้คนเดียวในใจให้อกแตกตายไม่ได้!
เธอต้องได้ระบาย และคนที่ได้รับความไว้วางใจให้มาเป็นผู้รับฟังเรื่องราวแสนบัดซบนี้ของเธอก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเพื่อนสนิทของเธออย่างลูกพีชเท่านั้น
@อาร์โน คอนโด
ติงหน๋อง~ ติงหน๋อง~
ฟึบ!
ผ้าห่มผืนหนาที่ใช้คลุมโปงไว้ทั้งร่างกายถูกดึงออกด้วยความรำคาญใจอย่างหงุดหงิดจากเจ้าของห้องทันทีที่ได้ยินเสียงกดออดดังขึ้นถี่ๆ มาจากหน้าห้องไม่ยอมหยุด จนมันรบกวนการนอนหลับที่แสนฝันดีในอุณหภูมิห้องยี่สิบห้าองศาของเธอจนหลับตาต่อไปไม่ได้
และตราบใดที่เธอยังไม่ยอมพาร่างกายออกจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้คนที่ยืนกดออดหน้าห้องดีๆ ละก็ ผู้อาศัยคนอื่นๆ และคนที่เป็นศัตรูคู่ปรับคู่แค้นอย่างไอ้คนที่ชื่อนักรบซึ่งอาศัยอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอได้เปิดประตูออกมาด่ากราดจนสำนึกแทบไม่ทันอีกเป็นแน่
ปึก!
"กว่าจะลากสังขารเดินมาเปิดประตูให้เพื่อนได้ นิ้วฉันกดออดแทบไหม้" ทันทีที่ประตูห้องของเพื่อนสนิทอย่างลูกพีชเปิดออกด้วยความแรงระดับหนึ่งตามอารมณ์ของเจ้าของห้อง สาวเจ้าที่ยืนหน้าหงิกอยู่ตรงหน้าห้องอย่างพราวฟ้าก็ปล่อยหมัดเป็นประโยคคำพูดออกไปทันที ก่อนจะพาร่างกายตัวเองเดินผ่านเจ้าของห้องกระแทกบั้นท้ายนั่งลงบนโซฟากลางห้องในเวลาต่อมา
ทำให้ลูกพีชที่เห็นท่าทางไม่ค่อยจะอารมณ์ดีของเพื่อนรักสักเท่าไหร่เกิดสีหน้าสงสัยขึ้นมา
"เป็นอะไรอะ หน้าบึ้งเป็นตูดลิงมาเชียวใครไปก่อกวนแกมาเหรอ ไหนเล่ามาสิ" ใบหน้าสวยแต่บึ้งตึงขยับมองหน้าเพื่อนที่กำลังเดินมานั่งบนโซฟาตัวใกล้ๆ ด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจผสมหงุดหงิดทันทีที่เพื่อนถามออกมาเช่นนั้น
เพราะมันถึงเวลาที่เธอจะได้ระบายความอัดอั้นใจที่อัดอั้นอดทนไว้ตลอดทางที่ขับรถมาถึงที่นี่สักที
"ไอ้บ้าหมาตินมันพาอาแปลนกับอามาร์ลินไปคุยเรื่องการหมั้นของฉันกับมัน"
"อ้อ เรื่องหมั้น ฉันก็นึกว่าเรื่องใหญ่โตอะไรที่ทำให้แกหน้าบูด...เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ ขออีกทีสิ" ลูกพีชทำหน้าเอะใจพร้อมกับเอ่ยถามออกไปอีกครั้งเมื่อรู้สึกตงิดใจกับบางคำของเพื่อนที่พูดออกมาแต่เธอไม่ได้ตั้งใจฟังให้ชัวร์
"มาร์ตินต้องการหมั้นกับฉัน" พราวฟ้าตอบสีหน้าเฉื่อยอย่างเหนื่อยใจอีกครั้ง
"อ้อหมั้น...หมั้น? ฮะ? หมั้น! กะแกหมายถึงมาร์ตินต้องการหมั้นกับแก ใช่ไหม?" ดวงตาสวยเบิกโพลงใหญ่กว่าไข่ห่านทันทีที่จับใจความเรื่องที่เพื่อนบอกกล่าวไว้ได้แล้ว และเหนือกว่าการเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูดออกมาก็คือท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนนั่งไม่ติดโซฟาตอนนี้ของเธอนี่แหละ
บ้าน่า มาร์ตินจะขอพราวฟ้าหมั้น มันเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ถึงเธอจะพอดูออกว่ามาร์ตินแอบเล็งยัยพราวฟ้าเพื่อนของเธออยู่ แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนนิ่ง ๆ ค่อนไปทางเย็นชาอย่างหมอนั่นจะมาขอเพื่อนเธอหมั้นแบบฟ้าแลบแปร๊บๆ แบบนั้นได้
"แกชวนมาร์ตินไปเช็กสมองเถอะเชื่อฉัน ฉันว่าหมอนั่นมันต้องล้มหัวฟาดพื้นมาแน่ๆ" ลูกพีชว่าสีหน้าจริงจัง ทำให้พราวฟ้าที่ได้ยินเพื่อนเสนอมาแบบนั้นถึงกับคิดว่า เห็นไหมขนาดยัยลูกพีชมันยังบอกว่าหมอนั่นแปลก
แต่ประเด็นก็คือ...หมอนั่นเขาไม่ได้แปลกอย่างที่ลูกพีชสงสัยไงล่ะ เพราะหมอนั่นเขาปกติดีทุกอย่าง คนสมองฟั่นเฟือนที่ไหนจะพูดชัดถ้อยชัดคำทุกคำที่ออกจากปากร้ายๆ ได้แบบนั้น
"ไม่ต้องไปเช็กหรอก เพราะหมอนั่นปกติแต่คนที่เริ่มจะไม่ปกติอะ คือฉัน ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วลูกพีช แกก็รู้ใช่ไหมว่ามาร์ตินเป็นคนยังไง ถ้าหมอนั้นได้คิดจะทำอะไรสักอย่างขึ้นมาละก็...มันต้องสำเร็จเท่านั้น แล้วน้ำหน้าอย่างฉันจะเอาอะไรไปสู้กับหมอนั่น แค่ฉันจะบอกความจริงกับแม่ว่าฉันกับมาร์ตินไม่ใช่คู่รักที่จะหมั้นกันอย่างที่แม่เข้าใจ หมอนั่นก็เล่นพูดโกหกทำการแสดงฉากใหญ่ออกไปละ" พราวฟ้าระบายเป็นคำพูดยาวเหยียดออกไปด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจขั้นสุด
เธอไม่รู้ว่าสงครามตอนนี้ระหว่างเธอกับมาร์ตินมันจะไปจบกันที่ตรงไหน สุดท้ายแล้วเธอต้องยอมหมั้นกับอีกฝ่ายจริงหรือเปล่า แล้วถ้าต้องหมั้นกันจริงๆ เธอหนีไม่พ้นจากมาร์ตินจริงๆ แล้วถึงตอนนั้นเธอจะมีความรู้สึกต่อมาร์ตินแบบไหน?
เธอจะเริ่มชอบหรือเกลียดเข้าไส้กันแน่ เฮ้อ~
"เอาเถอะน่า แกก็รอดูท่าทีมาร์ตินไปก่อน บางทีหมอนั่นอาจจะแค่ทำไปเพราะหมั่นไส้แกเฉยๆ หรือเปล่า" เห็นสีหน้าซังกะตายของเพื่อนแล้วก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจยังไงดี ลูกพีชจึงพูดปลอบแบบผ่านๆ อย่างขอไปทีแทน พร้อมกับขยับเข้าไปนั่งใกล้เพื่อนแล้วบีบไหล่ให้กำลังใจเพื่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้
เพราะอีกฝ่ายก็เป็นถึงลูกชายคนมีอิทธิพล การที่จะคิดทำอะไรสักอย่างขึ้นมาและไม่ใช่เรื่องน่าล้อเล่นก็คงจะผ่านกระบวนการคิดไตร่ตรองมาอย่างดีและถี่ถ้วนแล้วแน่ๆ ถึงได้กล้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่แบบนั้น
ที่สำคัญมาร์ตินที่พวกเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ถือว่าเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นของจริง!
เฮ้อ พราวฟ้าเพื่อนของเธอเจอของจริงแล้วละ
"ดีกว่าการนั่งทำหน้าหงิกงอแบบนี้ ฉันว่าวันนี้เราไปเที่ยวกันสักหน่อยไหม ไหนๆ ก็เป็นวันหยุดด้วยแล้ว เอาสักหน่อยไหม เริ่มที่ไปตากแอร์ในห้างก่อนแล้วดึกๆ ก็ค่อยไปนั่งดริ้งค์กันที่ผับ โอเคไหม" ลูกพีชเสนอทางออกที่จะทำให้เพื่อนที่นั่งหน้าเครียดคิ้วขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบว์รถป้ายแดงตอนนี้ให้หายกลุ้มใจด้วยการชวนออกไปเที่ยว
เนื่องจากวันนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่แล้ว ดีกว่าการนั่งทำหน้าเครียดให้ตีนกาได้เฉิดฉายบนใบหน้า เธอว่าขับรถเดินไปดูเสื้อผ้าสวยๆ แล้วตากแอร์ฉ่ำๆ นั่งกินไอศกรีมให้มีความสุขในห้างดีกว่า
"อืม ไปก็ได้"
"โอเค งั้นแกรอฉันก่อน เดี๋ยวฉันโทรชวนใบเฟิร์นแป๊บ เสร็จแล้วจะไปอาบน้ำแต่งตัวต่อ"
"อืม"
สิ้นเสียงพราวฟ้าตอบรับกลับมา ร่างบางของลูกพีชก็ยัดกายขึ้นจากโซฟาทันที ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนอนอีกครั้ง หยิบโทรศัพท์โทรชวนเพื่อนสนิทอีกคนเสร็จ เธอก็เดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำต่อ ใช้เวลาไม่นานเธอก็ออกมาแต่งหน้าแต่งตัวพร้อมออกไปเที่ยวสีหน้าแฮปปี้