บทที่7 "เริ่มสงครามหัวใจ"

1488 คำ
โอ๊ย อยากเป็นลม เธออยากเป็นลมมันตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เมื่อกี้นี้ไอ้คนตัวสูงตรงหน้าเธอเขาพูดว่ามาคุยเรื่องหมั้นกับเธอใช่ไหม ขอจูนสมองก่อนนะ คือเรื่องมันเป็นมายังไง ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้มาคุยเรื่องหมั้นหมายกับเธอล่ะ เท่าที่เธอจำได้เราไม่ได้มีพันธสัญญาอะไรตอนเด็กๆ ว่าโตมาจะต้องมาหมั้นหรือแต่งงานกันอย่างที่เธอเคยไปอ่านเจอมาในนวนิยายน้ำเน่าพวกนั้นนี่ แล้วตอนนี้มันคืออะไร จะมาหมั้นกับเธอทำไม หรือว่าที่ไอ้คนบ้ามาร์ตินเขามาคุยเรื่องหมั้นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเหรอ? เพราะไอ้เรื่องจูบและไอ้เรื่องตีตราจองที่เขาพร่ำเพ้อออกมาเมื่อวานใช่ไหม นี่เขาเล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอ "นายฟังฉันนะ ฉันจะไม่หมั้นกับนายเด็ดขาด" ใช่ เรื่องอะไรที่เธอต้องไปยอมหมั้นกับคนตรงหน้าด้วย "ไม่หมั้นกับฉันแล้วเธอจะไปหมั้นกับใคร กับไอ้ไคหรือไง" ร่างสูงว่าพร้อมค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้คนตัวเล็กกว่าตรงหน้าอย่างช้าๆ ทำให้พราวฟ้าที่ยืนทำหน้าขึงขังก่อนหน้านี้ต้องค่อยๆ ถอยหลังไปทีละก้าวอย่างช้าๆ เพราะความหวาดระแวงจากคนตรงหน้า จนสุดท้ายแผ่นหลังบางๆ ของเธอก็สัมผัสกับต้นไม้ด้านหลังหมดหนทางจะถอยหนีไปในที่สุด มาร์ตินที่เห็นว่าพราวฟ้าหมดหนทางที่จะถอยหลังหนีแล้วจึงเอามือออกจากกระเป๋ากางเกงทาบลงบนลำต้นของต้นไม้ขนาดใหญ่ข้างหลังของพราวฟ้าไว้ราวกับว่ากำลังกักขังคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนอยู่กลายๆ ก่อนจะยกยิ้มอย่างร้ายๆ ขึ้นตรงมุมปากให้เห็นในเวลาต่อมา "เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ว่าไง ถ้าไม่หมั้นกับฉันแล้วเธอจะไปหมั้นกับใคร" คนตัวสูงเอ่ยถามต่อ ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างจากใบหน้าสวยของพราวฟ้าไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ทำให้ลมหายใจอุ่นๆ จากคนตรงหน้าเป่ารดลงมาบนแก้มของเธอเบาๆ สร้างความสยิวและปั่นป่วนบริเวณท้องน้อยของเธอชะมัด แต่ครั้นจะให้ผลักไอ้คนตัวสูงออกไปไกลๆ มือไม้ของเธอก็ดันไม่มีแรงจะยกมือกระทำอย่างที่คิดไว้ซะงั้น เฮ้อ~ นี่เธอโดนควบคุมร่างกายผ่านกระแสจิตหรือไงกัน "ฉันจะไม่หมั้นกับใครทั้งนั้นแหละ" พราวฟ้าตอบเสียงกึ่งหงุดหงิดออกไป "โกหก ที่เธอไม่อยากหมั้นกับฉัน เพราะเธออยากรอหมั้นกับไอ้ไคไง" เหอะ ตาคนบ้านี่ เขาเอาอะไรมาพูดว่าเธอต้องการรอหมั้นกับไคโร เธอไม่เคยคิดที่อยากจะหมั้นกับไคโร และไม่เคยคิดไม่ซื่อกับไคโรด้วย เรื่องคืนนั้นที่เขาเห็นว่าเธอกับไคโรกำลังจะจูบกัน มันก็เป็นเพราะว่าเธอเมาต่างหาก ก็เลยไม่ได้ยับยั้งอารมณ์ตัวเองที่แอบเผลอไปกับบรรยากาศ ณ ตอนนั้น เรื่องมันก็มีอยู่แค่นั้น "ฉันไม่ได้อยากหมั้นกับไค แล้วก็ไม่ได้คิดจะรอหมั้นเหมือนที่นายกำลังกล่าวหาด้วย นี่ ฉันขอเถอะนายหยุดบ้าสักทีได้ไหม แล้วก็ช่วยไปยกเลิกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของฉันด้วย" "ฉันไม่ยกเลิก ฉันจะหมั้นกับเธอและเธอก็ต้องหมั้นกับฉันด้วย" "นายจะบ้าเหรอ" "ไม่บ้าหรอก เพราะฉันต้องการหมั้นกับเธอจริงๆ" "ยังไงก็ไม่!" พราวฟ้าถลึงตาตอบเสียงแข็งพร้อมกับจ้องนัยน์ตาของคนตรงหน้าอย่างไม่ยอมแพ้กลับไป ทำให้มาร์ตินที่จ้องตาพราวฟ้าอยู่แค่นเสียงในลำคอออกมาเบาๆ กับความพยศโอหังของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาอย่างแข็งกร้าว ช่างสะกิดต่อมความน่าหงุดหงิดและน่ารำคาญของเขาได้ดีเลยทีเดียว และใช่ เขาเริ่มจะหมดความอดทนแล้วสิ การกระทำในเวลาต่อมาที่จะระบายความรำคาญออกไปจากใจได้ก็คือ บดจูบริมฝีปากสีแดงระเรื่อของคนตรงหน้าให้หายพยศไปซะ คิดได้ดังนั้นเขาก็ไม่รอช้าโน้มใบหน้าลงไปหาริมฝีปากอวดดีของพราวฟ้าทันที "อื้ออออ" หลังจากที่โดนริมฝีปากร้ายของคนตรงหน้าจู่โจมลงมาโดยไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับบดจูบริมฝีปากของเธอได้อย่างรุนแรงและป่าเถื่อนแล้วนั้น พราวฟ้าก็พยายามเปล่งเสียงร้องท้วงติงพร้อมกับพยายามผลักหน้าอกของอีกฝ่ายออกทันที แต่พยายามผลักออกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลสักที เพราะคนที่กำลังจูบเธอเขาใช้แรงกดหัวไหล่ของเธอเข้ากับต้นไม้จนยากที่เธอจะดันตัวออกไปได้ สุดท้ายเธอเลยปล่อยให้เขาจูบจนพอใจแทน เวลาผ่านไปไม่นานเขาจึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่งออกไป แล้วพอถอนจูบเสร็จเขาก็เบือนหน้าหันไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของเธอ เหอะ ไอ้คนเฮงซวย และใช่ เธอทนอยู่เห็นหน้าไอ้คนบ้าตรงหน้าไม่ไหวจึงเตรียมจะก้าวขาเดินออกมาจากตรงนั้น แต่... หมับ! "หมั้นกับฉันซะ" ทันทีที่ได้ยินประโยคที่มาร์ตินกล่าวออกมาหน้านิ่ง พราวฟ้าที่มองตาขวางอยู่ก่อนแล้วจึงสะบัดมือออกทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางหงุดหงิดและโมโหจนเก็บอาการทางสีหน้าไม่อยู่ "อ้าวฟ้า แม่กำลังจะไปตามให้มาทานข้าวด้วยกันอยู่พอดีเลย...อาแปลนกับอามาร์ลินเขามาทาบถามเรื่องการหมั้นของเรากับมาร์ตินนะ รู้อยู่แล้วใช่ไหม แม่ไม่ยักรู้นะว่าลูกกับมาร์ตินจะแอบคบกันอยู่ เห็นก่อนหน้านี้ทำท่าเหมือนไม่ชอบขี้หน้ากัน" สวยมารดาของพราวฟ้าว่าด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนโยนต่อลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งคู่แอบไปคบกันจนพามาถึงจุดที่อยากหมั้นหมายกันอย่างตอนนี้ "แม่ฟังฟ้านะ คือฟ้ากับมาร์ติน..." สึบ! "เรารักกันมากครับคุณอา เป็นความรักเงียบๆ แบบผู้ใหญ่คบกันอะครับ ก็เลยไม่ได้หวือหวาอะไร" ไม่ทันที่พราวฟ้าจะได้พูดจบ มาร์ตินที่เพิ่งเดินกลับมาจากสวนหลังบ้านได้ยินพราวฟ้ากำลังจะตอบปฏิเสธเรื่องที่เขาสร้างขึ้นมาพอดี จึงรีบเดินเข้าไปโอบเอวบางแล้วรีบพูดแทรกออกไปอย่างทันท่วงที ทำให้พราวฟ้าที่โดนพูดแทรกขึ้นมาเงยหน้ามองคนมาใหม่อย่างงงงวยกับประโยคโกหกทั้งเพที่พูดออกไปก่อนหน้านี้ มาร์ตินที่สัมผัสได้ว่าถูกจ้องอยู่จึงขยับใบหน้ามองกลับไปบ้างก่อนจะยิ้มหวานแสดงออกไป ทำให้พราวฟ้าที่เห็นรอยยิ้มอาบยาพิษนั่นถึงกับแยกเขี้ยวยิ้มเจื่อนกลับไป "ทำบ้าอะไรของนาย" ตามด้วยกระซิบถามน้ำเสียงลอดไรฟันให้ได้ยินกันแค่สองคน "ขัดขวางเธอไง" มาร์ตินตอบเสียงทุ้มลอยหน้าลอยตาอย่างไม่ยี่หระก่อนจะหลุบตามองกลับอย่างผู้ชนะในเวลาต่อมา "หึ ถ้าสงครามมันยังไม่จบก็อย่าเพิ่งนับศพสิ" พราวฟ้าว่าต่อ "จะเอางั้นก็ได้ ฉันก็เริ่มรู้สึกสนุกแล้วสิที่เห็นเธออยากทำสงครามกับฉันแบบนี้" เสียงทุ้มสวนกลับหน้าตานิ่ง ขณะที่สายตาก็ประสานกันนิ่งกับพราวฟ้าโดยที่ไม่มีใครยอมหลบให้ใครก่อน จ้องตากันราวกับว่าต้องการให้ประกายไฟจากดวงตาจุดประกายออกมาให้ได้ ทำให้บุคคลที่สามอย่างสวยมารดาของพราวฟ้าที่เห็นท่าทางของลูกและว่าที่คู่หมั้นที่กำลังเชือดเฉือนกันทางสายตาถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ เพราะภาพเหตุการณ์ที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้มันชักเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าทั้งคู่รักกันแบบไหนกันแน่ ทำไมต้องจ้องตากันราวกับว่าต้องการฟาดฟันกันให้ได้แบบนั้น "อะเอ่อ แม่ไม่ทราบหรอกนะว่าลูกทั้งสองคนกำลังหยอกอะไรกันถึงได้จ้องตากันเหมือนจะก่อสงครามกันให้ได้แบบนั้น แต่แม่ว่าเราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่านะลูก ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานมันจะไม่ดี" "ครับ" เป็นมาร์ตินที่ยอมละสายตาจากดวงตาสวยตรงหน้าแล้วหันไปตอบผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันกลับไปพยักหน้าสั่งคนข้างกายให้เดินตามไปนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม